ทำความเข้าใจที่มาของนกฟินซ์


ขอเพียงแต่มีความตั้งใจจริงรักจริง

นกฟิ้นซ์เจ็ดสี (Gouldian Finch)

John gould เป็นผู้ค้นพบและตั้งชื่อทาง วิทยาศาสตร์ ให้กับนกชนิดนี้ว่า Amandina gouldiae และต่อมาเปลื่ยนเป็น Poephila gouldiaeหลังจากที่ใช้เรียกขานกันระยะ หนึ่งเหล่าบรรดานักปักษีวิทยาทั้งหลายก็ เกิดความรู้สึกสับสนว่านกตัวนี้อยู่ในพวก ไหนกันแน่ ระหว่าง Grassfinch family [Poephila],Parrotfinchfamily[Erythrura]และMannikins[Lonchura]ในที่สุดจึงได้ จัดใหม่ให้อยู่ใน genusของมันเองต่างหาก ซึ่งอยู่ ระหว่าง parrotfinch และ mannikins โดยใช้ชื่อว่า Chloebia gouldiae ซึ่งก็เป็นชื่อที่ยอมรับและใช้กันอย่าง แพร่หลายจนทุกวันนี้ นกฟิ้นซ์เจ็ดสีเป็นนกขนาดเล็กที่มีสีสันสดใสมาก เทียบได้กับสีของตัวรุ้งกินน้ำทีเดียวมีถิ่นฐานดั้งเดิมอยู่ทางตอนเหนือของประเทศออสเตรเลียตั้งแต่รัฐควีนส์แลนด์เรื่อยไปจนถึงทางตอนเหนือของแถบเวสต์เทิร์นออสเตรเลีย

ซึ่งเป็นเขตที่ค่อนข้างอบอุ่นและแห้งแล้ง ชอบอยู่ในภูมิประเทศที่เป็นทุ่งหญ้า ใกล้แหล่งน้ำอาหารคือเมล็ดพืชหรือพวกดอกหญ้า หลากหลายชนิด ที่ชอบมากคือ Sorgum seed ชอบหากินบนพื้นดิน หรือใกล้ระดับพื้นดิน เฉพาะนกตัวผู้เท่านั้นที่ส่งเสียงร้อง เป็นเสียงเพลงที่เบามากๆ เป็นนกที่มีลักษณะอาการกินน้ำโดยการจุ่มจงอยปากลงในน้ำแล้วดูดน้ำเข้าปากโดยตรง ไม่ต้องก้มๆเงยๆเหมือนนกส่วนใหญ่ ลักษณะพิเศษนี้ช่วยให้กินน้ำได้เร็วขึ้น ปลอดภัยจากศัตรูมากขึ้น 

สีของฟิ้นซ์เจ็ดสีนี้สามารถแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม ตามลักษณะของสีที่หัว ได้แก่
1.หัวสีดำ (black- head)
2.หัวสีแดง (red-head )
3.หัวสีเหลือง (yellow – head )
ในธรรมชาติ พวกหัวดำมีจำนวนมากที่สุด บางครั้งอาจพบพวกหัวแดงอยู่รวมกับหัวดำบ้าง แต่มีจำนวนไม่มากนัก ส่วนพวกหัวเหลืองพบเห็นได้น้อยที่สุด และที่ว่าสีเหลืองนั้นที่จริงแล้วจะออกสีส้มๆเสียมากกว่าประเภทที่ว่าเหลืองสนิทยังไม่ค่อยได้พบเห็นกัน แต่ในวงการเพาะเลี้ยงและซื้อขายนกในบางประเทศมีพวกหัวเหลืองวางขายในจำนวนที่มากกว่าและมีราคาที่ถูกกว่าพวกหัวแดงเสียอีก นอกจากนี้ ในแต่ละหัวสียังสามารถแบ่งย่อยออกไปอีกถึงหกชนิดคือ albino, lutino, blue-backed, dilute-backed, white-breasted, blue-breasted * พวก albino และ lutino เป็นพวกที่เกิดจากการกลายพันธุ์หรือการเปลื่ยนแปลงของสีอย่างแท้จริง ในขณะที่พวก blue-backed นั้นยังไม่นิ่ง ระดับสีมีแก่บ้างอ่อนบ้าง บางครั้งเมื่อนกผลัดขน สี blue ที่ว่าถึงกับหายไปเลย และในการผสมพันธุ์ระหว่าง blue-backed กับ blue-backed ด้วยกันลูกนกที่ได้ส่วนมากจะเป็นสีเขียว ในกลุ่ม lutino ของพวกหัวแดงและหัวเหลือง บริเวณหน้าอกจะเป็นสีขาวบริเวณส่วนหลังของนกจะมีสีเหลืองแทนที่จะเป็นสีเขียวตามปกติ หัวยังคงแดงหรือเหลืองเหมือนเดิม ในขณะที่ lutino ของพวกหัวดำ ส่วนหัวจะกลายเป็นสีขาว กลุ่ม albino ของพวกหัวแดงและเหลือง จะมีสีขาวหมดยกเว้นส่วนหัวที่ยังคงมีสีแดงหรือเหลืองเหมือนเดิม ส่วนของพวกหัวดำ สีดำที่หัวจะหายไป กลายเป็นขาวไปหมดทั้งตัว  กลุ่ม blue-backed สีส่วนอื่นเหมือนเดิม แต่ส่วนหลังแทนที่จะเป็นสีเขียวกลับเป็นสีเขียวออกน้ำเงินแทน ซึ่งอาจเป็นจุดเล็กๆไปจนถึงเต็มทั้งแผ่นหลัง กลุ่ม dilute-backed สีส่วนอื่นเหมือนเดิม ยกเว้นส่วนหลังที่จะเป็นสีเขียวมะกอกหรือสีน้ำตาลอ่อน  กลุ่ม white-brested สีม่วงที่หน้าอกจะถูกแทนที่ด้วยสีขาว กลุ่ม blue-brested สีม่วงที่หน้าอกจะถูกแทนที่ด้วยสีน้ำเงิน  ในทั้งสามหัวสีและอีกหกกลุ่มนี้ นกตัวเมียจะมีสีเหมือนนกตัวผู้ทุกอย่าง เพียงแต่สีจะจางหรืออ่อนกว่าเล็กน้อย และบริเวณรอยต่อของแต่ละสีจะไม่แยกออกจากกันอย่างคมชัดเหมือนนกตัวผู้ นกทั้งสามหัวสี หากเป็นสีที่แท้จริง(pure) เมื่อนำมาผสมกันระหว่างหัวสีที่เหมือนกันลูกที่ได้จะมีหัวสีเหมือนเดิม พวกหัวสีแดงเป็น sex link และ dominant ต่อพวกหัวดำและหัวเหลืองพวกหัวดำเป็น sex link และ recessive ต่อพวกหัวแดง แต่เป็น dominant ต่อพวกหัวเหลืองส่วนพวกหัวเหลืองจะเป็น recessive ต่อพวกหัวแดงและหัวดำ
ดังนั้น นกหัวแดงตัวผู้อาจจะเป็น
1.หัวแดงที่สายเลือดบริสุทธิ์
2.หัวแดงที่มีสายเลือดของหัวดำแฝงอยู่ (หัวแดง สปลิท( split) หัวดำ)
3.หัวแดงที่มีสายเลือดของหัวเหลืองแฝงอยู่(หัวแดง สปลิท (split)หัวเหลือง )  และ นกหัวแดงตัวเมียอาจจะเป็น
1.หัวแดงที่มีสายเลือดบริสุทธิ์
2.หัวแดงที่มีสายเลือดหัวเหลืองแฝงอยู่( หัวแดง สปลิท หัวเหลือง )  

นกหัวดำทั้งตัวผู้และตัวเมีย จะไม่มีโอกาสที่จะเป็น หัวดำ สปลิท หัวแดง แต่อาจจะเป็น หัวดำ สปลิท หัวเหลือง ได้

ส่วนนกหัวเหลืองทั้งตัวผู้และตัวเมีย ไม่มีโอกาสที่จะ สปลิทกับพวกหัวแดงและหัวดำเลย พวกหัวเหลืองไม่ใช่เป็นการกลายพันธุ์อย่างแท้จริง แต่เป็นพวกหัวดำหรือหัวแดงที่มีความผิดปกติของยีนส์

ที่ทำให้ร่างกายของนกไม่สามารถปรับเปลี่ยน สาร carotinoid สีเหลือง ที่ได้จากอาหารที่กินเข้าไปให้เปลี่ยนไปเป็น สาร carotinoid สีแดง ซึ่งเป็นส่วนของสีแดงที่ขนนกและที่จงอยปากได้ทำให้เกิดเป็นขนที่มีสีเหลืองแทน ซึ่ธรรมชาติของพันธุกรรมเรื่องนกหัวเหลืองนี้ได้มีการพิสูจน์แล้วโดยศาสดาจารย์ O.Volker จากมหาวิทยาลัย Giessen ประเทศเยอรมัน นกฟิ้นซ์เจ็ดสีที่ยังไม่โตเต็มวัย จะมีสีสันที่ไม่น่าประทับใจเลย ส่วนหลังจะเป็นสีเขียวมะกอกส่วนท้องจะมีสีออกน้ำตาลอ่อน แต่ในบางขณะที่ขนบนหัวและที่หน้าอกเกิดหลุดร่วงไปขนที่งอกขึ้นมาแทนที่ขนเส้นที่หลุดไปนั้นจะมีสีเหมือนกับขนของนกที่โตเต็มวัยทันทีทำให้ง่ายต่อการแยกเพศตั้งแต่ยังเล็กอยู่และทั้งนกที่โตแล้วกับนกที่ยังไม่โตเต็มวัยจะมีช่วงระยะเวลาในการผลัดขนพร้อมๆกันยกเว้นลูกนกที่เกิดมาล่าช้าหรือเป็นครอกหลังๆในช่วงหลังๆของการผสมพันธุ์ เมื่อถึงฤดูที่มีการผลัดขนลูกนกที่เกิดล่าช้าดังกล่าวจะมีการพลัดขนไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ กล่าวได้ว่าผลัดไปครึ่งหนึ่งก่อนที่เหลือเก็บไว้ไปผลัดขนในปีต่อไป ลักษณะดังกล่าวนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องที่แปลกและไม่พบในนกชนิดอื่นๆ 

การเพาะเลี้ยงนกฟิ้นซ์เจ็ดสีนี้สมัยก่อนอาจเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ไม่ค่อยประสพความสำเร็จกันมากนักแต่เมื่อเวลาผ่านไป มีผู้เพาะเลี้ยงได้สำเร็จมากขึ้น มีผู้เลี้ยงนกหน้าใหม่ๆให้ความสนใจกับนกชนิดนี้มากขึ้นมีหนังสือมีตำรา(ต่างประเทศ)ให้ศึกษามากมายหลายเล่ม จึงไม่ใช่เรื่องยุ่งยากลี้ลับแต่ประการใดอีกต่อไป ขอเพียงแต่มีความตั้งใจจริงรักจริง หรือหากมีประสพการณ์ในการเพาะเลี้ยงนกชนิดอื่นๆมาก่อนก็จะดียิ่ง

หมายเลขบันทึก: 151409เขียนเมื่อ 4 ธันวาคม 2007 17:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน 2012 18:55 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
ตอนแรกอ่านผ่านตกใจ นึกว่ามีวิธีการเลี้ยงนกฟินิกซ์ 555 ขำตัวเองค่ะ ^ ^ นกฟิ้นซ์สีสวยดีนะคะ พึ่งจะเคยเห็น น่ารักจัง เหมือนหลุดมาจากหนังการ์ตูน

มีความเห็นเหมือนคุณโยมP Little Jazz \(^o^)/ กล่าวคือ คิดว่าเป็น นกฟินิกซ์ จึงรีบกดเข้ามาว่าจะได้อ่านตำนานหรือเทพปกรณัมบางอย่าง (.......)

เข้าไปดูหน้าประวัติก็รู้สึกดีใจที่ได้เจอคนจังหวัดเดียวกัน... แต่คุณโยม tikapus ควรจะไปตรวจดูชื่ออำเภอในหน้าประวัติอีกครั้ง เพราะรู้สึกว่าอำเภอนี้ จะไม่มีในจังหวัดสงขลา (...... )

เจริญพร 

 

  • กราบนมัสการเจ้าพระคุณ
  • กราบขอบพระคุณขอรับ ผมผิดจริงๆ ได้แก้ไขแล้วขอรับ
  • กลับมาอ่านที่เจ้าพระคุณทัก ก็นั่งขำตัวเอง ผิดได้ไง ความหมายก็ไปสองแง่สามง่าม ไปเลย
นกน้อย (ทำรังแต่พอตัว)

มีเรื่องของนกเล่าให้ฟังด้วย ดีจัง

ชื่อ นก ค่ะ เลยชอบเป็นพิเศษ

นกฟินซ์ เพิ่งเคยรู้จัก สวย และ น่ารักจังเลย

คนชื่อ นก ก็สวยและน่ารักเหมือนกัน

อิอิ ...

แวะไปทักทายและฟังเรื่องราวของเด็กๆ กันนะคะ

การเลี้ยงนกฟินซ์เจ็ดสีให้ประสบความสำเร็จได้ไม่ยากครับขึ้นอยู่กับความพร้อมของตัวผู้เลี้ยงและสถานที่เลี้ยง

1. อาหารสำเร็จของนกฟินซ์ กระดองปลาหมึก ทรายทะเลที่มีเปลือกหอยปนอยู่ด้วย ผงชมพู วิตามินน้ำหยดลงไปในน้ำกินทุกวัน ผักกาดหอม อาหารไข่ ทุกอย่างที่กล่าวมาต้องมีอยู่ในกรงทุกวันอย่าให้ขาดที่อยู่ของกรงนกจต้องอยู่ในโรงเรือนหรือที่ที่ลมไมโกรกแสงสว่างเข้าถึงและอยู่ให้สูงจากพื้นเพราะป้องกันจากหนูมารบกวนทางที่ดีตอกติดกับเสาดีที่สุดพร้อมช็อกกันมดขีดรอบเสาการเข้าคู่ของนกดูไม่ยากถ้านกจับคู่กันทั้งนกตัวผู้และนกตัวเมีจะเข้าๆออกๆรังที่เตรียมไว้ให้ เวลาดูนกกรุณาดูให้ห่างจากกรงหรือให้แอบดูเพราะจะได้ไม่เป็นการรบกวนนกอย่าทำให้นกตกใจกลัวเพราะนกจะไข่หดให้อาหารเสร็จก็ควรออกมาห่างๆและดูอยู่ไกลๆ2.แม่นกและพ่อนกจะฟักไข่อยู่14วันหรือสองอาทิตย์ลูกนกก็จะฟักเป็นตัวตอนนี้ควรเอาอาหารไข่รวมกับเม็ดพืชที่เตรียมไว้ให้พร้อมกับผักกาดหอมสอดเตรียมไว้ด้วยหลังจากเลี้ยงลูกประมาณ1-2อาทิตย์พ่อแม่นกก็จะออกจากรังมานอนข้างนอก ตอนนี้เจ้าของอย่าตกใจเพราะเป็นธรรมชาติลูกนกจะอยู่ในรังและพ่อแม่นกก็จะผลัดกันดูแล

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท