นักเรียนช่าง...ฟ้าผ่าน่าสงสัย


ฟ้าผ่าเเปรี้ยง ๆ เสียงยังกับฟ้าถล่ม

 

 

 

                         

 

                    วันนี้...ท้องฟ้ามืดครึ้ม...ลมพัดแรง...อากาศเริ่มเย็นลง...กิ่งต้นมะขามหน้าบ้านโยกเล่นลมทั้งวัน...ส่วนต้นยางในป่ายางข้างทางรถไฟฝั่งโน้นไม่ต้องพูดถึง...โยกไปมาเสียงดังลั่นเหมือนมีการเชียร์กีฬาแถวบ้านเรา... ฤดูฝนบ้านเราคงกำลังเริ่มมาแล้วล่ะ...

                   เมื่อย่างเข้าสู่หน้าฝน...บ้านเราก็สับสนวุ่นวายกันพักใหญ่...ต้องเตรียมตรวจสอบหลังคาบ้าน และหลังคารถเข็นขายขนมของแม่...ต้องคลี่ผ้าใบออกมาตรวจสอบความแข็งแรง เพราะต่อไปนี้จะต้องเป็นหน้าที่ของผ้าใบที่จะต้องล้อลมกันฝนให้แม่และลูกค้า..เป็นเวลานานหลายเดือนกว่าจะหมดฤดูฝน

                  ตรวจสอบหลังคารถเข็นพร้อมผ้าใบให้แม่ และหลังคาบ้านเราซึ่งเป็นหลังคาสังกะสีเสร็จแล้ว อาบน้ำแต่งตัวทำงานของเราต่อ วันนี้มีเตารีดไฟฟ้า 2 ตัว และวิทยุ 1 เครื่อง มีลูกค้ามารับโทรทัศน์ที่ซ่อมเสร็จตั้งแต่เมื่อวาน...

                 ซ่อมเตารีดไฟฟ้าทั้งสองตัว จากอาการไม่ร้อนเนื่องจากแผ่นความร้อนขาด ส่วนวิทยุก็เปลี่ยน IF Transformer ของภาครับไป 1 ตัว จากอาการเครื่องรับสัญญาณไม่ได้ และแกนปรับโดนปรับจนแตกหมด เปลี่ยนเสร็จปรับแต่งการรับสัญญาณให้สามารถรับสัญญาณได้ เป็นอันเสร็จงานวันนี้

                  แม่ออกไปขายขนม พ่อออกไปขายไอศกรีม  วันนี้ไอศกรีมของพ่อคงขายไม่ค่อยดีแน่เพราะอากาศเย็นทั้งวัน

                 4 โมงเย็น โรงเรียนใกล้เลิกแล้ว เข้าครัวหุงข้าวทำกับข้าวที่แม่เตรียมไว้ให้ตั้งแต่เช้า น้องกลับจากโรงเรียนคงหิวจะได้กิน

                 ทำกับข้าวหุงข้าวเสร็จแล้ว น้องยังไม่กลับจากโรงเรียน ฟ้าเริ่มมืดซึ่งเร็วกว่าปกติ ลมยังพัดแรงเหมือนเดิม เรานั่งรอน้องอยู่ที่โต๊ะทำงาน

                 น้องกลับมาแล้ว ให้ไปอาบน้ำ แล้วมากินข้าว ส่วนเรากับน้องสาวคนรองก็เริ่มลงมือช่วยกันล้างหม้อ กระทะ จาน อุปกรณ์ทำขนมที่พ่อและแม่ทำขนมแล้วกองเอาไว้  จนเสร็จก็ค่ำพอดี

                 พ่อกลับมาจากขายไอศกรีม เก็บของเข้าบ้าน อาบน้ำกินข้าว ส่วนแม่ยังขายอยู่และจะกลับเข้าบ้านประมาณ 3 ทุ่ม เหตุการณ์บ้านเราตอนนั้นเป็นช่วงสงบเรียบร้อยไม่น่ากลัว ลูกค้าก็เยอะในช่วงกลางคืน ส่วนน้องสาวคนรองเอาอาหารเย็นไปให้แม่ที่ตลาด ขายขนมแทนแม่ผลัดให้แม่กินข้าว

                3 ทุ่ม... เราออกไปรับแม่กลับบ้าน  ช่วยกันเข็นรถขนมกลับ ถึงบ้านก็ช่วยกันเก็บข้าวของเข้าบ้าน เสร็จแม่ก็ไปอาบน้ำ

               เรานั่งคุยกันที่กลางบ้าน ครู่ใหญ่จึงแยกย้ายกันไปนอน เสียงลมยังพัดอยู่ นอนไม่ทันหลับเราก็ได้ยินเสียงฟ้าผ่าเปรี้ยง ๆ เสียงดังยังกับฟ้าจะถล่ม บ้านสะเทือนเป็นเวลานาน จึงได้ยินเสียงฝนตกกราวแรก...อืม...ฤดูฝนบ้านเรามาถึงแล้ว ...

                                                                               สวัสดีครับ

หมายเลขบันทึก: 152695เขียนเมื่อ 10 ธันวาคม 2007 22:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:55 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

- หลายวันทำงานมากกลับถึงบ้านเพลียจัดรีบพักผ่อน

- วันนี้มีเวลาแวะมาอ่านทุกบันทึกนายช่างใหญ่ มีความสุข ที่ได้มีโอกาสร่วมรำลึกวันคืนเก่าๆ ภาพเก่าที่ดีงาม...ลูกหลานรุ่นใหม่น่านำเป็นเยี่ยงอย่างนะคะ...

- ชอบบันทึกเกี่ยวกันครอบครัว...ครูหล้าก็ประทับใจในตัวพ่อเช่นกัน...แม้ท่านจะจากไปเป็นเวลานานมาก ๔๗ ปีแล้วค่ะแต่ภาพท่านก็ยังอยู่ในใจเสมอ...

สวัสดีครับครูหล้า

          ครูหล้าหายไปหลายวันผมก็เป็นห่วงอยู่ครับ

          ขอบพระคุณครับที่แวะอ่านบันทึกผม เขียนบันทึกไว้เผื่อใครได้อ่าน พอที่จะกระตุกได้บ้าง เพราะลูกหลานทุกวันนี้ มีความคิดเป็นอิสระมาก ไม่ค่อยมีประวัติศาสตร์เป็นของตัวเอง คิดถึงแต่ความสะดวกสบายของตัวเอง พ่อแม่พี่ป้าน้าอาเป็นอย่างไรไม่ค่อยศึกษา ถือเป็นเรื่องคร่ำครึ...ก็ช่วย ๆ กันประคองครับ

         ความผูกพันในครอบครัวเราค่อนข้างเยอะครับ เพราะเรามาอยู่ต่างถิ่นที่ไม่มีญาติแม้แต่คนเดียว จึงต้องรักกันมาก ๆ ครับ

         ขอให้ครูหล้ารักษาสุขภาพด้วยครับ หาเวลาออกกำลังกายเล็ก ๆ น้อย ๆ ครั้งละ ๔-๕ นาที จะดีขึ้นครับ

                                          สวัสดีครับผม 

สวัสดีคะ นายช่างใหญ่

ย้อนอดีตวันฟ้าคะนอง...

สมัยเป็นเด็ก ห้องครัวฝ้ามักมีน้ำซึมเวลาฝนตกแรงๆ ก็ต้องช่วยกันสี่คนพ่อแม่ลูก เอาถ้วยชามรามไหมาเรียงรองหยดน้ำ ถ้าฟ้าผ่าหนักๆ บ้านสะเทือน ลูกสองคนที่ปกติไม่ค่อยชอบนอนเบียดกับใคร ก็ต้องตะกายข้ามห้องไปนอนเบียดกับพ่อแม่ เพราะเกรงเสียงฟ้าผ่าจนนอนไม่หลับถ้าไม่มีใครนอนประกบสองข้างให้อุ่นใจ 

แม้เวลาผ่านมาหลายสิบปี แต่เดี๋ยวนี้เวลาฟ้าร้องฟ้าผ่า ก็กลายเป็นเหตุการณ์แก้เขินหาเหตุอ้อนแม่พ่อบ้าง ด้วยถือโอกาสที่มีไม่บ่อยไปซุกเบียดกัน...อุ่นใจ...

---^.^---

สวัสดีครับหนูพิมพ์

              เหมือนเป็นนิยายเรื่องเดียวกันเลยครับ...แต่บ้านผมเป็นสังกะสีไม่มีฝ้าครับ...ราคา ๑ หมื่นบาท เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๐๗ ครับ...คุ้มฝนได้ถึงสามสิบปี ...ถึงได้รื้อสร้างใหม่...สร้างเสร็จเจ้าของบ้านก็ไม่ยอมอยู่ไปกันหมดเลย...น้องสาวผมเลยต้องอยู่กับหลานสองคนครับ

                                              ขอบคุณครับ

  • ธุ ท่านนายช่างใหญ่ ค่ะ..

เมื่อวานต้อมก็เพิ่งซ่อมเตารีดไป  สงสัยจะซ่อมเป็นอยู่อย่างเดียวนี่ล่ะค่ะ   อย่างอื่นน่ะก็คืนครูไปหมดแร่ะ

เวลาฝนตก  ฟ้าร้อง  แล้วมีพ่ออยู่ใกล้ๆ ต้อมจะรู้สึกอุ่นใจ   เมื่อไม่มีพ่อเสียแล้วก็ใจหายอย่างบอกไม่ถูกค่ะ

http://gotoknow.org/blog/naepalee/135431

สวัสดีครับคุณต้อม

                   แสดงว่ายังมีเชิงช่างอยู่...ยังไงก็อย่าปล่อยเกียร์ว่างจนหมดนะครับ...ให้เข้าเกียร์ลองวิ่งบ้างนะครับ...ในสวนหลังบ้านก็ยังดี...

                  ครับ...พ่อคือฮีโร่ของเราครับ...

                                              ขอบคุณมากครับ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท