กระทงสาย


ไหลประทีปพันดวง

    อาจจะช้าไปสักหน่อยที่จะพูดถึงเทศกาลลอยกระทงอันลือชื่อของจังหวัดตาก   นั่นคือการลอยกระทงสาย ไหลประทีปพันดวง  แต่เนื่องจากติดภาระกิจนานัปการ ต้องขออภัยด้วยที่ไม่ได้เล่าสู่กันฟังตั้งแต่ช่วงเทศกาล  แต่คิดว่าเล่าวันนี้ก็คงไม่สายนะคะ   ประเพณีลอยกระทงสาย นั้นมีมาแต่โบราณ  ที่แปลกจากที่อื่นก็คือแทนที่จะนำกระทงที่ทำจากดอกไม้ใบตองมาลอย  ก็จะนำกะลาจำนวนมากมาลอยแทน  ซึ่งการลอยกระทงกะลาจำนวนมาก ซึ่งภายในกระทงจุดไฟประทีป  เป็นภาพที่สวยงามมาก  โดยเฉพาะลำน้ำปิงจะมีร่องน้ำที่กระแสน้ำไหลแรงไม่เท่ากัน กระทงกะลาเหล่านั้นก็จะลอยคดเคี้ยวไปตามกระแสน้ำที่ไหลแรง  เกิดเป็นภาพดวงไฟไหลตามกระแสน้ำเป็นสายไม่ขาดตอน  เคยมีนักข่าวนำไปเขียนว่า "การลอยกระทงสายที่จังหวัดตากใช้เชือกผูกติดกะลาเป็นสายยาว  แล้วนำไปลอยในลำน้ำ"   คนเมืองตากตกใจมากว่าผู้ที่นำไปเขียนได้ข้อมูลมาอย่างไร  หรือว่าไปนั่งดูกระทงสายแล้วคาดเดาเอาเองว่าเป็นอย่างนั้น  หลายคนอาจไม่รู้ว่าการที่กระทงกะลาจำนวนนับพันใบที่ลอยได้ระยะ  ไม่ขาดสายนั้น ต้องใช้เทคนิคการลอยเฉพาะตัวที่จะทำให้เกิดภาพสวยงามอย่างนั้น   คนปล่อยกระทงต้องเก่งเรื่องกระแสน้ำ  ต้องรู้ว่ากระแสน้ำอย่างไรต้องปล่อยกระทงอย่างไรจึงจะทำให้กระทงลอยไปไม่ขาดสายและเกิดเป็นภาพที่สวยงาม  ไฟในกระทงต้องไม่ดับ  กระทงต้องไม่พลิกคว่ำ  หรือแตกแถวเสียก่อน  ทำให้เกิดการแข่งขันการลอยกระทงสายทุกปีว่าการลอยของชุมชนใด หมู่บ้านใดที่จะชนะเลิศในสายตาของกรรมการที่ต้องเฝ้าดูกระทงสายแต่ละจุด  กรรมการจึงมีหลายชุดตลอดคุ้งน้ำที่กำหนดไว้  

                         การลอยกระทงสายนั้นก่อนที่แต่ละหมู่บ้านหรือแต่ละชุมชนจะทำการลอย   จะต้องมีการลอยกระทงนำ  ซึ่งเป็นกระทงขนาดใหญ่ทำด้วยดอกไม้ใบตองประดิดประดอยจนสวยงาม   บรรจุเครื่องผ้าป่า เช่น ผ้าสบง   หอม  กระเทียม  กับข้าวคาวหวาน  เป็นต้น   เพื่อเป็นการทอดผ้าป่าน้ำ  มีการทำพิธีขอขมาแม่น้ำเสียก่อน  เมื่อเสร็จพิธีก็จะลอยกระทงนำไปก่อน  แล้วลอยกระทงสายที่ทำด้วยกะลา  ขณะที่ลอยกระทงสายก็จะมีกองเชียร์ร้องรำทำเพลงตั้งแต่เริ่มลอยและเพลงต้องจบพอดีกับการสิ้นสุดการลอยกระทง   เพลงที่ใช้ในการร้องเชียร์ก็จะเป็นเพลงพื้นบ้านทั้งหมด  เมื่อลอยกระทงสายจบสิ้นแล้ว  จะต้องลอยกระทงตาม  ซึ่งเป็นกระทงลักษณะเดียวกับกระทงนำแต่มีขนาดเล็กกว่าและไม่ต้องมีเครื่องทอดผ้าป่า     การลอยกระทงตั้งแต่เริ่มจนจบเรียกว่าเป็นสาย   ในแต่ละคืนก็จะมีการลอยหลายสาย ทั่วท้องน้ำจะสว่างไสวด้วยแสงไฟจากกระทงนับพัน ๆ ใบ   สวยสมกับคำว่า ไหลประทีปพันดวงจริง ๆ     

 

หมายเลขบันทึก: 151234เขียนเมื่อ 4 ธันวาคม 2007 09:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 17:26 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
         เพิ่งได้ความรู้ใหม่ และเป็นความรู้ที่กลั่นมาแล้ว ขอบคุณมาก ๆ เพราะตามความเข้าใจของผม ผมยังเข้าใจว่า ต้องมีการร้อยเชือก หรือเส้นเอ็น เพื่อให้กระทง ลอยไปด้วยกัน ขอบคุณอีกครั้งหนึ่งนะครับ
น่าชื่นชมภูมิปัญญาของชาวบ้านที่สามารถรังสรรค์การลอยกระทงให้ดังไปทั้งประเทศได้ ด้วยลีลาการลอยกระทงที่ไม่มีที่ไหนเหมือน
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท