คำว่า ไม่ ไม่ ไม่ จ่อไว้ในหัวข้อบันทึก คำว่าไม่คำนี้กลับแปรเปลี่ยนและนำไปสุ่การเรียนรู้ การฝึกตน และ แลกเปลี่ยนเรียนรู้
ไม่ ไม่ ไม่ ของข้าพเจ้าในความหมายนี้ เกิดขึ้นเมื่อโรงเรียนที่ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานหน้าที่ครูผู้สอน ได้รับงบจัดสรรระบบคอมพิวเตอร์ เป็นระบบปฏิบัติการวินโดว์ 95 พร้อมติดตั้งระบบเครือข่ายภายใน เมื่อการดำเนินการติดตั้งเสร็จสมบูรณ์ ครูที่ทำหน้าที่ดูแลพร้อมท่าน ผอ.ก็ได้รับการอบรมเกี่ยวกับความรู้เบื้องต้นในการใช้งาน
ข้าพเจ้าเดินผ่านห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ทุกวัน เมื่อเหลียวมองทีไรภายในใจคิดว่า จะไม่สนใจและเข้าไปจับต้องระบบใหม่ที่แสนจะดูแล้วยุ่งยาก และคนรุ่นข้าพเจ้าที่ไม่ได้ผ่านการเรียนรู้มาโดยตรง(ตอนนั้นอายุ 30 ต้นๆ) คงไม่จำเป็นต้องใช้ เพราะไม่iรู้จะใช้ทำอะไร
แต่คำว่าไม่ ไม่ ไม่ ข้องข้าพเจ้าต้องเป็นหมัน เมื่อท่าน ผอ.บอกว่าเมื่อทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ธุรการ จำเป็นต้องเรียนรู้คอมพิวเตอร์เพื่อนำระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ในการปฏิบัติงานแทนเจ้าเครื่องพิมพ์ดีด จากคำว่าไม่ ไม่ ไม่ ก็เลยต้องกลายเป็น จำใจ จำใจ จำใจต้องฝึก จำเป็นต้องเรียนรู้ บันใดขั้นแรกก็ได้รับความรู้จากครูผู้รับผิดชอบห้องช่วยแนะนำเรื่องเปิด ปิด การใช้โปรแกรมออฟฟิศ 95 พร้อมทั้งหัดใช้เมาส์และคีบอร์ด จับเมาส์ครั้งแรก นิ้วสั่งงานไม่สัมพันธ์กัน พาเมาส์เดินก็มือไม้มันสั่น .......
ด่านที่หนึ่งในการเปิด ปิด การใช้เมาส์ การใช้คีบอร์ด ก็เรียนรู้อยู่หลายวันกว่าจะเข้าที่เข้าทาง....... แต่เริ่มภูมิใจและเริ่มสนใจที่จะเอาจริงเอาจังกับเจ้าคอมพิวเตอร์ ประกายแห่งการเรียนรู้สิ่งใหม่เริ่มขึ้น ณ บัดนั้น
นี่เป็นแค่เพียงจุดเริ่มต้น พบกับเหตุการณ์ในตอนต่อไปนะครับ คืนนี้ห่วงนอนแล้วล่ะครับ
อืมม..เชื่อว่าประกายที่จุดไว้ยังส่องอยู่จนถึงปัจจุบัน..
ภูมิใจกับประกายของครูรัตน์ ขอให้ออสโมซิส มายังลูกศิษย์ แต่คงมีประกายสู้อาจารย์ไม่ได้ดอกนะคะ