อะไรสำคัญที่สุด


ครูที่หลงตัวเอง

       วันเวลาที่เนิ่นนานออกไปทำให้หัวใจและความเป็นครูในตัวเราเปลี่ยนไปมาก เรื่องผ่านไปเดือนกว่าแล้วยังจำเหตุการณ์นั้นติดตา ทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นและการลงโทษเด็กที่คิดว่าถูกต้องในเวลานั้น ร่วมกับเหตุการณ์และความเป็นจริงก่อนการไตร่สวน นักศึกษาทุกคนก็ถูกลงโทษไปแล้ว ช่างน่าละอายจริงๆ คำว่าผิดเป็นครูในความหมายนี้ หมายถึง คนผิดเป็นครูคนนี้จริงๆ จนถึงวันนี้ยังไม่รู้จะเกริ่น  และเข้าเรื่องว่า เสียใจต่อการลงโทษ(น่าจะใช้คำว่าขอโทษมากกว่า) ไม่ใช่ครูที่มีเหตุผล และฟังเหตุผลจากเด็กอีกแล้ว เขียนBlogเล่าเรื่องน่าอายนี้ เป็นการสารภาพบาปล่ะกัลลล.......

          วันที่ กกต.มาขอความร่วมมือในการถ่ายทำVTR ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง(23ธค.50)วันนั้นขอความร่วมมือฝ่ายวิชาการ เพื่องดการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรสาธารณสุขศาสตร์1วัน จากการถ่ายทำที่เหนื่อยยากทั้งวันตั้นแต่7โมงเช้าถึงตีสาม แต่ราว5โมงเย็นตามScrip สามารถแบ่งนักศึกษาบางส่วนกลับได้เหลือไว้ประมาณ30คนเท่านั้น จึงเกิดกรณีเช็คจำนวนคนเพื่อแบ่งกลุ่มตามความสมัครใจ พบว่านักศึกษาขาดไป1คน ซึ่งเป็นเพียง1ใน75คนหรือร้อยละ1.33เท่านั้น (ทั้งที่ปากก็บอกตามความสมัครใจ เด็กโดดไป1คนทำท่าเหมือนจะตาย) บอกให้เพื่อนๆโทรไปตามให้กลับมาให้ได้ พวกที่เหลือจึงกับบ้านได้ เพื่อนแต่ละคนต่างโทรหาเจ้าดรีม....พร้อมทั้งด่าฝากกันแน่นนอน อมรรัตน์หน้าหงิกงอจนหาความงามมิได้ วราลีมาขออนุญาตกลับบอกพ่อมารับ ก็ไม่ให้ไป อ้างว่าเดี๋ยวคนใกล้ๆก็โทรตามผู้ปกครองมารับแล้วคนอื่นล่ะทำงัย(ก็อ้างไป....คิดได้งัย..ทุเรศตัวเองมาก) อัมพรที่น่ารักก็มาขอ ไม่ให้อีก(ไม่เข้าใจว่าผีอะไรเข้าสิง) รอกว่า3ชั่วโมงประมาณ6โมงเย็นเจ้าดรีมเข้ามา (ดรีมคือนักศึกษาชายที่เรายอกเย้าเล่นมากที่สุด เค้ามีหลายอย่างคล้ายลูกชายมาก ร่าเริง ขี้เล่น) ตามปกติมีการตกลงการลงโทษไว้ว่าในการสอนและการเข้าห้องเรียนอาจารย์จะเข้าสอนสายได้ไม่เกิน5นาทีหากมีความจำเป็นที่จะมาช้า จะต้องโทรบอกนักศึกษาก่อนเสมอ(คือกติกาที่เราตกลงกันไว้) ส่วนนักศึกษาใครมีธุระเข้าช้าต้องขออนุญาตก่อน หากมาช้ากว่าอาจารย์จะต้องคลานเข่าเข้ามาตั้งแต่ประตูวนรอบห้อง1รอบก่อนเข้านั่งที่ตัวเอง ตอนแรกๆมีเพื่อนคลานเยอะไม่ค่อยอายนานลดน้อยลงและเริ่มเข้าตรงเวลาดี บางครั้งมีหน้าม้ามาชวนคุยยังไม่ให้เข้าห้องเพื่อนกำลังวิ่งมา ย้อนกลับมาถึงการทำโทษ วันที่เจ้าดรีมโดดตั้งแต่เที่ยง  มาถึงก็ทำตามระเบียบคือคลานตั้งแต่ระเบียงที่พักมาหา และบอกว่าผมจะไม่ทิ้งเพื่อนแล้วคาบบๆๆๆๆตลอดทาง คลานผ่านเพื่อนมาเพื่อนๆพากันบอกให้ลุกขึ้นเจ้าดรีมไม่ยอม คลานมาเรื่อยๆๆแต่ละคนหน้าเสีย เจ้าดรีมหน้าแดงหูแดงคลานมากราบที่ตัก(ก็สงสารนั่งน้ำตาคลอเหมือนกัน..ทำปากดีถามไปว่าไปไหนมา หน้าเครียดจนปวดหัวอยู่นาน) ดรีมน้ำตาคลอ บอกว่า" ผมไปช่วยพ่อขับรถเกี่ยวข้าวมาครับ แม่ไม่สบาย ผมเลยกลับไปช่วย" ชุดที่แต่ง รองเท้าที่ใส่ มือเท้าที่มีแต่เศษฟางข้าว แทบไม่ต้องอธิบายอะไรเลย.....ทำไมไม่บอกก่อนล่ะ(เสียงอ่อนเพราะน้ำตาคลอ) เธอก็รู้แค่โทรบอกแค่นั้น ทุกเรื่องเธอก็เคยบอกได้นี่น่า.....แต่วันนี้ย้อนคิดก็ไม่แน่ใจว่าถ้าเค้าโทรมาขอจะให้ไปจริงไหม?เชื่อเค้าไหม?  นี่งัย...เหตุเกิดจากความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกันเราเข้าไม่ถึงหัวใจเด็กเนื่องจากขาดความเชื่อถือไว้วางใจเค้าจริงๆ...บทเรียนนี้เรียนรู้ว่าการเป็นครูจะต้องฝึกทักษะอีกหลายอย่าง การเป็นครูมืออาชีพด้วยหัวใจของความเป็นครูเป็นอย่างไรน่ะ...คงต้องเรียนรู้อีกนานมาก....เป็นครั้งแรกที่ลงโทษเด็กโดยไม่ถามเหตุผล ดูเพียงผลลัพท์การกระทำเท่านั้น เดือนกว่าแล้วยังไม่ลืมความรู้สึกนี้เลย  สิ่งที่ได้เรียนรู้ คงต้องบอกว่าดรีมเป็นครูให้เราแล้วกัน  เค้าสอนให้รู้ว่า ต้องเรียนรู้ที่จะเชื่อให้เกียรติ และไว้วางใจนักศึกษาเสียก่อน เค้าถึงไว้วางใจเราจึงจะบอกความจำเป็นทุกอย่างก่อนโดดหายไป และเราจะไม่เศร้าเท่าวันนี้

         กอดดรีมและบอกว่า เราหนีคนเดียวน่ะ เธอก็รู้ว่าไม่เคยลงโทษพวกเธอเลย แต่วันนี้หน่วยงานภายนอกมาขอความร่วมมือ น่าจะรักษาภาพลักษณ์วิทยาลัย (ก็พูดไปไม่เห็นเสียอะไรเลยแค่เด็กขาดไปคนทำจะตาย) ดรีมบอกว่าพ่อเหยียบรถมา150 เลยอาจารย์ ยังทำหน้าทะเล้น พ่อจะมาขอโทษกับอาจารย์ว่าผมหนีไปช่วยงานจริงๆ (โอ้โห...หน้าชาเลย..เห็นสภาพเธอไม่เชื่อก็บ้าแล้วบอกพ่ออย่ามาเลยไม่รู้จะพูดอะไร) เดินกลับแฟรตนั่งทบทวนอยู่นาน จนสามทุ่มกลับมาหาดรีมและบอกว่ากลับบ้านไปเถอะ พ่อรออยู่บอกพ่อด้วยอาจารย์ขอโทษ คงเสียใจมากถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา...ดรีมบอกผมให้พ่อกลับไปแล้วผมจะอยู่ช่วยงานเพื่อน....ป่ะขึ้นรถไปmacro   ป่ะๆๆๆไปหาซื้อของกินให้เพื่อนดีกว่าชวนหัวหน้า(ทศพล)ไปด้วย.....ครับ..3 คนเข็ญรถซื้อของกันเกือย2พัน ดรีมบอกใครจ่ายเนี่ย.....ไม่รู้โว้ยยย...เครียดๆซื้อใหญ่...ดรีมไม่เข้าใจเดินหยิบออก  แต่นี้ก็พอกินคนละนิดหน่อยแก้ง่วงก็พอ "กกต.ไม่เลี้ยงเราเหรอ"...ดรีมถาม...ช่างมัน...เอออออ...ชั้นอยากเลี้ยงเอง.....เดินหยอกเย้าไปเรื่อย ดรีมไปหิ้วฝรั่งที่ลดราคาเหลือถุงละ10บาทมาบอก "อาจารย์ผมขอซื้อถุงนี้น่ะ"...."เอาอะไรอีกล่ะเลือกมาดิ  มะม่วงน้ำปลาหวานม่ะ"...."ไม่เอาแพงน่าเท่าไรก็ไม่พอหรอกจารย์".......เข็ญรถใส่ของพร้อมเฮฮาสไตล์เดิมไม่ทุกข์โศกใดใด....

          ถึงวิทยาลัยให้เรียกเพื่อนมาช่วย ดรีมบอกไม่ต้องๆๆผมเป็นพระเอก......ไปหากระติกน้ำร้อน มีดปอกผลไม้ ชงกาแฟ มามา ปากก็ตะโกน ช่วยเรียกใช้บริการคนรูปหล่อหน่อยครับ...อยากทำงานคาบบบ...เรียกเสียงฮาได้ตลอดทั้งคืน...ได้แต่นั่งมอง เค้าเดินไปมาทำอะไรบ้าๆแก้ง่วงตามนิสัยเค้าล่ะ...

         บันทึกBlogนี้จะเตือนใจให้นึกถึงเหตุการณ์นี้อีกนาน จะดูว่าอีกนานแค่ไหนที่จะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้อีกไหม หรือจะเป็นครั้งสุดท้ายตามที่ตั้งใจไว้ได้หรือไม่...ครูบ้าอำนาจ หลงตัวเอง.....คนนี้จะหายไป.....ฟ้าเป็นพยาน....การเชื่อถือไว้วางใจ ให้เกียรติกัน สัมพันธภาพระหว่างครูกับลูกศิษย์มีหมอกหนาคั่นกลางนั่นคือ จริตทั้งมวลที่บดบังจิตใจเราในวันนั้น...ครูขอโทษ...

 

หมายเลขบันทึก: 152129เขียนเมื่อ 7 ธันวาคม 2007 21:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท