ความทรงจำ เมื่อโดนสัตว์เลี้ยงแสนรักทำร้าย หรือ ทำลายข้าวของ เวลายายกาแฟโมโหจัด ๆ ก็เอ็ดตะโรไปตามเรื่อง ครั้นไปฟ้องพ่อมักจะได้ คำหนึ่งกลับมาเสมอ
“หือ ..เป๋นจะได หื้อหมา หื้อแมวมันได้สอน” แปลว่า
“ หือ ..เป็นยังไงละ ..ให้หมาแมวมันสอน” แปลอีกชั้นหนึ่งได้ว่า
“ก็สมควรแล้ว ทำไมไม่เก็บของให้เรียบร้อย อยากสับเพร่าเอง เกิดเป็นคน จำไว้ อย่าให้แมว ให้หมามันสอน หมามันสอน จะได้เจ็บ จะได้จำ” เจ็บไหมท่าน “พ่อชั้นนน” เวลาเผลอเอาวีรเวร วีรกรรม ของมะหมา มะแมว ไปบ่นให้พ่อฟัง ก็จะได้คำนี้กลับมาทุกที (ยกเว้นเวลามันคาบรองเท้าพ่อ หรือ ของกินของพ่อ ก็อาจได้ยินเสียงเอ็ดตะโรบ้าง เป็นบางเวลา อิอิอิ)
หมาแมว ไม่บรรลุนิติภาวะ ก็จะได้รับการให้อภัยเสมอ อย่างเช่นแมวซนมากจะจัดบ้านให้ใหม่ระเนระนาด พวกเราเริ่มบ่น แต่พ่อบอก มันยังเด็กอยู่ มันยังไม่รู้ แต่ตัวไหน แก่แล้วยังดักดานก็จะโดนสั่งสอนเจ็บ ๆ แรง ๆ ไปตามระเบียบ
เด็กชายหอยโข่งเข้าข่ายหมากึ่งเด็ก กึ่งผู้ใหญ่ บ่อยครั้งที่ ยายกาแฟก็ลังเลในการลงโทษ เคยอ่านเจอว่าเวลาหมาทำอะไรผิด ให้ทำโทษ ณ บัดนั้น เลย แต่ว่า ยายกาแฟไม่เคยเจอแบบเต็ม ๆ คาหนังคาเขาซักที เลยหาโอกาสสั่งสอนยากมาก ครั้นจะตีย้อนหลังก็ดูผิดหลักการ หมามันจะรู้ไหมเนี่ยว่าโดนตีข้อหาอะไร โอ๊ย โข่งเลยเหมือนเป็นไม่ได้รับการสั่งสอน กรรมจริง ๆ
ก่อนนี้เด็กชายหอยโข่ง ยังเป็นเด็กอยู่เธอก็ทำผิดบ่อยไป ตั้งแต่ รื้อบ้าน กัดนู่น กัดนี่ รองเท้าในบ้านถูกสังหารเกือบหมด พยายามแล้วเชียวว่าวางบนชั้นที่สูงขั้น หล่อนก็ยังไปคาบมาฟัดสำเร็จ ของแม่มันไม่เท่าไหร่ ไปฟัดของน้องจ๋า เป็นเหตุให้แม่มันต้องควักตังไปซื้อรองเท้า มาให้เขาด้วยความเกรงใจ นับตอนนี้ก็หลายคู่โขอยู่ อย่างรองเท้าที่วางจัดฉากในบทความก่อนไม่ได้สร้างภาพเลย ของจริงทั้งหมด กัดซะจนตอนนี้แม่มันไม่มีจะใส่แล้ว ตอนนี้ที่ใส่ลงมาทำงานได้เป็นคัทชูแบบที่ต้องใส่กับกางเกง กับรองเท้ากีฬา ไปเลย ตอนนี้ไม่มีรองเท้าที่ใส่กับชุดกระโปรงได้เลย ให้ตายสิโรบิน !!
เข้าไปประชุมเชียงใหม่คราวก่อน ไปหารองเท้าถูกใจมาได้คู่หนึ่ง ตั้งใจเป็นดิบดี คู่นี้ ของข้า เอ็งห้ามแตะนะหอยโข่ง ใส่เข้าประชุมที่เชียงใหม่ซะ 2 วัน มาถึงปางมะผ้ายังไม่ได้ใช้เลยค่ะ ตั้งใจจะประเดิมวันนี้เป็นวันแรก หนาวนี้ยังไม่ได้สวมชุดกระโปรงเลย ตั้งใจว่าวันนี้แหล่ะ วันที่ต้องอยู่เฝ้าคลินิก
งัดรองเท้าคู่ใหม่ออกมาซะดิบดี วันนี้ประเดิมเข้าทำงาน .. แต่แค่เดินออกมาหน้าตึกจะเซนชื่อ ไอเย็น ปะทะวูบก็สำนึกเสียใจ .. เย็นมาก ..หนาวอย่างนี้ไม่ไหวเป็นแน่ เอาข้าวของมาเก็บในห้อง ทำใจครู่หนึ่งก็ตัดสินใจว่าคงต้องกลับไปเปลี่ยนเป็นกางเกง มานั่ง Counseling แล้วมาสั่นกึ๊ก ๆ ไม่งามเป็นแน่ ว่าแล้วยายกาแฟก็กลับไปเปลี่ยนเป็นกางเกง ครั้นเปลี่ยนกางเกงก็ต้องเปลี่ยนรองเท้าอีก ชะรอย กรรมเก่ายังไม่หมด ยายกาแฟนึกสงสารไอ้ลูกชายเพราะในบ้านอากาศเย็นมาก แต่อากาศนอกบ้านจะเริ่มอุ่นขึ้นเพราะแดดเริ่มจะออก เลยปล่อยลูกชายออกมานอนตากแดดหน้าบ้าน แล้วเผ่นแผล็วลงมาทำงานด้วยความเร่งรีบ ..
ตกเที่ยงกลับบ้าน เพราะต้องจัดสำรับให้คุณชายหอยโข่ง เหมือนเช่นเคย ...มาถึงหน้าบ้านก็หัวใจจะวาย โอ้ พระเจ้าช่วยกล้วยทอด รองเท้าใคร ช่างคุ้นตาเหลือหลาย จับพลิกขึ้นมาดูก็ปวดแปรบไปถึงหัวใจ โถ่ ไอ้ลูกบ้า ฮือ ๆๆๆๆ นี่คู่สุดท้ายแล้วนะ ...ใจคอแกจะทำลายให้หมดบ้านเลยรึไง ..ไอ้ลูกทรพี ...พอเงื้อมือขึ้นจะสั่งสอน ...ดันมานอนหงายยอมแพ้ ยกขาหน้า ทำหน้าบ๊องแบ๊วว..แบบ “ไรหรอแม่ ..โข่งทำผิดอะไร อย่าทำโข่งน้า งิ๊ด ๆ ” โกรธแสน โกรธ ก็ทำโทษไม่ลง คำพูดของพ่อวาบขึ้นมาในหัว “สมน้ำหน้า ให้หมาได้สอน”
ฮือ ๆๆๆๆ ว่าจะไม่พลาดแล้วเชียว แต่วันนี้มันผิดแผนและรีบ ๆ ไปนิดหนึ่ง เลยต้องแลกด้วยบทเรียนราคาแพงเท่าราคารองเท้า ..แต่คงต้องได้ใส่กางเกงไปทำงานทุกวัน จนกว่าจะได้เข้าเชียงใหม่อีกครั้งหนึ่ง ยายกาแฟถึงจะได้มีรองเท้าคู่ใหม่ ที่ใส่กับกระโปรงได้ ...ฮือ ๆๆ ๆ เจ็บใจจริง ๆ ทั้งรัก ทั้งแค้น มันแน่นอุราไปหมด จนแทบกระอักเลือด ทีเดียวเชียวค่ะ
สวัสดีครับ หมอกุ้ง
สวัสดีครับ
ดีครับ ที่คิดถึงเรื่องนี้
โบราณว่า "รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี"
แต่รักหมา นึกไม่ออก ว่ามีสุภาษิตอะไร
ดูแลดีๆ ไม่งั้นกระเทือนถึงแม่หอยโข่งได้นา.. อิๆๆๆๆ
ฮึฮึ ก็ดี หมอผู้ชายก็ต้องใส่กางเกง จะใส่กระโปรงได้จะได...เอิ้ก เอิ้ก
หวัดดีค๊า
สวัสดีค่ะ คุณ stardust
แล้ว พี่กุ้ง จะ มีรองเท้าที่เอาไว้ใส่เป็นการถาวรมั๊ยคะเนี่ย
ก็ลูกชายเล่นงับมันซะทุกคู่อย่างนี้อ่า
แง่ม ๆๆๆๆๆๆ