คำสองคำ ธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา
มีคำอยู่ 2 คำ เป็นคำธรรมดา ความหมายเป็นที่รู้กันโดยทั่วไป ไม่ซับซ้อน แต่เมื่อคิดดูให้ดีกลับมีความหมายที่ไม่ธรรมดา นั่นคือ คำว่า
- ไม่มี
- มี
เมื่อ "ไม่มี" บางสิ่งมนุษย์เราก็ดิ้นรนต่อสู้เพื่อที่จะ "มี" บางสิ่งนั้น
แต่เมื่อ "มี" แล้วก็ปรารถนาที่จะ "มี" เพิ่มมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆ ในหลายๆครั้ง แทนที่จะใช้สิ่งที่ "มี" อยู่อย่างที่มันควรจะเป็น กลับใช้มันไปในทางที่ไม่เหมาะสมและไม่ถูกต้อง จนกระทั่งสิ่งที่ "มี" นั้นกลับกลายเป็น "มี" เงื่อนไขที่ไม่พึงปรารถนา หรือในที่สุดก็กลายเป็น "ไม่มี"
ชีวิตของเราจึงเผชิญอยู่กับ 2 คำนี้ ไม่ว่าจะในปัจเจกบุคคล กลุ่ม องค์กร สถาบัน ชุมชน สังคม ประเทศ ทวีปและโลก
และไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ
- ความรัก
- ครอบครัว
- ลูกหลาน
- งาน
- เงิน
- บ้าน
- ตำแหน่ง
- หน้าที่
- ชื่อเสียง
- เกียรติยศ
- เพื่อน
- ความสงบ
- เสถียรภาพทางการเมือง
- เศรษฐกิจที่เติบโต
- กำไร
- งบประมาณแผ่นดิน
- ศรัทธา
- สุขภาพ
- วัยหนุ่มสาว
- เวลา
- และสุดท้ายคือ "ชีวิต"
หากเรายังคง "มี" สิ่งต่างๆดังรายการข้างต้น ก็จง ใช้มันอย่างดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ และใช้มันอย่างคุ้มค่า เหมาะสม เกิดประโยชน์สูงสุด รักษาดุลยภาพของสิ่งที่ "มี" เหล่านั้น อย่ารอ อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง จนกระทั่ง "ไม่มี" สิ่งใดเหลืออีกต่อไป
ลองถามคนภาคใต้ดูซิครับว่า "สันติภาพ" ราคาเท่าไหร่???
ความเห็น (6)
สวัสดีค่ะบัง...
มีคำถามทิ้งท้ายไว้ให้ได้คิด..."สันติภาพ" ราคาเท่าไร??...จริง ๆ มนุษย็ก็ต่างมุ่งแสวงหาสันติภาพ...แต่ตามท้องตลาดก็ไม่มีขายซะด้วย...เมื่อไม่ได้สิ่งนั้นมา เราจึงควร "รักษาดุลยภาพของสิ่งที่ "มี" เหล่านั้น อย่ารอ อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง จนกระทั่ง "ไม่มี" สิ่งใดเหลืออีกต่อไป"...เมื่อนั้นสันติภาพคงจะตามมาค่ะ
ขอบพระคุณมากค่ะ
สวัสดีครับ อ.Vij
ผมชอบประโยคที่ อ.Vijเขียนไว้ว่า "จริง ๆ มนุษย็ก็ต่างมุ่งแสวงหาสันติภาพ...แต่ตามท้องตลาดก็ไม่มีขายซะด้วย..." ครับสันติภาพ ไม่มีวางขายตามท้องตลาดเหมือนบะหมี่สำเร็จรูป หรือกาแฟพร้อมดื่ม สันติภาพต้องปรุงจากใจ ด้วยการกระทำ ด้วยความเสียสละ สูตรของเมนูสันติภาพ มิได้เป็น "ความลับ" แต่อย่างใด "สันติภาพ" เป็นอาหารจานโปรดและเป็นที่ปรารถนาของมนุษย์ทุกคน แต่...แปลกเหมือนกันที่เราไม่ค่อยได้ลิ้มรสอันโอชะของสันติภาพ เราเพียงแต่ "อยากทานมัน" แค่นั้นเอง...
สวัสดีครับอ.อาลัม
ผมขอเรียก"บัง"ด้วยก็แล้วกันครับ เมื่ออ่านบทความของบังแล้วสะท้อนให้เห็นถึงความไม่พอของคนบ้างคนที่เมื่อมีแล้วก็อยากจะมีอีกจนไม่มีอะไร ..."สันติภาพ" ราคาเท่าไร??.. แล้วใครละเป็นคนขาย "ไม่มี" ต้องสร้างขึ้นเองจากตัวของเรา "รักษาดุลยภาพของสิ่งที่ "มี" เหล่านั้น อย่ารอ อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง จนกระทั่ง "ไม่มี" สิ่งใดเหลืออีกต่อไป" เป็นคำพูดที่ถูกต้องทีสุด
สวัสดีค่ะ...อาจารย์อาลัม
ใช่เลยค่ะอาจารย์คำสองคำนี้...ธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา...ทุกอย่างต้องอยู่บนความพอเพียงอย่างจริงใจค่ะ....และชอบมากเลยค่ะที่อาจารย์บอกว่า "สันติภาพ" ราคาเท่าไหร่??? สิ่งใดเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสิ่งไหนไม่มีขายอยากได้ต้องช่วยกันทำค่ะ
สวัสดีครับท่าน ดร. เมธา สุพงษ์
ดีใจมากครับที่ท่านดร. เมธา แวะมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับ ที่ถามว่า "สันติภาพราคาเท่าไหร่นั้น" หลังจากที่เราสูญเสียสันติภาพไปแล้ว รัฐจัดสรรงบประมาณเท่าไหร่ เพื่อนำกลับคืนมาซึ่งสันติภาพที่เคยมี นี่ยังไม่นับ ความสูญเสียทางเศรษฐกิจ การศึกษาที่สูญไปจำนวนมหาศาล รวมถึงการสูญเสีย "โอกาส" ของทรัพยากรบุคคลในพื้นที่ที่หากสงบแล้ว เขาและเธอจะมีที่ยืนของตน และหากนับ "ชีวิต" ที่ล้มลงถมหุบเหวแห่งความไม่สงบด้วยแล้ว คงคำนวณค่ามิได้ทีเดียวครับ ขอบคุณท่านดร. เมธา อีกครั้งครับที่แวะมาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับ
สวัสดีครับท่านอาจารย์noktalay
เคยอ่านผ่านตา แม้แต่ความรักนักวิทยาศาสตร์ก็อธิบายปฏิกิริยาทางเคมีที่เกิดขึ้นในร่างกายของ "คู่รัก" เลยคิดเอาว่า "สันติภาพ" ก็น่าจะมี "โครงสร้างทางเคมี" ที่ประกอบด้วย "องค์ประกอบที่มีลักษณะเฉพาะของมัน" เช่นกัน
เมื่อใดที่ องค์ประกอบ ตัวหนึ่งตัวใด หลายตัว หรือทั้งหมด เปลี่ยนไป ก็ย่อมทำให้ ความเป็น"สันติภาพ" เปลี่ยนไปตามโครงสร้างที่เปลี่ยนไปด้วย
ในมุมของนักเคมี การนำสันติภาพกลับคืนมา ก็คือ การคืนค่าขององค์ประกอบทางเคมีของสันติภาพ "ที่เปลี่ยนไป" นั้น ยัง "ธรรมชาติ" ดั้งเดิมของมัน หากตัวหนึ่งตัวใดเปลี่ยนไป ก็คืนค่าตัวนั้น หากหลายตัวก็คืนค่าหลายตัวนั้น และหากทั้งหมดขององค์ประกอบที่เปลี่ยนไป แน่นอนครับ เราคงต้อง นำทุกๆองค์ประกอบกลับคืนสู่ธรรมชาติดั้งเดิมของ สันติภาพที่แท้จริง จะคืนค่าบางองค์ประกอบตามใจคงจะไม่ได้ หรือหากทำเช่นนั้นจริง มันก็จะกลายเป็น "บางสิ่ง" ที่ไม่ใช่ "สันติภาพ" ตามโครงสร้างตามธรรมชาติที่แท้จริง ซึ่งในที่สุดแล้วมันก็จะ "แสดง" คุณสมบัติที่เป็นจริงของมันออกมา
และนี่คือสิ่งที่ "ยุ่งยากซับซ้อน" กว่าปฏิกิริยาทางเคมี เพราะมีปัจจัยของ "ความคิด ทัศนะคติ ความเชื่อ ค่านิยม ผลประโยชน์ อัตตา ชาติพันธ์ และบริบทต่างๆอีกมากมายหลากหลายเกินจะพรรณา"
การเฝ้าระวังและดูแล "องค์ประกอบของสันติภาพ" ให้ดำรงอยู่ในคุณสมบัติดั้งเดิมของมัน จึงน่าจะเป็นสิ่งที่ "ควรทำอย่างที่สุด" ภาคใต้เป็นบทเรียนราคาแสนแพง ซึ่งพวกเราชาวภาคใต้ "ตระหนักดี" แม้กระนั้น ข่าวสารที่ถูกนำเสนอผ่านสื่อต่างๆ ไม่ได้ดำเนินไปตามวิถีของ "การเรียนรู้จากบทเรียนที่ผ่านมา" สักเท่าไหร่???
คงต้องถามต่อครับว่า สันติภาพของไทยทั้งประเทศราคาเท่าไหร่??? ใครรู้ช่วยตอบที