แร้วมีไว้ดักกระต่าย เมื่อจับได้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องใช้
การจัดการความรู้ภายในองค์กร-ภายในวลัยลักษณ์ เมื่อมีผู้รับผิดชอบดำเนินการแล้วก็หมดหน้าที่แล้ว ยิ่งมีการขยายเป็นแบบอย่างสู่ภายนอกยิ่งเป็นเรื่องดี ก็ติดตามข่าวด้วยมุทิตาจิตเสมอ
บทบาทที่ผมสนใจคือการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและประชาสังคม
ในความหมายอย่างกว้าง องค์กรภาครัฐก็เป็นภาคประชาสังคมด้วย แต่จุดเน้นสำคัญคือ ภาคชุมชน ซึ่งควรจะเป็นเป้าหมาย แต่กลายเป็นเครื่องมือของภาคส่วนต่างๆ ไม่อยากให้ใช้การจัดการความรู้เพื่อไปสู่ความสำเร็จของตนเองเช่นที่ภาคธุรกิจดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน
ผมไม่มีอำนาจในฐานะผู้บริหาร
ถ้าจะมีก็เป็นความรู้และความตั้งใจเท่านั้น
หลักจัดการความรู้ของผมคือ
1)มรรคแปด(คนสนใจKMต้องทำเป็นการส่วนตัว)
2)ทิศหก(คนสนใจKMต้องรู้จักทิศของตัวเองและทำกับทิศรอบตัวให้ถูกต้อง)
3)ทิฏฐิและศีลเสมอกัน(ขยายข้อ1และ2
คนสนใจKMต้องมีทิฏฐิในข้อ1และมีศีลคือข้อปฏิบัติในการอยู่ร่วมกันอย่างปกติตามบทบาทหน้าที่-ทิศของตนและรอบข้าง)
การจัดการความรู้จึงเป็นการทำงานเรื่องความรู้ที่ต้องมองตนเองจากภายในซึ่งทำได้ไม่ง่ายนัก
เพราะหากจัดการไม่ดี จะกลายเป็น
ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด
จัดการความรู้คือ มีความรู้ที่เอาตัวรอดได้ จะรอดขนาดไหนก็ต้องวินิจฉัยกันเอาเอง ถ้าพูดตามภาษาธุรกิจก็ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือภาษาพระก็ตามทิฏฐิของแต่ละคนนั่นแหละครับ
ไม่มีความเห็น