สวัสดีครับท่านผู้อ่าน ผู้กำกับ นักแสดง
และเหล่าเพื่อนพ้องที่ได้ไปร่วมชม หรือยังลังเลใจว่าจะไปชมดี หรือไม่
สำหรับผม ได้ ไปชมมาแล้วครับ
ขอเรียนให้ทราบตามตรงว่า "งดงามจริงๆ ครับ"
แม้ว่าในตอนแรก ผมจะไม่ได้ตั้งใจไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้
แต่เพื่อนรุ่นน้องบังคับ ก็เลย "เลยตามเลย" ละฮะ
"ประทับใจมากครับ"
"ขอบคุณมากครับ ที่สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมา"
"ภาพยนตร์เรื่องนี้ ถือเป็นแรงบันดาลใจในประวัติชีวิตผม"
"และยังถือเป็นเครื่องมือปลดปล่อยพันธนาการในใจของกระผมได้ เป็นอย่างดี"
"ขอบคุณจริง ๆ ครับ งดงามจริง ๆ"
เพิ่มเติมนะครับ
คนที่ยังไม่ได้ไปดู ก็รอลุ้นกันเอาเองนะครับ ซาบซึ้งใจจริงๆ ขอบคุณมากครับ
คุณเคยชมภาพยนตร์เรื่องเดิม 5 ครั้งไหมครับ ผมเคย
ขอบคุณ "รักแห่งสยาม"
นี่คือข้อคิดที่ได้จากการชมครั้งที่ 5 ครับ
สิ่งที่ได้จากการชมในครั้งที่ 4 คือประโยคสั้น ๆ ที่น่าประทับใจ ซึ่ง พลอย ไลลา (จูน) พูดกับ สินใจ (สุนีย์) ว่า
คำถามนี้ ผมจะจดจำไว้ ตรวจสอบตัวเอง ในการดำเนินชีวิต ในการทำงาน ในการเล่น ในการอยู่ร่วมกัน
คำถามง่าย ๆ นี้ บางทีเราก็ลืมใส่ใจ ลืมคิด นึกไม่ออก แต่มันกลับสำคัญ และมีความหมาย ช่วยให้เราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
หากใครยังไม่ได้ชม อาจจะงง ๆ กับสิ่งที่ผมเขียน แต่เชื่อเถอะว่า หากเรามีความรักให้แก่กัน แล้วเราจะพยายามแสดงความรัก แต่ถามหน่อยเถอะว่า สิ่งที่เราพยายามทำหนะ มันช่วยให้อะไร ๆ ดีขึ้นจริงไหม
ขอให้ทุกคน นึกถึงคำถามนี้ นึกถึงหนังเรื่องนี้ "รักแห่งสยาม" เรื่องราวน่าประทับใจ ง่าย ๆ ในบ้านเราเอง
ขอบตคุณครับ
สิ่งที่ได้จากการชมครั้งที่ 3 (คิดว่าหลายคน คงหมั่นไส้แล้ว)
คือ ผมเห็นการเป็นนักวิจัย ของ พระเอกในเรื่อง นั่นคือ "มิว" (แสดงโดย พีช วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล)
หลายคนอาจจะงงว่า เป็นนักวิจัยได้ยังไงกัน
ตอบง่าย ๆ เลยนะครับ มีอยู่ฉากหนึ่ง ที่ พระเอกอีกคน คือ "โต้ง" ถาม "มิว" ว่า
แล้ว มิวก็เริ่มเล่าให้ฟังเลยว่า ความเหงา มันเริ่มต้นตั้งแต่ตอนที่ "โต้ง" ย้ายบ้านจากไป จากนั้น พอมิวเรอ่มโต แล้ว "อาม่าของมิว" ก้เสีย ทำให้มิว เหงาหนักเข้าไปกว่าเดิม เป็นความเหงาที่มาจากการลาจากทั้ง 2 ครั้ง
จนมิว เริ่ม สงสัย แล้วมิวก้พูดว่า
"เราเคยตั้งคำถามกับตัวเองว่า เป้นไปได้ไหม ที่เราจะรักใครโดยไม่กลัวการสูญเสีย และเป็นไปได้ไหมที่เราจะอยู่ได้โดยไม่รักใครเลย"
นี่คือ การตั้งคำถามสำคัญในชีวิตของตัวละคร มันช่างคล้ายกับชีวิตจริงของเรา ๆ ท่าน ๆ นะครับ
ถ้าเพียงเรา สงสัย ตั้งคำถาม และใคร่ครวญกับมัน ตรงนี้ คือ คุณสมบัติสำคัญของนักวิจัย ที่จะเป็นผู้มีวิจารณญาณ เป็นผู้นำแสงสว่างสู่สังคม
ขอคุณ "รักแห่งสยาม"
ขอบคุณพ่อแม่ที่รักเรา โดยไม่แคร์ หรือมีข้อแม้อะไรเลย
ครอบครัว และการตั้งคำถามในความรัก สำคัญจริง ๆ นะครับ