“หัวปลา” ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานนทบุรี ที่ ๑
วันที่ ๖ กพ.
๔๙ คุณหญิง (นภินทร) กับผมไปพบ อ. ประไพ สุนทรมัจฉะ
ผอ. เขตพื้นที่การศึกษานนทบุรี ที่ ๑ เพื่อทำความเข้าใจ
“หัวปลา” ของการทำ KM .ของเขตพื้นที่การศึกษานนทบุรี ที่
๑ ผมทำ AAR การไปหารือกันดังนี้
• เป้าหมายของการไปหารือในวันนี้ก็เพื่อ
1. ทำความเข้าใจร่วมกันให้ชัดเจน ว่าเป้าหมาย KM ของ
เขตพื้นที่การศึกษานนทบุรี ที่ ๑ เป็นแบบที่ ๑ หรือแบบที่
๒ (แบบที่ ๑ คือทำ KM เพื่อให้ โรงเรียนในเขต
และสำนักงานเขต เป็น LO, แบบที่ ๒ คือ ฝึกอบรมให้รู้จัก
KM และรู้จักเทคนิค KM แล้วปล่อยให้ไปดำเนินการกันเอง)
2. ทำความเข้าใจรูปแบบการบริหารจัดการ KM ของ
เขตพื้นที่การศึกษานนทบุรี ที่ ๑
ที่เหมาะสมสอดคล้องกับเป้าหมาย
3. ทำความเข้าใจรูปแบบของการบริหารจัดการ KM
ของเขตพื้นที่การศึกษานนทบุรี ที่ ๑
ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
4. ทำความตกลงวิธีการจัดประชุมให้ความเข้าใจ
และประชุมปฏิบัติการ ครั้งที่ ๒
• สิ่งที่บรรลุเกินความคาดหมาย คือวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนของ อ.
ประไพ ผอ. สพท. นนทบุรี ที่
๑ ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเขตพื้นที่การศึกษานนทบุรี
ที่ ๑ และของ จ. นนทบุรี (ท่านเป็นผู้แทนกระทรวงศึกษา ของ จ.
นนทบุรีด้วย)
โดยท่านมองเห็นสภาพการเปลี่ยนแปลง ปัญหา และโอกาส ของ จ.
นนทบุรี ชัดเจนน่าประทับใจมาก
ยิ่งกว่านั้นผมยังเห็นแววความเอาจริงเอาจัง ความมุ่งมั่นของท่าน
• ที่ได้เกินความคาดหมาย คือผู้บริหารสำคัญๆ
อยู่ร่วมประชุมกันพร้อมหน้า
ทำให้เกิดความเข้าใจร่วมกันอย่างชัดเจน
ผมคิดว่าเป็นการประชุมที่ทำให้ “หัวปลา” ของ KM
เขตพื้นที่การศึกษานนทบุรี ที่ ๑
ชัดเจนมาก
และเป็นความชัดเจนจากการหารือจนเป็นฉันทามติในวันนั้น
(“หัวปลา” ที่ได้คือ “สพท.นบ. ๑ เข้มแข็ง
โรงเรียนเข้มแข็ง”)
• เกินความคาดหมายอย่างยิ่ง คือเราคุยกันแบบเปิดใจ
แบบตรงไปตรงมา คุยลึกลงไปถึงกิจกรรม (จากหลักการ
สู่การปฏิบัติ) ที่ได้เกิดขึ้นแล้ว
ว่ามันสอนอะไรเรา
และเข้าไปถึงการวางแผนกิจกรรมที่จะทำต่อ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมแกนนำ KM ของ สพท. นนทบุรี ที่ ๑
วิธีบริหารจัดการระบบ KM ของ สพท. นนทบุรี ที่ ๑
และวิธีเริ่มกิจกรรม KM ในสำนักงานเขตฯ
• บรรลุตามเป้าหมายในเรื่องการทำความตกลงยุทธศาสตร์การบริหารจัดการการเริ่ม
KM เขตพื้นที่การศึกษานนทบุรี ที่ ๑ ว่าเริ่มจาก
รร./ครู จำนวนน้อย ที่จะไปเป็นวิทยากร และไปดำเนินการขยายผลต่อไปยัง
รร. อื่นๆ ให้เต็ม เขตพื้นที่การศึกษา นนทบุรี ที่ ๑
ในภายหลัง และทีมบริหารจัดการ KM ของ สพท. นนทบุรี
ที่ ๑ ต้องดำเนินการขับเคลื่อนการขยายผลดังกล่าว
• ได้เรียนรู้ว่าใน จ. นนทบุรี มีการทำ KM ใน ๓ หน่วยงานหลัก
โดยใช้ที่ปรึกษาต่างกัน ได้แก่ สนง. ที่ดิน
ใช้บริการที่ปรึกษาของ สถาบันเพิ่มฯ สพท.
นนทบุรี ที่ ๒ ใช้บริการของ สพบศ. (วัดไร่ขิง) และ สพท.
นนทบุรี ที่ ๑ ใช้บริการของ สคส. ท่านผอ. เขตฯ
มีความคิดจะทำวิจัยเปรียบเทียบกระบวนการและผล
ซึ่งผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง
• ถึงแม้การประชุมจะดูเหมือนว่าทำให้เกิดความเข้าใจร่วมกันดีมาก
ผมก็ยังทำใจรอดูว่าในทางปฏิบัติจะเกิดอะไรขึ้นในทางฝ่าย สพท.
นนทบุรี ที่ ๑ จะมีการตั้งทีมบริหารจัดการ KM
อย่างไร มีการกำหนด
หน้าที่ความรับผิดชอบชัดเจนแค่ไหน
มีการทำงานเป็นทีมแค่ไหน
จะมีการจัดสรรทรัพยากรเพื่อใช้ขับเคลื่อนการ ลปรร. ความสำเร็จ
อย่างไร ทีมบริหารจัดการ (ทีมแกนนำ) จะทำ/ไม่ทำ
อะไรบ้าง เกิดอะไรบ้างที่โรงเรียน / กลุ่มครู
• ผมจะรอดูว่าทีมแกนนำ ดำเนินการจัดการประชุมให้ความเข้าใจ
และจัด Workshop ครั้งที่ ๒ อย่างไร
• ผมมีความเห็นเพิ่มเติมหลังจากกลับมาไตร่ตรองเพิ่มว่า
ทีมแกนนำของ สพท. นนทบุรี ที่ ๑ ควรมี ผอ. โรงเรียนที่เหมาะสม สัก ๒ –
๓ โรงเรียน และท่านควรเข้ามาร่วมจัด Workshop
ครั้งที่ ๒ ด้วย จึงขอเสนอแนวความคิดนี้ต่อท่าน ผอ.
ประไพ มา ณ ที่นี้ด้วย
วิจารณ์ พานิช และนภินทร ศิริไทย
๘ กพ. ๔๙