ตามอ่านบล็อกของท่านครูบาสุทธินันท์ ว่าด้วยการศึกษา
ทั้งตอนหลักสูตรทิ้งถิ่น หนทางผลิตบัณฑิตในฝัน และ กระทงเท้งเต้ง กระทงการศึกษา
ได้เพิ่มพูนปัญญาจากข้อคิดเห็นจากหลายท่าน
พลอยให้ต้องไปตามอ่านอีกหลายบล็อก
คุณบางทรายบอกว่า
ลุงเอกบอกว่า
<p>
คงต้องผสมผสานทั้งศาสตร์และศิลป์เข้าด้วยกัน
คุณครูที่มุ่งแต่ศาสตร์ วาดภาพแต่ในตำรา หามีปัญญาไม่
เราไม่ทิ้งศาสตร์ แต่ศิลปในการสอน การนำเสนอเนื้อหา ที่ไม่ต้องยึดติดแต่ในห้องเรียนเหลี่ยมๆ
โต๊ะเก้าอี้เรียงเป็นแถวๆ ไม่สร้างปัญญาการเรียนรู้สักเท่าไร
คงต้องไปดูภายนอกห้องเรียนแล้วนำมาเล่าเรื่องอย่างที่ชาวบล็อกเขาทำกัน</p><p></p><p>ทั้งบัณฑิตที่สังคมไทยควรผลิตของคุณเม้ง
และยังชอบใจกับ ประเด็นการเสนอให้มีโรงเรียนสอนพ่อแม่ของคุณ คนดอย</p><p></p><p>เป็นเรื่องราวที่ตรงใจ แม้ไม่ได้อยู่ในแวดวงของผู้ผลิตบัณฑิต
แต่คลุกคลีอยู่กับการดูแลเด็กๆ ในโรงเรียน</p><p>
ด้วยความหวัง ความฝัน ให้เด็กเติบโตและก้าวสู่วิถีชีวิตที่ดีงาม
ทำให้มีโจทย์อยู่ในใจเสมอมา</p><p>จะทำความหวัง ความฝัน นั้นให้เป็นจริงอย่างไร
จะหาใครมาร่วมฝัน
จะก้าวเดินไปอย่างไร ท่ามกลางข้อจำกัดที่มีอยู่ไม่น้อย
ทั้งต้องคอยจัดสรรกำลังทรัพย์ กำลังคน กำลังสติปัญญา ให้พอเพียงแก่การงาน
ทั้งต้องจัดการกับใจของตน ที่บางครั้งอ่อนล้ากับการเดินทางที่ดูแตกต่างจากใครอื่น</p><p></p><p>การเป็นคนเล็กๆ ในสังคม ที่ไม่อาจรอคอยการเปลี่ยนแปลงของระบบการศึกษา
จึงต้องพึ่งพาการระดมสรรพกำลังเท่าที่มีอยู่...แม้น้อยนิด
ให้คิดทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลัง</p><p></p><p>ช่วยกันตั้งความหวังและมุ่งมั่นสร้างให้เด็กของเรา มีความใฝ่รู้
มีวินัย มีน้ำใจ และรู้จักใช้ปัญญาในการเลือกดำเนินชีวิต
ให้รู้คุณค่า รักษาวัฒนธรรมอันดีงาม
ให้เติบโตอย่างสมบูรณ์ทั้งกายและใจ</p><p></p><p>ทั้งชวนกันฝึกฝนตนเองเพื่อจะ สอนด้วยความรัก
รักในการสอน รักที่จะเข้าใจเด็ก และรักในการเรียนรู้
สอนด้วยความรู้ อันผสานด้วยศาสตร์ และ ศิลปะในการดำเนินชีวิต
สอนด้วยความเป็นครูอย่างแท้จริง</p><p></p><p>งานของการเป็นครูมีรายละเอียดมากมาย และเหนื่อยหนักสมกับคำว่า คุรุ
ทั้งงานสอน งานดูแลเด็ก งานพัฒนาตนให้ต่อเนื่องทันเหตุการณ์
ทั้งงานความคาดหวังของสังคม ที่ระดมสรรพปัญหาให้ครูร่วมรับผิดชอบแก้ไข
แต่ในความเหนื่อยหนัก ก็มีความสุขจากความเติบโตของเด็กคอยหล่อเลี้ยงใจให้ชื่นบาน
จึงมีครู ที่รักในการเป็นครู และมุ่งมั่นทำหน้าที่ของตนอยู่เสมอ</p><p></p><p></p><p>เมื่อได้ติดตามอ่านความคิดของผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์ ผ่านบล็อก
ได้รู้เห็นถึงความพยายามที่จะผลักดันให้เกิดสิ่งดีในวงการศึกษา
ได้แนวทางความคิดที่หลากหลาย
จึงได้เรียนรู้เรื่องราวที่ตรงใจ และ เติมใจให้มีความหวัง
ทั้งยังอยากชักชวนกันสร้างความฝันให้เป็นจริง
ด้วยกำลังสติปัญญาของคนเล็กๆ อย่างเราๆ..</p><p></p><p></p><p></p><p></p><p>แด่..คุณครู อาจารย์ ทุกท่าน</p><p></p>
คุณครูอึ่ง dd_l ครับ
ทุก ๆ ท่านที่กล่าวมามีประสบการณ์มากมายที่นำมาบอกกล่าวและแลกเปลี่ยน ข้อคิดดีๆ สามารถนำมาต่อให้เกิดประโยชน์ได้มากมาย ขอบคุณที่หยิบยกประเด็นที่เป็น ช็อตเด็ดมานะค่ะ
สวัสดีครับพี่สาว
เป็นอย่างไรบ้างครับ เห็นภาพที่น่ารักของคุณครูกับหนูน้อย แล้วอบอุ่นจริงๆ นะครับ ทำให้คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ที่เคยผ่านมา ผมยังไม่ได้เขียนชื่นชมคุณครูในชีวิตผมเลยครับ กะว่าจะเขียนมาตั้งแต่ ป.หนึ่ง จนถึงปัจจุบันครับ แย้มตอนแรกไว้แล้วเป็นปฐมบท พระธรรมชาติครับ
ขอให้มีความสุขกับน้องๆ นักเรียนนะครับ อนาคตของชาตินะครับ
ขอบคุณมากครับ
งานของการเป็นครูมีรายละเอียดมากมาย และเหนื่อยหนักสมกับคำว่า คุรุ
ทั้งงานสอน งานดูแลเด็ก งานพัฒนาตนให้ต่อเนื่องทันเหตุการณ์
ทั้งงานความคาดหวังของสังคม ที่ระดมสรรพปัญหาให้ครูร่วมรับผิดชอบแก้ไข
แต่ในความเหนื่อยหนัก ก็มีความสุขจากความเติบโตของเด็กคอยหล่อเลี้ยงใจให้ชื่นบาน
จึงมีครู ที่รักในการเป็นครู และมุ่งมั่นทำหน้าที่ของตนอยู่เสมอ
เป็นบันทึกที่ชื่นชอบ(อีกแล้ว) จ๊ะคุณเพื่อน
เพิ่มความเห็นในส่วนของการเป็นครู...ผู้สร้างโมเดลของชาติในอนาคตทั้งระยะใกล้และไกล
"คนเป็นครู...แม้เปลี่ยนอาชีพในวันหนึ่ง ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เคยสร้างคนขึ้นมาอย่างไร....
เหมือนที่เคยสอนนักศึกษาพยาบาลเสมอว่า...เมื่อเราปฏิบัติงานในส่วนของสูติศาสตร์ เราปฏิเสธไม่ได้ว่า คำแนะนำของเรา การดูแลของเรา ไม่ว่าขณะคุณแม่ตั้งครรภ์ หรือขณะคลอดและหลังคลอด มีผลกับอนาคตชาติไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง...เพราะเด็กน้อยในอุ้งมือเรา ทั้งที่ยังไม่เกิดและกำลังเกิด...หากเราดูแลด้วยความขาดสำนึก...ผลกระทบต่อสุขภาพของเขาในระยะยาวหรือแม้แต่ตลอดชีวิตนั้น...ก็มีผลพวงจากการปฏิบัติของเราด้วย...และมันคือวงจรที่จะย้อนกลับมา...เมื่อเราชราขึ้น..เราก็อยู่ในอุ้งมือของอนาคตชาติเหล่านี้...จำนวนหนึ่งอาจจะเป็นนายกรัฐมนตรี บางส่วนไปเป็นโจรการเมือง...บางส่วนไปเป็นเกษตรกรที่ขาดสำนึกของพิษจากสารเคมี....และบางส่วนอาจจะเป็นแพทย์พยาบาล....สุขภาพของเขาจึงมีความสำคัญต่อเนื่องอย่างนี้
ขณะที่เราปฏิบัติอย่างไร..เราต้องย้อนมาถามตัวเองเสมอว่า เรากำลังทำอะไรอยู่ และผลของมันจะกระทบกับอนาคตอย่างไร.....
การเป็นครูจึงไม่ใช่สิ่งที่ทำเพื่อวันนี้เพียงอย่างเดียว...ใช่ไหมจ๊ะเพื่อน....แต่คือการสร้างโมเดลของชาติและของโลกในไม่กี่ปีข้างหน้าด้วย..."
การเป็นครูจึงไม่ใช่เพราะ ได้รับเงินเดือน สอน ออกข้อสอบ ทำคะแนน สอบซ่อม ให้ผ่านไปเป็นปีๆ แต่มันคือการให้ชีวิตแก่คนอย่างนี้...
ก่อนนอนทุกคืน...จึงควรมีการไหว้ 5 ครั้งเป็นอย่างน้อย โดยตั้งใจระลึกถึงพระรัตนตรัย ท่านผู้มีพระคุณแก่ตนคือ บิดามารดา และครูอาจารย์
ทุกคนในโลกนี้ต่างเป็นนักเรียนของกันและกัน และก็อาจจะเป็นครูของใครด้วยก็ได้..แม้ทุกคนไม่ได้ถืออาชีพครูตามนิยายของการงานอาชีพนั้น...
ปราชญ์และบรรดาผู้ที่เต็มไปด้วยเมตตาจิตอุทิศความรู้แก่ผู้อื่นผ่านการเขียนลงบล็อก..ฉันจึงขอถือเป็นครูและขอคารวะเช่นกันค่ะ
ครูพี่อึ่งขา
ครู มาจากคำว่า "ครุ" แปลได้ว่า หนัก เพราะฉะนั้นงานของครูจึงหนัก
แต่แอบรู้นะ ว่ามีความสุขกับงานหนักนี้ใช่ไหมล่ะคะ? ^_^
เป็นกำลังใจตัวอวบอ้วนให้นะคะ ^_^
งานของการเป็นครูมีรายละเอียดมากมาย และเหนื่อยหนักสมกับคำว่า คุรุ
ทั้งงานสอน งานดูแลเด็ก งานพัฒนาตนให้ต่อเนื่องทันเหตุการณ์
ทั้งงานความคาดหวังของสังคม ที่ระดมสรรพปัญหาให้ครูร่วมรับผิดชอบแก้ไข
แต่ในความเหนื่อยหนัก ก็มีความสุขจากความเติบโตของเด็กคอยหล่อเลี้ยงใจให้ชื่นบาน
จึงมีครู ที่รักในการเป็นครู และมุ่งมั่นทำหน้าที่ของตนอยู่เสมอ
สวัสดีทุกท่านค่ะ
กล้วยไม้มีดอกช้า | ฉันใด |
การศึกษาเป็นไป | เช่นนั้น |
แต่ดอกออกคราใด | งามเด่น |
งานสั่งสอนปลูกปั้น | เสร็จแล้ว แสนงาม |
สวัสดีค่ะอาจารย์
สวัสดีตอนเช้าค่ะพี่สาว
มาทักทายก่อนออกจากบ้านค่ะ
อากาศตอนเช้าที่นี่กำลังดี ทางเหนอคงหนาวดูแลสุขภาพนะคะ
สวัสดีค่ะ
ขอร่วมรับรู้ด้วยคนนะคะ