ร่างพระราชบัญญัติองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ....
เป็นร่างพระราชบัญญัติที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้แยกออกจากร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค โดยปรับปรุงจากร่างพระราชบัญญัติองค์การอิสระผู้บริโภค พ.ศ. .... ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
เหตุผลในการตราพระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค โดยให้มีองค์การเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคที่เป็นอิสระจากหน่วยงานของรัฐ และเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๖๑ โดยให้ประชาชนในฐานะผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการทำหน้าที่ให้ความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาของหน่วยงานของรัฐในการตราและการบังคับใช้กฎหมายและกฎ และให้ความเห็นในการกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค รวมทั้งตรวจสอบและรายงานการกระทำหรือละเลยการกระทำอันเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์) ได้ให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติฯ ดังกล่าว ตามที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้เสนอเมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๐ และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้ส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบและดำเนินการต่อไปเมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๐ ขณะนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
และเมื่อวันอังคารที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
ร่างพระราชบัญญัติองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. .... มีสาระสำคัญดังต่อไปนี้
๑. กำหนดให้มีคณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค รวมทั้งกำหนดองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการดังกล่าว
๒. กำหนดให้มีสำนักงานคณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นหน่วยงานของรัฐมีฐานะเป็นนิติบุคคลและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการ มีหน้าที่รับผิดชอบงานธุรการ งานประชุม การศึกษาข้อมูล และกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับงานของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ อีกทั้งกำหนดให้กิจการของสำนักงานไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม และกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน
๓. ให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคดำเนินการให้มีการเลือกคณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
๔. กำหนดให้สำนักงานเสนองบประมาณรายจ่ายตามมติของคณะกรรมการต่อคณะรัฐมนตรี ไว้ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีหรืองบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม แล้วแต่กรณี
๕. กำหนดเกี่ยวกับที่มาของรายได้และทรัพย์สินของสำนักงานและกำหนดให้รายได้ของสำนักงานเป็นรายได้ที่ไม่ต้องนำส่งกระทรวงการคลัง อีกทั้งให้ทรัพย์สินของสำนักงานเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวนี้สามารถดูได้ที่ http://www.lawamendment.go.th/thaigov/
สำหรับร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญดังต่อไปนี้
๑. แก้ไขเพิ่มเติมอำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (ไกล่เกลี่ยหรือประนีประนอมข้อพิพาท) (ให้ผู้ประกอบธุรกิจจัดเก็บหรือเรียกคืนสินค้า)
๒. กำหนดให้สมาคมหรือมูลนิธิที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภครับรองมีสิทธิฟ้องคดีแพ่ง คดีอาญา และอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ ในคดีที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคโดยส่วนรวมได้ตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด และให้สมาคมและมูลนิธิได้รับยกเว้นค่าฤชาธรรมเนียมในการดำเนินคดีในศาล
๓. แก้ไขเพิ่มเติมบทกำหนดโทษผู้ประกอบการธุรกิจที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับสินค้าที่อาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค และผู้เจตนาทุจริต ใช้ จ้างวาน ยุยง หรือดำเนินการให้สมาคมหรือมูลนิธิฟ้องร้องต่อศาลเพื่อกลั่นแกล้งผู้ประกอบธุรกิจคนใดให้ได้รับความเสียหายเกี่ยวกับการบริการที่อาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค
ไม่มีความเห็น