"...พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช..."พระราชทานไว้ ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2550...

วันนี้ขออนุญาตนำเอาพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงพระราชทานแก่บรรดาเหล่าทหารรักษาพระองค์และประชาชนทุกคน...' ในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวนสนามของเหล่าทหารรักษาพระองค์ เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ประจำปี 2550...'   พระราชทานไว้ ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2550  ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า ให้ได้รับทราบกันอีกสักครั้ง ความว่า...

"...ข้าพเจ้าและพระราชินี มีความยินดียิ่งนัก ที่ได้มาอยู่ในท่ามกลางทหารรักษาพระองค์ในพิธีตรวจพลสวนสนามในวันนี้ ขอขอบใจในไมตรีจิตของทุกคน และขอสนองพรกับทั้งไมตรีจิตนั้น ด้วยใจจริงเช่นกัน

    ไทยเรารักษาเอกราชและผืนแผ่นดินให้มั่นคงเป็นปึกแผ่นมาได้ ก็เพราะเราทุกคนมีความสำนึกตระหนักในความเป็นไทยและหน้าที่ ที่จะธำรงรักษาชาติ ประเทศไว้ให้เป็นอิสระมั่นคง ตามประวัติการณ์ที่ปรากฏมา คนไทยจึงมีจิตใจผูกพัน ปรองดอง อันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่แยกพวก แยกเหล่า มีปกติสามัคคี พร้อมเพรียงกันเสมอ

     แต่สถานการณ์บ้านเมืองเราในทุกวันนี้ เป็นที่ทราบแก่ใจของเราทุกคนที่สุดแล้วว่า ไม่น่าไว้วางใจ พูดได้ว่า หากคนไทยขาดความสำนึกในชาติ ขาดความสามัคคี ก็อาจประสบเคราะห์กรรมกันทั้งชาติ

     จึงขอให้ทหารทุกคน และชาวไทยทุกคน ทุกหมู่ ทุกเหล่า ได้พิจารณาตัดสินใจว่า ประเทศชาติของเรานั้น  สำคัญควรที่เราจะรักษาไว้ให้ยั่งยืนต่อไปหรือไม่

     ถ้าเห็นว่าสำคัญ มั่นใจ ก็ขอให้สังวรระวังกาย ใจ ให้ตั้งมั่นอยู่ในความสัตย์สุจริต พยายามลดอคติ และสร้างเสริมความเมตตา สามัคคีในกันและกัน ไม่ว่าจะทำการสิ่งใด ให้ยึดเอาความมั่งคงปลอดภัยของชาติ เป็นที่หมายสูงสุด

     ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กับทั้งอำนาจแห่งความภักดี โดยบริสุทธิ์ใจในชาติบ้านเมือง จงดลบันดาลให้ทุกๆท่านประสบแต่ความสุข สวัสดี และความสำเร็จ สมประสงค์จงทั่วกัน...".....

นี่คือพระบรมราโชวาทที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานแก่เหล่าทหารและพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ได้รับไว้ใส่เกล้าใส่กระหม่อมโดยทั่วกัน ก็ให้เราทุกคนจงพึงตระหนักไว้

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม

________________________________________

[mybe27]

สถานการณ์บ้านเมืองมีแต่จะเลวร้ายลงทุกวัน แต่คนไทยบางกลุ่มบางคณะก็ยังทำเป็นหูทวนลม ต่อกระแสพระราชดำรัสของในหลวงกันได้อย่างไม่อายฟ้าดินกันบ้างเลย ถึงแม้ว่าจะตบเท้าออกมารับปากกันว่าจะทำ จะปฏิบัติตามก็จริง แต่มันก็เหมือนแบบขอไปที เป็นอย่างนี้กันทุกปี แล้วพอผ่านไปสักระยะหนึ่งก็ลืมกัน แล้วก็กลับมาทะเลาะกันต่อ อย่างนี้แล้วจะออกมารับปากให้เปลืองน้ำลายกันไปทำไมมิทราบ ระวังจะเป็นโรคปากนกกระจอกกันล่ะ (จะได้รู้กันไปเลยว่าใครบ้างที่ดีแต่พูดกันบ้าง)

[ณัฏฐ์ อนุเซน สกุลรินไซ]

ท่าน mybe27 สบายดี

เห็นด้วยเลยครับ เห็นด้วยสุดตัว ขออวยพรให้คนแบบนั้นมันเป็นโรคปากนกกระจอก จะได้รู้จักหลาบจำ ในเมื่อมาตรการทางกฎหมายทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องเล่นของกันละครับงานนี้ ถึงแม้ว่ามันจะดูงมโข่งไปบ้างก็เถอะ มันก็ยังดี สบายใจดี แต่ถ้ามันเป็นจริงๆจะมากๆๆๆยกกำลังล้านเลย เหอะ เหอะ เหอะ

ขอบคุณขอรับที่แวะมาเยี่ยมเยือน