ได้กลับมาอ่านหนังสืออีกครั้ง


 

ได้กลับมาอ่านหนังสืออีกครั้ง

หลัง จากผ่านช่วงแต่งงาน แล้วก็มีลูกทันที เล่นเอาชีวิตอลเวงมากครับ กิจกรรมเปลี่ยนแปลงไปหมด การจัดสรรเวลาต่างไปจากเดิมอย่างกับหน้ามือกับหลังเท้า หนึ่งในหลายสิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิต ก็คือการอ่านหนังสือ
ผมหมายถึงการนั่งอ่านหนังสือเอาเรื่องเอาราวนานๆนะครับ ไม่นับการอ่านเอกสาร อ่านข่าว ซึ่งต้องทำทุกวันอยู่แล้ว

ลูก ชายโตขึ้นพอสมควร ประกอบกับมีคนช่วยดูแลเป็นครั้งคราว ก็เลยไปเดินงานหนังสือ หยิบมาได้สี่-ห้าเล่ม เอาแค่นี้ก่อน กลัวไม่มีเวลาอ่าน เพราะยังมีอีกจำนวนหนึ่งที่ซื้อมาแล้วก็ยังไม่ไ่ด้อ่านรออยู่ก่อนแล้ว

ลูก ชายนั่งเล่นอยู่ใกล้ๆ แฟนทำงานบ้านอยู่อีกห้องหนึ่ง ผมนั่งที่ห้องนั่งเล่น เปิด UBC แต่ไมไ่ด้ดูทีวีครับ เปิดเพลงช่อง 80's hits ฟังเพลงสมัยหนุ่มๆ แล้วเปิดหนังสืออ่าน
สิ่งหนึ่งที่จับได้ในจิตใจคือ ความสงบและรู้สึกเหมือนกับถูกดูดเข้าไปในหนังสือ ความรู้สึกเดิมๆที่ไม่ได้สัมผัสมานาน ต่างจากความรู้สึกกระโดดไปกระโดดมาของการดูทีวีหรืออ่านเว็บ
เสียงเพลงสมัยเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนทำให้นึกถึงสมัยที่อ่านหนังสือเตรียมสอบเอนทรานซ์
ตอน นั้นเปิดเพลงฝรั่งเหมือนอย่างนี้แหละ สถานี FM 99 Radio Active คุณวาสนา วีรชาติพลี กับคุณธเนศ วรากุลนุเคราะห์ รายการวิทยุแรกๆเลยมั้ง ที่จัดยาวทั้งวัน บอกกับเพื่อนๆว่า ที่ฟังเพลงฝรั่งเพราะฟังไม่รู้เรื่อง จะได้อ่านหนังสือ ขืนเปิดเพลงไทยพอดีไม่ไ่ด้อ่าน
ความจริงไม่ใช่อะไรหรอก ชอบ ช่วงนั้นเป็นช่วงเริ่มของยุค Hard rock ยุคที่เพลงเต้นรำสนุกน่าฟังที่สุดยุคหนึ่ง

แต่ มีบางอย่างที่เปลี่ยนไป การอ่านเว็บและทำงานกับเว็บติดต่อกันนับปีทำให้สมาธิไม่แน่วแน่อย่างที่เคย เป็น การอ่านเว็บเรามีโอกาสจะแว้บออกไปดูเรื่องราวอื่นๆได้ง่าย แว้บบ่อยๆเลยทำให้เราชินกับการอ่านนี่นิดอ่านโน่นหน่อย
แล้วอีกอย่าง เนื้อหาในเว็บจะไม่ค่อยยาว ยกเว้นอ่านพวก Wikipedia
อ่าน หนังสือไปพร้อมกับความรู้สึกอยากจะแว้บออกดูเรื่องนั้น ค้นเรื่องนี้ แต่ก็เตือนตัวเองไว้ตลอดว่า เราจะต้องอ่านให้ต่อเนื่องจนได้เนื้อหาที่ตั้งใจไว้เสียก่อน
อนุโลมหน่อยโดยการเอา Pocket PC วางไว้ใกล้มือ เจอตรงไหนที่อยากค้นคว้าต่อก็จับถ่ายรูปไว้ซะเลย แล้วก็เผลอตอบ Email สั้นๆที่เข้ามา

กะทิ ลูกชายเอาหนังสือมาพลิกๆเล่น เด็กอายุขนาดนี้กำลังสนุกกับการเลียนแบบผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ทำดี เขาก็จะเลียนแบบสิ่งที่ดี
ผู้ใหญ่อ่านหนังสือ เขาก็จะสนใจอ่านหนังสือ

อ่าน จบก็ทำอย่างอื่นต่อ แฟนเปิดทีวีดู รายการทีวีช่วงวันหยุดมีแต่เกมโชว์เต็มไปหมด ความรู้สึกเดิมๆกลับมาอีก รายการทีวีทำให้คนเราโง่ลงอย่างที่เขาว่าไว้ ทุกอย่างผ่านไปรวดเร็ว ไม่ปล่อยโอกาสให้คิด นอกจากการเสนอข้อมูลรวบรัด แม้แต่สารคดีก็เถอะ
มีรายการหนึ่ง มาคุยเรื่องที่ดาราสาวทะเลาะกับดาราด้วยกันเอง ตนเองปกป้องเพื่อนแม้จะต้องสูญเสียโอกาสคิดเป็นเงินร้อยล้าน
ร้อย ล้านเหรอ ผมไม่แน่ใจว่านักแสดงบ้านเราคนไหนที่มีสินทรัพย์ที่ได้จากการแสดงในหลัก ร้อยล้าน เท่าที่รู้ก็มีในหลักสิบ ไม่ถึงหลักร้อยแน่ ผมว่าเธอจะต้องเข้าใจอะไรผิดไป
เธอคงไม่โกหกหรอก แต่คงสำคัญอะไรผิด แล้วก็เลยทำให้คนดูเสี่ยงกับความเข้าใจผิดไปด้วย
วิจารณญาณ เหรอ ผมว่าคนที่ดูทีวีละครหลังข่าวจนติด คงไม่มีคำนี้เหลือแล้วหละ ดูจากความคิดอ่าน โดยเฉพาะความคิดจะรวยโดยไม่ทำอะไร ไม่เคยมีความเชื่อในกำลังความสามารถของตนเอง ดูจากความเชื่อว่าคนดีกับคนโง่เป็นคนคนเดียวกัน ฯลฯ
ผมขอให้แฟนเปลี่ยนช่องเหอะ เสียเวลาเปล่าๆ เอาเวลาไปฟังเพลงยังจะดีกว่า

ผมคงต้องจัดสรรเวลาดูทีวีสำหรับครอบครัวเรา เหมือนกับที่ครอบครัวผมสมัยเล็กๆ ดูทีวีเป็นเวลา
แต่สมัยก่อนทีวีมันเปิดไม่เต็ม 24 ชั่วโมง จำนวนช่องก็น้อย
มาวันนี้ คงต้องออกแรงมากหน่อย
หนัง ทีวี และเพลง (ร้อง) จะมีบทบาทหลักสำหรับพัฒนาการด้านภาษา ให้เขาได้คุ้นเคยกับรูปประโยค การใช้ภาษาพูด เอาแค่ประโยชน์ด้านนั้นดีกว่า

หนังสือ ยังคงเป็นสื่อที่ดีเสมอ
วันนี้ี้เราจะจัดเวลาสำหรับอ่านหนังสือ ไม่ใช่เพื่อตัวเราเองอย่างเดียว แต่เพื่อเป็นแบบอย่างให้ลูกเราด้วย

คำสำคัญ (Tags): #อ่านหนังสือ
หมายเลขบันทึก: 148053เขียนเมื่อ 21 พฤศจิกายน 2007 05:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:36 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

การอ่านหนังสือ เหมือนกับการเป็นผู้ฟังที่ดี

การเป็นผู้ฟัง ย่อมได้ความรู้จากผู้รู้มากกว่าครับ

ขอบคุณมากครับ

ผมตองมา Update ที่นี่ด้วยนี่นา ลืมไปเลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท