วันนี้เพิ่งกลับมาจากประชุมที่สุพรรณ ก็เลยเล่าให้ลูกสาวฟังว่าแม่ไปแวะร้านหนังสือมาเจอหนังสือเล่มนึง..ชื่อ"ครอบครัวติ๋งหนืด" มีเรื่องเกี่ยวกับวิธีประหยัดเยอะแยะเลย ถ้ากอหญ้าอ่านนะต้องชอบแน่เลย แล้วก็ประหยัดได้อีกเยอะเลย...คุณลูกสาวเงยหน้าจากการบ้านเลย "แล้วแม่ทำไมไม่ซื้อมาล่ะ ".แม่ก็กลัวเดี๋ยวไม่ชอบจะพาไปเลือกเองที่เราก็มีขาย...งั้นแม่ไปกับพ่อเลย ดูซิพี่ท่านจะให้ไปซื้อเดี๋ยวนี้เลยแต่ตัวเองไม่ว่างไป เลยมีการอยู่คนเดียวได้ซะด้วย...
เลยนึกสยองขวัญเลยเธอถ้าจะติ๋งหนืดจริงๆซะแล้ว ไม่ใช่เล่นๆ เพราะทุกวันนี้ เธอก็จะประมาณ...
ไฟดวงไหนไม่ใช้ให้ปิด
ปิดโทรทัศน์ห้ามมีไฟแดงค้าง..ต้องปิดสวิสต์ห้ามใช้รีโมท
เวลาปิดเครื่องทำน้ำอุ่น ต้องหมุนปิดลดระดับความร้อนก่อน แล้วปิดน้ำ เพราะเธอกลัวเครื่องจะเสียเร็ว แล้วต้องเปลืองเงินไปซื้อเครื่องใหม่
จะเปิดแอร์ทีก็ต้องอากาศร้อนจริงๆ
เสื้อกันหนาวเธอก็ใช้ตัวเดียว จะซื้อให้ใหม่ก็ไม่เอา แม่ก็พยายามอยากให้ซื้อ เพราะเสื้อเด็กๆจะน่ารัก แม่มันอยากสนองความอยากของตัวเองแต่ลูกไม่ยอมตามด้วยเลยคะ
ขนาด กกน.ตัวเก่าที่เอวยานแล้วเธอยังไม่ยอมทิ้งเลยคะ เก็บมาเปลี่ยนยางอีก ก็คิดดูเถอะคะพวกเพื่อนๆที่ทำงานมาบ้านเจอแม่มันเปลี่ยนยางอยู่ยังเอาไปนินทาให้อับอาย หาว่าแม่มันงก..."พี่กบกางเกงในตัวไม่กี่บาท เปลี่ยนให้ลูกใหม่ได้แล้ว" หารู้ไม่ความจริงก็อย่างที่เห็นนั่นล่ะ อ้าว!
กางเกงก็ใส่ได้ทุกตัวเก่าใหม่ไม่มีปัญหา บางตัวก็แม่มันนั่นล่ะเก็บเศษผ้าที่เหลือของยายมาต่อเป็น 4 สี่ 4 ด้านให้ใส่เธอก็ชอบอีก เก๋ไม่เหมือนใครดี...เอาให้ญาติเวทนาและบ่นแม่มันต่อไป
ไปซื้อของแต่ละอย่าง เธอจะเลือกนานมากเปรียบเทียบราคา กับความอยากอยู่นั่นล่ะ หลายครั้งที่ต้องบอกหยิบมาเหอะ จะได้ไปต่อซักที..แต่เธอก็ยังขอตัดสินใจอีกหน่อย
ล่าสุดนี้ก็เรื่องดินสอสี พ่อแม่เพิ่งจะเห็นว่าสีสั้นกุดเหลือประมาณซักเซนครึ่ง (1.5 ซม.)ก็บอกทิ้งไปเถอะลูกเดี๋ยวซื้อใหม่ ก็ไม่ยอมคะ เขาบอกว่า ยังใช้ได้อยู่แล้วมีการจับโชว์ซะด้วย
เหตุทั้งหมดก็ไม่ได้เกิดตั้งแต่ปฏิสนธิหรอกนะคะ คือก็สอนลูกให้ประหยัดตามแบบของพ่อแม่ทั่วๆไปล่ะคะ คืออะไรทำเองได้ก็ทำ อะไรไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อ แต่ไม่นึกว่าจะซึมซับเข้ากระแสเลือดลูกขนาดนี้คะ สุดยอดจริงๆเลยลูกสาวเรา...ก็พยายามสอนให้แบ่งปันแล้วก็ไม่ให้ไปเอาเปรียบใครนะคะ เพราะกลัวเดี๋ยวอีกหน่อยเพื่อนจะไม่คบซะ ก็ใช้ได้คะ