บันทึก(เสีย)ลับจากดงหลวง 3


การพัฒนาแบบมุ่งชี้วัดตัวเลขผลผลิต

      <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">บันทึก ( เสีย ) ลับจากดงหลวง 3 </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">                19:10 น.  นาฬิกาที่แผงหน้าปัดภายในรถยนต์แจ้งตัวเลขบอกเวลา     .....มืดสนิท .....ก่อนหน้านี้สหายโน้ตได้สอบถามเส้นทางได้เป็นที่แน่ชัดพอสมควรว่ามาตามเส้นทางนี้  ผมสบายใจมากขึ้น  เราเดินทางอยู่บนทางลาดยางไม่กว้างนักมีหลุมร่องรอยการชำรุดของถนนบ้างเล็กน้อย  การเดินทางในเขตอีสานปัจจุบันนี้ไม่ลำบากอย่างที่ในอดีต  แม้การพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานของรัฐบาลไทยจะพบอุปสรรคในเรื่องคุณภาพของงานจากเหล่าบรรดาเหลือบริ้นในวงการเมืองที่ร่วมมือกับข้าราชการขี้ฉ้อจำนวนหนึ่ง   แต่หากมองในด้านจำนวผลงานก็ยังนับได้ว่ามีการเจริญรุดหน้าไปได้</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">                 <div style="text-align: center"></div></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">                      </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">                     ทางแยกผ่านเมื่อกี้นี้มีป้ายบอกไปอ่างห้วยไผ่นะ  สหายโน้ตพูดขึ้น  ผมหยุดรถถอยหลังกลับไปดูทันที  เป็นป้ายบอกไปอ่างห้วยไผ่จริง ๆ แถวนี้ก็น่าจะมีอ่างห้วยไผ่อ่างเดียวกันนี่มั้ง ป้ายแจ้งระยะทาง 6 กิโลเมตรกว่า ๆ อืม...ใกล้เคียงกับตัวเลข 4 กม. ของข้อมูลที่ได้รับการเอื้อเฟื้อจากพี่บางทรายที่ส่งขึ้นทางเครือข่ายสื่อสาร   ผมคิดในใจ  หรือว่าพี่บางทรายจะบอกตัวเลขไม่ตรง ??!</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">                ไม่รู้ว่าผมกับเพื่อนตัดสินใจโดยข้อมูลแบบไหนกัน  แต่ป้ายที่ติดตั้งไว้โดยหน่วยงานของทางราชการคงไม่หลอกเราเป็นแน่ ทั้งที่เอะใจว่าหากเป็นทางแยกเข้าพื้นที่เป้าหมายจริง ๆ ทำไมไม่มีสัญลักษณ์หรือป้ายแสดงข้อความใด ๆ ที่จะบอกให้รู้ว่า เราใกล้ถึงที่หมาย    แต่ที่เรารู้สึกตรงกันคือระยะทางลูกรังอีก 6 กม.กว่า ๆ กับร่างกายที่เรียกร้องอาหารในขณะนี้ ไม่ว่าจะทางไหน ยังไงก็ต้องถึงพื้นที่เป้าหมายให้เร็วจะดีกว่าการลังเลใด ๆ </p><p>                19: 35 น.  ผมกับสหายโน้ตอยู่บนรถยนต์ที่คล้ายคืบคลานไปได้บนถนนลูกรังมีหลุมบ่อและบางช่วงเป็นร่องลึกที่เกิดจากการไหลผ่านของน้ำท่ามกลางพื้นที่ราบสูง สภาพโดยรอบที่แสงไฟหน้ารถสาดไปถึงได้บอกให้รู้ว่า  ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรมประเภทพืชไร่ อาจเป็นไร่อ้อย หรือมันสำปะหลัง คงกินพื้นที่บริเวณนี้กว้างขวาง เพราะไม่เห็นหมู่บ้านและพื้นที่ที่เป็นป่าไม้  นี่กระมังสาเหตุที่โครงการของพี่บางทรายต้องเข้ามาฟื้นฟูสภาพเสื่อมโทรมของที่นี่   ในครั้งแรกที่ได้ทราบรายละเอียดภาระกิจโครงการของพี่บางทรายผมเองยังมีคำถามสำคัญในใจคิดจะมาสอบถามด้วยตนเองว่าที่ดงหลวงมีการเสื่อมโทรมจนต้องมีโครงการฟื้นฟูที่หลากหลายถึงเพียงนี้หรือ  แต่เพียงเห็นสภาพโดยรอบแค่แสงไฟหน้ารถผมก็พอจะประติดประต่อความเป็นไปทั้งหลายได้แล้วว่าการบุกรุกของระบบเกษตรเชิงเดี่ยวและการตลาดเสรีนิยมที่ผสมกับนโยบายการพัฒนาของรัฐบาลแบบมุ่งเน้นที่การเจริญเติบโตทางการผลิต เป้าหมายตัวเลขมวลรวมนี่เองที่ทำให้สภาพป่าดงหลวงแห่งเทือกเขาภูพานต้องมีอันเป็นไปถึงเพียงนี้   เราคงจะขุดค้นแผ่นดินค้นหาสิ่งที่ตอบสนองความสะดวกสบายและขายได้อย่างไม่สิ้นสุด  เหมือนอย่างไม่กี่วันที่ผมได้รับรู้การสำรวจค้นหาแหล่งน้ำมันในประเทศไทยโดย ปตท.บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของไทยที่ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่เป็นคนรวยและเอากำไรไปสร้างอาณาจักรความร่ำรวยให้แก่โคตรตระกูล และทิ้งภาระการจ่ายเงินค่าพลังงานให้คนไทยทั้งประเทศ               </p><p>                      เวลาใกล้สองทุ่มเข้าไปทุกที  เราสองคนหิวใจสั่น ผสมกับความหวาดหวั่นอาจถึงขั้นกลัวเพราะทั้งสองคนเงียบกริบไม่มีหัวข้อสนทนาใด ๆ ผมไม่เห็นกลุ่มแสงไฟที่จะพอบอกได้ว่าเป็นที่อยู่อาศัยของผู้คน   ไม่เห็นความหวังที่ได้พบกลุ่มเพื่อน ๆ ที่นัดหมายไว้  สหายแจ๊คที่นาแกก็อาจจะไม่ได้พบกันแน่หากเขาตัดสินใจไม่ค้นหาอ่างเก็บน้ำห้วยไผ่   ก็ท่ามกลางความมืดและเปลี่ยวร้างขนาดนี้.........</p>

หมายเลขบันทึก: 152362เขียนเมื่อ 9 ธันวาคม 2007 12:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (23)
  • น้องมิตรค่ะ

คืนที่พี่เดินทางไปอ่างห้วยไผ่ก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับน้องเดินทางมาถึง พี่ติดต่อพี่บางทรายได้ก่อนที่สัญญาณโทรศัพท์จะขาดหาย  พี่บางทรายขับรถลงมารับที่เขาวงแล้วพี่ขับรถตาม พี่ยังคิดตลอดทางว่าถ้าพี่บางทรายไม่ลงไปรับพี่จะมาถูกหรือเปล่า เพราะมีแต่ความมืดและเปลี่ยวร้างอย่างที่สุด ..

สบายดีนะค่ะ

 

 

สวัสดีครับ อ.หมูที่คิดถึง

           ยังเล่าเรื่องดงหลวงไม่จบเลยครับ ตั้งใจจะบันทึกเรื่องราวร่วมสมัยให้สมบูรณ์ เวลาผ่านไปเร็วนะครับ

           ผมติดภาระกิจหลายอย่างเหมือนกันช่วงนี้  ดีใจที่ อ.หมูเข้ามาทักทายครับ

           อ.หมูมาจากมุกดาหารหรือครับทำไมมาทางเขาวง 

          ใช่ครับในคืนเดินทางที่รอบตัวไม่คุ้นเคยขนาดนั้นบวกกับเรื่องเล่าในทางแปลกแยกของถิ่นนั้น  ทำเอาผมกลัวจับใจ  แล้วดีใจมาก ๆ ที่ไปถึงกลุ่มพวกพี่ ๆ ได้ในคืนนั้น  โฮ่,,,โล่งใจจริงๆ ครับ

             ขอบคุณครับพี่ อาจารย์หมู

  • อ้าวน้องมิตรช่วยลบความเห็นอันแรกออกด้วยนะคะ
  • เมื่อวานก็เป็นแบบนี้ ข้อความไม่ยักขึ้น
  • เน็ต ติดๆหลุดๆมา 2 วันแล้ว
  • แวะมาขอบคุณและตามมาอ่านบันทึกลับ
  • ที่ไม่ใช่บันทึกรัก ได้มุมมองใหม่ แถมน่ากลัวน้อยกว่าเรื่องเล่าของพี่หมูจิ๊ดเดียว
  • น้องมิตรค่ะ

คืนนั้นพี่หลงทางขับไปเส้นกุสินารายไปเขาวง บรรยากาศมืดและเปลี่ยวม๊าก ๆ  อดคิดไม่ได้ว่าเราผ่านเส้นทางนั้นได้อย่างไรนี่ ..

  • น้องอ็อดขา

รอท่านพี่บางทรายกลับไปทำโครงการที่ดงหลวงอีกครั้ง แล้วเราไปเที่ยวดงหลวงใหม่นะค่ะ

สวัสดีค่ะคุณหมอ

  • ครูอ้อย...เข้ามาทักทายคุณหมอ...ดีใจไหมเอ่ย
  • เขียนบันทึกได้ตื่นเต้นจัง...เหมือนพนมเทียนเลยค่ะ

แล้วจะมาอ่านอีกนะคะ..คิดถึงค่ะ

 สวัสดีครับน้อง mr. สุมิตรชัย คำเขาแดง

  • ส่วนผมเดินทางสบายๆ  มีหลงตามสี่แยกนิดหน่อย เพราะมัวแต่เฮฮากันบนรถ เลยลืมช่วยครูเสือดูทาง
  • โชคยังดีมีหลายสิบตาและเดินทางกลางวัน เลยไม่มีการหลงทางไปไกล  แต่กลับหลงเสียงนางที่นั่งมาด้วยหลายนาง ..อิอิ
  • ตามมาเก็บเรื่องราวดงหลวงครับ
  • ตวันหลงที่ยาวนาน เรื่องราวที่อยู่ในความทรงจำ
  • ประวัติศาสตร์การจัดกิจกรรมเฮฮาศาสตร์ที่คนเขียนถึงนานที่สุด

 

สวัสดีครับน้องสุมิตรชัยครับ

  • พื้นที่ดงหลวงมีประวัติศาสตร์หลายด้านครับ
  • ประวัติศาสตร์ชนเผ่าโซ่ การโยกย้าย อพยพเข้ามาสู่พื้นที่แห่งนี้
  • ประวัติศาสตร์วิถีชีวิตชาวไทโซ่ ที่นับถือผีเคียงคู่กับพระ
  • ประวัติศาสตร์การเข้าร่วมกับ พคท.ที่เป็นแห่งแรกของเขตปลดปล่อยและแห่งสุดท้ายที่ออกจากป่า
  • โดยเฉพาะช่วงการต่อสู้ของพรรค พคท.นั้น บุคคลที่มาคืนนั้นเป็นสุดยอดของนักต่อสู้ เสียดายที่เวลามีน้อยและพวกเราเพลียจากการเดินทางจึงหลับกันหลายคน
  • พื้นที่ตำบลกกตูมเป็นพื้นที่มีการต่อสู้ที่ดุเดือดหลายแห่ง  บ้านนาหินกอง ก่อนถึงบ้านแก่งนางที่เราขับรถผ่านไปนั้น สมัยนั้นถูกเผาทิ้งทั้งหมู่บ้าน  พร้อมๆกับบ้านนาทรายของจังหวัดหนองคาย
  • ที่บ้านแก่งนางเป็นที่ตั้งค่ายทหาร เนื่องจากสมัยนั้นเป็นป่าทึบมากกว่านี้ และไม่มีเส้นทางรถวิ่ง มีแต่ทางเกวียนและคนเดินเท่านั้น  การไปมาหาสู่จึงลำบากมากๆ
  • เนื่องจากตำบลกกตูมติดต่อกับอำเภอเขาวงและง่ายต่อการเดินทางไปยังอำเภอนาแก จึงเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ และเป็นพื้นที่เขต 333 ของ พคท.ที่มีพ่อ...บุตรศรีรักษ์ เป็นเลขาธิการเขต ซึ่งคืนนั้นพ่อก็มาร่วมงานด้วย
  • วิธีการหนึ่งของการปราบปรามคือการเปิดพื้นที่ให้โล่ง  เป็นส่วนหนึ่งให้มีการทำลายต้นไม้มากมาย  อีกเหตุผลหนึ่งคือเมื่อสงบลงแล้ว พื้ชเศรษฐกิจใหม่เข้าไปคือมันสำปะหลัง และอ้อย  ปอเข้าไปเหมือนกันแต่อยู่ได้ไม่นานเพราะปัญหาเรื่องแหล่งน้ำ  มันสำปะหลังเป็นพืชหลักที่ทำลายพื้นที่ป่าไม้ลงมากมายในส่วนที่เป็นลูกคลื่นที่เราขับรถผ่านครับ
  • แต่ที่น่าสนใจคือ เจ้าของผู้มาบุกเบิกพื้นที่มากมายไม่ใช่ไทโซ่ ที่เป็นเจ้าของถิ่นเดิม  แต่เป็นชาวผู้ไทจากอำเภอเขาวงที่มีนาข้างล่างแล้วไปเอาพื้นที่ไร่ข้างบน  ดังนั้นปัจจุบันส่วนใหญ่คนที่มีที่นามาก และจำนวนคนที่มากนั้นคือผู้ไทจากเขาวงครับ ปัจจุบันเป็นพื้นที่ ส.ป.ก. 4-01 ทั้งหมดยกเว้นรอยต่อกับป่าบางจุดที่ยังเป็นกรณีกันอยู่ระหว่างชาวบ้านกับราชการ
  • ส่วนที่บ้านป่าไม้พัฒนาไม่ไกลจากถนนดำไปทางตะวันตกเป็นบ้ายนใหม่ที่ราชการจัดสรรค์ให้ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยมาอยู่อาศัยทั้งหมด  ซึ่งมาจากหลายพื้นที่ จากเพชรบูรณ์ก็มี จากหนองคายก็มี จากอุดร ฯลฯ ทั้งหมู่บ้านคือสหายทุกคน และหลายคนก็เด่นมากๆ เช่นหมอชาญที่เชิญมาในคืนนั้น ที่ใครต่อใครแนะนำว่าหมอชาญรักษามะเร็งบางอย่างด้วยสมุนไพรได้ดี....
  • น้องสุมิตรชัยครับ ครูองุ่นคนสวยครับ..ทราบไหมว่าแม่ครับที่มาช่วยครูองุ่นทุกคนคือสหายหญิงแกร่งจากป่าทั้งนั้น โดยเฉพาะหัวหน้าใหญ่ คือชาวหนองคายบ้านนาทรายที่ถูกเผาหมู่บ้านทิ้ง เธอต้องเข้าป่า เมื่อออกมา หาบ้านไม่เจอะ เลยขอมาอยู่ที่บ้านป่าไม้พัฒนาแห่งนี้
  • นี่คือชีวิตเสี้ยวส่วนของดงหลวงครับ
  • สวัสดีค่ะ
  • ตื่นเต้นดี เรื่องราวดงหลวง ยังคงน่าติดตามอย่างไม่หลุดเทรนด์ค่ะ
  • ไม่รู้ว่า มีคนหนองคาย อยู่ด้วย ไม่งั้น คงมีเรื่องที่ได้รู้อีกมากมาย
  • ขอบคุณค่ะ
  • สวัสดีครับ
  • แวะมาทักทายครับ
  • ช่วงนี้ผมงานยุ่งมาก ๆ  ๆ  ๆ ๆ ๆ ๆ
  • อิอิ
สุมิตรชัย คำเขาแดง

สวัสดีครับ พี่ NareeP

          ลบให้แล้วครับ  ขอบคุณมาก ๆ ครับที่มาติดตามอ่านอีกที  เป็นเกียรติอย่างสูง

          ก็พยายามน่ะครับอยากจะบันทึกให้เห็นภาพและเชื่อมโยงจากประวัติศาสตร์ในมุมแห่งการต่อสู้ของผู้คนที่นั่นกับการณ์ปัจจุบัน 

           ไม่รู้จะออกมาแบบไหน  แต่ก็ดีใจครับที่มีเพื่อน ๆ พี่ ๆ มาให้กำลังใจ

สุมิตรชัย คำเขาแดง

 สวัสดีครับครูอ้อยP 

สวัสดีครับพี่ สะมะนึกะP

          ดีใจที่พี่ท้องสองเข้ามาทักทาย เกือบจะพร้อม ๆ กันน่ะครับ  นั่งอยู่คนละห้องหรืออยู่ใกล้ ๆ กันครับเนี่ย

       คุณครูครับ ผมคงไม่มีความสามารถขนาดนั้น หรอกครับ  แหมชมซะผมเขิน

       ที่จริงผมเขียนบันทึกประจำวันอยู่แล้วล่ะครับ ก็เลยแปลงข้อเขียนจากบันทึกของผมให้ดูมีเรื่องราวมากขึ้นน่ะครับ   ขอบคุณมากเลยครับที่ครูอ้อยมาเยี่ยมและฝากคำชมไว้  ดีใจครับ

        พี่ สะมะนึกะ ครับ  ผมเข้าใจเลยว่าพี่อยู่บนรถคงสนุกมาก ๆ ครับ  จนลืมสี่แยกไปเลย  แต่เรื่องหลงเสียงนางนี่น่าคิดครับ  หลายเสียงซะด้วย  เสียงนึงล่ะป้าแดง  ครูอ้อย แล้วยังมีใครอีกครับเนี่ย ทำพี่เราหลงได้จริง ๆ รึนี่

        ขอบคุณครับที่มาเยี่ยม   คิดถึงพี่ทั้งสองครับ

สุมิตรชัย คำเขาแดง

สวัสดีครับ อ.ออตP

         ยังเป็นควันหลงครับ  ที่จริงตั้งใจจะตีเหล็กตอนร้อน  แต่ภาระกิจอื่น ๆ เยอะครับช่วงนี้  เรื่องราวเลยกลายเป็นควันหลงไป

         แต่อีกด้านผมก็พยายามน่ะครับ ว่าจะให้เป็นเรื่องเล่ากึ่งประวัติศาสตร์ที่โยงกับเหตุการณ์ปัจจุบันประมาณนี้  ไม่รู้จะทำได้ขนาดไหน  แต่อย่างน้อยก็บันทึกไว้อ่านเองน่ะครับ

          ดีใจมากที่มีเพื่อน ๆ พี่ ๆ เข้ามาอ่านดู   ขอบคุณมากครับ

สุมิตรชัย คำเขาแดง

สวัสดีครับพี่บางทรายP

        ดีใจที่พี่เข้ามาเยี่ยมและให้ข้อมูลประกอบบันทึกไว้มากมายและทำให้บันทึกผมมีความชัดเจน อ้างถึงได้มากขึ้น  ขอบคุณมาก ๆ จริง ๆ ในความเอื้อเฟื้อของพี่ครับ

        ตามมุมของผมที่ได้สัมผัสเพียงผิวเผินคงตอบอธิบายเรื่องราวที่นั่นไม่ได้เป็นแน่  ต้องขออภัยด้วยหากข้อเขียนบางส่วนอาจไม่สมบูรณ์นะครับ แต่ผมพยายามไม่ให้บิดเบือนจากสิ่งที่พบเห็นน่ะครับ  ส่วนเรื่อง ความคิดเห็นที่ใส่ลงไปก็จะพยายามไม่ให้เสียหายต่อบุคคลหรือสถานที่ครับ

        คำว่า "เสียลับ" ก็ขอขอบคุณพี่อีกในวันก่อนกลับพี่อธิบายและยกตัวอย่างเหตุการณ์จากเรื่องเล่าได้เด่นชัดครับ แม้ผมจะพอรับรู้มาบ้างแล้วแต่ได้ฟังจากพี่แล้วมีความชัดเจนยิ่งกว่า  ครั้งนี้ผมได้เรียนรู้จากพี่และสหายที่นั่นมากมายจริง ๆ มากกว่าทุกการเรียนรู้ที่ผมค้นหาเอง  ที่นั่นพี่บางทรายจัดหาไว้ทั้งหมด

         ขอบคุณอีกครั้งครับ

         อ้อ ....คืนวันนั้นที่ผมรู้สึกกลัว ในขณะหลงทางอยู่นั้นก็ด้วยเรื่องราวที่ได้รับรู้มาในทางไม่เป็นมิตรกันระหว่างคนเมืองกับคนป่าและการแตกแยกทางความคิดนั่นล่ะครับ  ในคำหวาดระแวง ก็เป็นความรู้สึกของผมที่มีต่อเรื่องราวที่ได้รับรู้ผ่านมาหลายผู้คน

        แต่เมื่อได้สัมผัสกับผู้คนที่นั่นอยู่บ้าง  ก็คิดว่าที่ไหน ๆ ก็คงคล้าย ๆ กัน  ในชนบท  น้ำใจไมตรี การคบหากันแบบไม่มีรูปแบบทางการ ก็คงมีอยู่

         ประสบการณ์ที่ดงหลวงเยี่ยมยอดมากครับ

สุมิตรชัย คำเขาแดง

P  สวัสดีครับคุณทิชา

          ครับผม ขอบคุณที่แวะมา  ไม่มีความเห็นอื่น ๆ หรือครับ

        

สุมิตรชัย คำเขาแดง

สวัสดีครับป้าแดงP

           ขอบคุณครับ  เรื่องเล่าอาจจะนานไปแล้ว แต่ก็จะพยายามไม่ให้เนื้อหาเก่าน่ะครับ

           อยากจะเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ของสังคมเราทุกวันนี้

           แน่ะครับ  เลยเฉลยคอนเซปท์

สุมิตรชัย คำเขาแดง

สวัสดีครับสายลมP

          งานผมก็ยุ่ง ๆ เหมือนกันแต่ก็พักงานไว้ก่อนน่ะครับ คิดถึงเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่นี่ก็เลยต้องปั่นบันทึกออกมาทักทายกันจนได้

           ขอบคุณครับที่แวะมาเยี่ยม  ขอให้เสร็จภาระกิจด้วยความสมบูรณ์แบบนะครับ

อิอิ หลงทางเสียเวลา หลงป่าช้า เสียแรงแบก อิอิ

  • แวะมาชวนไปเลือกตั้งค่ะน้องมิตร
  • ออกไปใช้สิทธิ์เลือกคนดีๆมาบริหารบ้านเมืองของเรานะคะ

P   สวัสดีครับพ่อครู

               แสดงความยินดีกับรางวัลแห่งการปฏิบัติและชุดความรู้ที่เป็นคุณูปการที่พ่อครูบาต่อสู้อดทนตั้งใจมาเป็นเวลานานครับ

P        สวัสดีครับพี่ Naree 

                   ผมตั้งใจมากครับ ขอบคุณที่มาชวนนะครับ  ดูพี่มีความมุ่งมั่นมาก ๆ ครับ

สวัสดีครับ....

แวะมาถามว่าตัดสินใจหรือยังว่า  เลือกตั้งครั้งนี้  จะมอบภารกิจแห่งชาติให้ใครและพรรคใด...

ส่วนพี่จะกลับไปเลือกที่บ้านเกิด (กาฬสินธุ์) ....

+++++

มีความสุขมาก ๆ นะครับ

สวัสดีครับพี่แผ่นดิน

              ชอบอยู่น่ะครับพรรคนึง  แต่ว่าดูนโยบายพรรคแล้วก็ไม่ปลื้มนัก  ที่เลือกไปก็เป็นหน้าที่จริง ๆ

               บ้านเรายังอ่อนแอจริง ๆ ครับ แล้วเราก็เชื่อถือกับระบบอำนาจที่นอกเหนือจากอำนาจที่เป็นความหมายของการแบ่งแยกอำนาจ นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ

                คือพวกเรายังให้ความเชื่อถือกับอำนาจเงิน อิทธิพล  บุญคุณ อำนาจกระแสหลัก  และอีกหลาย ๆ อำนาจ เช่นในชุมชนก็ยังมีอำนาจของญาติพี่น้อง หรือเครือข่ายอำนาจแบบอื่น ๆ อีกมาก ที่ไม่ใช่ความเข้มแข็งของชุมชนครับ แต่กลายเป็นเส้นสายและระบบโยงใยกันด้วยอำนาจและประโยชน์

               เครือข่ายพวกนี้ถักโยงไว้ด้วยประเพณีวัฒนธรรมอีกด้วย  เช่น การกินเลี้ยง การฆ่าวัวร่วมกัน งานบุญงานทาน  อื่น ๆ อีกมากมาย

               การเลือกตั้งเอาตัวแทนของพวกเราเข้าไปจึงสับสนระคนกันไปหมด  เขาเข้าไปทำหน้าที่อะไรกันแน่  คำว่าเป็นปากเป็นเสียงนั้นแค่ความหมายผิว ๆ จริง ๆ ครับ

               คุณอุทัย  พิมพ์ใจชน กล่าวไว้นานแล้วว่า "ผู้แทนราษฎรคือเงาสะท้อนของประชาชน"  ซึ่งก็จริง ๆ ครับ  ผู้แทนพวกเราส่วนใหญ่อยู่ในสภานั่นก็คล้าย ๆ กับคนไทยส่วนใหญ่น่ะครับ 

               ผมไม่เคยด่ากล่าวหานักการเมืองนานแล้ว เพราะพวกเขาทำหน้าที่สนองตอบความต้องการของผู้คนส่วนใหญ่ของประเทศ  ก็คือผู้คนส่วนใหญ่ในประเทศเราพอใจกับการได้รับเงินผู้แทน

              ผู้แทนก็พอใจที่ได้รับเงินจากผู้รับเหมา  ผู้รับเหมาก็พอใจที่ได้รับงานจากผู้แทนระดับรัฐมนตรี  รัฐมนตรีก็พอใจที่ได้รับเงินจากนายทุน  นายทุนก็พอใจที่ได้รับประโยชน์จากรัฐ  รัฐก็พอใจที่ได้รับประโยชน์จากนายทุนข้ามชาติ และรัฐก็คือคนที่เป็นรัฐมนตรี เป็นผู้แทน เป็นข้าราชการ  ตัวเงินทั้งหมดวนเวียนกันอยู่อย่างนั้น  หมุนไปที่คนส่วนมากนั้นน้อย มาก ๆ แต่คนส่วนมากก็ดันพอใจซะอีกที่ได้แค่น้อย  ๆนั่น แล้วยุคหนึ่งก็พอใจที่จะได้เงินพร้อมกับการเป็นหนี้ไปด้วย

            นับว่าคนส่วนใหญ่เรายังขาดความรู้เท่าทันส่วนหนึ่ง  และอ่อนแอในความยืนหยัดเรื่องความถูกต้อง  นึกไม่ไปถึงศักดิ์ศรีของตนของชุมชน ของประเทศ

            นึกไม่ถึงระบบการหมุนเงินและอำนาจที่ครอบไว้ในสังคมประเทศชาติ

            เรากำลังถูกกักขังทางความคิดการเงิน และการบริโภค

             ขอบคุณพี่แผ่นดินที่เข้ามาเยี่ยมเยียนถามข่าวครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท