ความงดงามของถ้อยความใน พ.ร.บ.มหาวิทยาลัย


 

หมวด ๑

บททั่วไป

---------------

 

พ.ร.บ. ม.นเรศวร 

พ.ร.บ. ม.มหิดล 

มาตรา ๗  ให้มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันทางวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง มีวัตถุประสงค์ ให้การศึกษา ส่งเสริมและพัฒนาวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง ทำการสอน ทำการวิจัย ให้บริการทางวิชาการแก่สังคม และทะนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรมเพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาชุมชน สังคม และประเทศชาติ  มหาวิทยาลัยเป็นสถานศึกษาระดับอุดมศึกษา  ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระนามาภิไธย ของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร  อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ให้เป็นนามของมหาวิทยาลัย มีวัตถุประสงค์ในการสร้าง พัฒนา ประมวล และประยุกต์องค์ความรู้ทั้งมวล และดำเนินการให้มีการเรียนรู้ในองค์ความรู้ดังกล่าว  รวมตลอดทั้งเผยแพร่ความรู้  ส่งเสริม  ป้องกัน และรักษาสุขภาพอนามัย ทะนุบำรุงศาสนา  ศิลปะ วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และการกีฬา ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมเป็นส่วนรวม 
หมายเลขบันทึก: 151213เขียนเมื่อ 4 ธันวาคม 2007 07:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:49 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ผมคิดว่านะครับ การที่มหาวิทยาลัยมหิดล สามารถที่จะยังคงเอกลักษณ์ในการผลิตบุคคลกรสายวิทยาศาสตร์และแพทย์ได้อย่างเหนียวแน่น เป็นที่เชื่อมั่นและศรัทธาตลอดจนความไว้วางใจในสายตาของหมู่นักศึกษาและประชาชนทั่วไป แต่บางมหาวิทยาลัยที่ยังคงหาเอกลักษณ์ของตัวเองไม่ได้ ไม่พัฒนาจุดเด่นของตัวเองแต่อยากที่จะยืนอยู่บนที่สูงอย่างสง่างามเช่นมหิดลนั้นคงเป็นไปได้ยาก การศึกษาก็เช่นเดียวกับตึกสูงถ้ารากฐานที่ไม่มั่นคงฉันใด ยอดตึกคงไม่สามารถที่จะสวยได้หรอกครับ

  • ถ้าเปรียบมหาวิทยาลัยดั่งคน  มหาวิทยาลัยมหิดลก็เปรียบเหมือนคนรุ่นคุณทวด อายุ 100 กว่าปีแล้วค่ะ
  • ส่วน มหาวิทยาลัยนเรศวร ถ้านับตั้งต้นเอาตอนมาอยู่หนองอ้อ เป็นผู้หญิงก็เพิ่งจะแตกเนื้อสาว ถ้าเป็นผู้ชายก็ยังเป็นเด็กกะโปโล อายุ 15 หยกๆ 16 หย่อนๆ เท่านั้นเอง
  • จึงเป็นธรรมดาค่ะ ที่สถาบันใหม่ๆ จะยังไม่มีเอกลักษณ์อะไรโดดเด่น ต้องใช้เวลาสั่งสมประสบการณ์ หาความเชี่ยวชาญเฉพาะตัว

          ดังนั้น  หากคนรุ่นหนุ่ม รุ่นสาว เป็นคนยุคใหม่ ไฟแรง มีวุฒิภาวะสูง ใฝ่เรียนรู้ และอ่อนน้อมถ่อมตน  ก็อาจไม่ต้องการเวลาถึง 100 ปี ที่จะค้นพบศักยภาพที่แท้จริงของตน และประสบความสำเร็จแต่เยาว์วัย

          เปรียบได้ดังเช่นการเจริญเติบโตของมหาวิทยาลัย  ฉันใดก็ฉันนั้น

 

ผมได้ทราบมาว่า พนักงานนั้นไม่มีกฏหมายรองรับ ดังนั้นจริงๆแล้วขั้นเงินเดือนของพนักนั้นไม่ขึ้นก็ได้...แต่ที่ขั้นเงินเดือนของพนักงานที่ขึ้นทุกวันนี้นั้นขึ้นได้ด้วยเงินรายได้ของมหาวิทยาลัย ดังนั้นถ้ายังไม่ออกนอกระบบแล้ว มหาวิทยาลัยก็ยังต้องใช้เงินรายได้นี้ขึ้นขั้นเงินเดือนไห้กับพนักงานอยู่ และต่อไปถ้ามหาวิทยาลัยอุ้มไม่ไหวก็ตัวใครตัวมันและอาจจะไม่ขึ้นขั้นเงินเดือนไห้กับพนักงานอีกแล้ว

ดังนั้นจึงอยากเรียนถามอาจารย์ว่า ที่ได้ยินมานี้มีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรครับ

ต้องขอประทานโทษจริงๆ ดิฉันก็ไม่ทราบค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท