1.จัดโต๊ะอ่านหนังสือ จัดห้องให้สะอาด
2.อาบนำ้ให้สดชื่น นั่งอ่านในห้องที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
3.ไม่นอนอ่านหนังสือ
4.เมื่อท่องหนังสือจนรู้สึกเพลียอ่านต่อไม่ไหว ให้นอนพักสัก 1 - 2 ชั่วโมง
5.วางแผนการอ่าน ว่าต้องอ่านปริมาณเท่าไร แล้วต้องทำให้ได้จริงๆ อย่าผัดวันประกันพรุ่ง
6.เตรียมอุปกรณ์การเรียนให้พร้อม เตรียมหนังสือที่ใช้ในแต่ละวันให้เรียบร้อย
7.อ่านล่วงหน้าคร่าวๆ เพื่อให้รู้ทิศทางของวิชาที่เรียน และหาข้อสรุปในขั้นต้นของแต่ละวิชา
8.ขีดเส้นใต้ข้อความสำคัญ หรือทำเครื่องหมายที่ช่วยให้จำได้แม่นยำ
ใช้หลัก สุ จิ ปุ ลิ ในขณะเรียน
9.ทำแบบฝึกหัดล่วงหน้าในวิชาคำนวณ
10.บริหารเวลาให้เป็นสัดส่วนที่เหมาะสมในแต่ละวัน
เพียง 10 ข้อง่ายๆ ก็พอจะใช้เป็นฐานในการจัดการความรู้ได้แล้วค่ะ
ขอบคุณอ.กิติยามากเลยครับ สำหรับข้อคิดดีๆ ในการเรียนหนังสือแบบนี้ ตัวผมจะเอาไปปฏิบัติในการตั้งใจเรียนนะครับ
แต่สำหรับผมแล้วคิดว่าหลักๆ ที่สำคัญที่สุดคงไม่พ้น "การตั้งใจ" ของตัวเราเองหรอกครับ กว่าจะตั้งใจได้ก็ต้องมีกำลังใจหรือแรงใจดีๆ
เด็กจ่านกร้องเป็นเด็กที่หัวดีทุกคน (ไม่อย่างนั้นจะศึกษาเล่าเรียนได้รึ) ยังไงก็ขอให้ทุกคนตั้งใจเรียนนะ มีอะไรก็ถามไปเหอะอ.ที่ปรึกษานะ เขาไม่ว่าหรอก
ดีคับคุณกิติยา มีเนื้อหาสาระดีคับผมจะลองนำไปปฏิบัติเผื่อจะได้สอบติดโรงเรียนเตรียมทหารบ้าง วันนี้ไม่มีแสงมีแต่ความมืดมัว 10 ข้อนี้จะส่องทางให้ฉันเดิน ขอบคุณคับ จะคอยเป็นกำลังใจให้คับ
จะลองนำไปใช้ดูนะคะอาจารย์เพราะปรกติหนูเป็นคนที่เรียนไม่เก่งค่ะ ขอบคุณอาจารย์มากนะคะที่ให้เทคนิค เพราะสิ่งสำคัญของเราตอนนี้ก็คือเรียนหนังสืออย่าลืมตั้งใจเรียนกันนะคะ จะไม่ทำให้อาจารย์ของหนูผิดหวังค่ะ กันติศา
สวัสดีอีกครั้งค่ะอาจารย์ วันนี้หนูมีเรื่องของในหลวงที่เราอาจไม่เคยรู้มาฝากค่ะ
45. โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จนถึงปัจจุบนมีจำนวนกว่า 3,000 โครงการ 46. ทุกครั้งที่เสด็จฯไปยังสถานต่างๆจะทรงมีสิ่งของประจำพระองค์อยู่ 3 สิ่ง คือ แผนที่ซึ่งทรงทำขึ้นเอง(ตัดต่อเอง ปะกาวเอง) กล้องถ่ายรูป และดินสอที่มียางลบ 47.ในหลวงทรงงานด้วยพระองค์เองทุกอย่างแม้กระทั่งการโรเนียวกระดาษที่จะนำมาให้ข้าราชการที่เข้าเฝ้าฯถวายงาน 48. เก็บร่ม : ครั้งหนึ่งเมื่อในหลวงเสด็จฯเยี่ยมโครงการห้วยสัตว์ใหญ่ เมื่อเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งมาถึง ปรากฏว่าฝนตกลงมาอย่างหนัก ข้าราชการและราษฎรที่เข้าแถวรอรับเปียกฝนกันทุกคน เมื่อทรงเห็นดังนั้น จึงมีรับสั่งให้องครักษ์เก็บร่ม แล้วทรงเยี่ยมข้าราชการและราษฎรทั้งกลางสายฝน 49. ทรงศึกษาลักษณะอากาศทุกวัน โดยใช้ข้อมูลที่กรมอุตุนิยมวิทยานำขึ้นทูลเกล้าฯ ร่วมกับข้อมูลจากต่างประเทศที่หามาเอง เพื่อป้องกันภัยธรรมชาติที่อาจก่อความเสียหายแก่ประชาชน 50. โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา เริ่มต้นขึ้นจากเงินส่วนพระองค์จำนวน 32,866.73บาท ซึ่งได้จากการขายหนังสือดนตรีที่พระเจนดุริยางค์ จากการขายนมวัว ก็ค่อยๆเติบโตเป็นโครงการพัฒนามาจนเป็นอย่างที่เราเห้นกันทุกวันนี้ 51. เวลามีพระราชอาคันตุกะเสด็จมาเยี่ยมชมโครงการฯสวนจิตรลดา ในหลวงจะเสด็จฯลงมาอธิบายด้วยพระองค์เอง เนื่องจากทรงรู้ทุกรายละเอียด 52. ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช กราบบังคมทูลถามว่า เคยทรงเหนื่อยทรงท้อบ้างหรือไม่ ในหลวงตอบว่า "ความจริงมันน่าท้อถอยอยู่หรอก บางเรื่องมันน่าท้อถอย แต่ว่าฉันท้อไม่ได้ เพราะเดิมพันของเรานั้นสูงเหลือเกิน เดิมพันของเรานั้นคือบ้านเมือง คือความสุขของคนไทยทั่วประเทศ 53. ทรงนึกถึงแต่ประชาชน แม้กระทั่งวันที่พระองค์ทรงกำลังจะเข้าห้องผ่าตัดกระดูกสันหลังในอีก 5 ชั่วโมง (20 กรกฎาคม 2549) ยังทรงรับสั่งให้ข้าราชบริพารไปติดตั้งคอมพิวเตอร์เดินสายออนไลน์ไว้ เพราะกำลังมีพายุเข้าประเทศ พระองค์จะได้มอนิเตอร์ เผื่อน้ำท่วมจะได้ช่วยเหลือทันกันติศา ถ้ามีบทความดีๆจะนำมาฝากกันอีกค่ะ