พวกเราคงจะได้ยินได้ฟังเรื่องไมเกรน (migraine) หรือโรคปวดหัวข้างเดียวมาแล้วไม่มากก็น้อย
ไมเกรนทำให้เกิดการปวดหัว ซึ่งมักจะเป็นการปวดหัวข้างเดียว บ่อยครั้งจะปวดตุบๆ ตามจังหวะชีพจร บางคนมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย
...
คนที่เป็นไมเกรนมักจะปวดมากขึ้นเวลาเห็นแสง โดยเฉพาะแสงจ้า แสงกระพริบ หรือได้ยินเสียงดัง เวลาตรวจก็ไม่พบความผิดปกติอะไร ทำให้ดูเหมือนแกล้ง หรือมารยา
ข่าวดีสำหรับผู้ชายคือ ผู้หญิงเป็นโรคนี้มากกว่าผู้ชาย 3 เท่า นอกจากนั้นยังพบร่วมกับประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคนี้บ่อย
...
ท่านอาจารย์ดอกเตอร์เนาชีน ฮัดจิคานิ และคณะ แห่งโรงพยาบาลแมสซาชูเซตส์ เจเนอรัล สหรัฐฯ ทำการศึกษาสมองกลุ่มตัวอย่าง 24 คนที่เป็นไมเกรนบ่อย ประมาณ 4 ครั้งต่อเดือน มานาน 20 ปี เทียบกับสมองคนที่ไม่เป็นไมเกรน 12 คน
ผลการศึกษาพบว่า สมองส่วนนอกที่รับความรู้สึก (somatosensory cortex) เช่น ปวด สัมผัส ร้อนเย็น ฯลฯ หนาขึ้น 21% โดยเฉพาะส่วนที่รับความรู้สึกจากส่วนหัวและใบหน้า
...
อาจารย์ฮัดจิคานิกล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้สมองคนเป็นไมเกรนหนาขึ้นนั้น ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด
สาเหตุที่อาจเป็นไปได้คือ พันธุกรรมหรือยีนส์ที่สัมพันธ์กับโรค หรือเป็นผลจากการขยายหรือหดตัวของเส้นเลือดผิดปกติ
...
การศึกษาที่ผ่านมาพบว่า สมองของคนที่เป็นโรคหลายอย่างจะบางกว่าปกติ เช่น สมองเสื่อมอัลไซเมอร์ เด็กออทิสติก (autism) มัลทิเพิล สเคลอโรซิส (multiple sclerosis) ฯลฯ
การศึกษานี้เป็นการศึกษาแรกเริ่ม จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนหรือคัดค้าน และอาจนำไปสู่วิธีการรักษาไมเกรนแบบใหม่ๆ ได้
...
วิธีลดความเสี่ยงปวดหัวไมเกรนที่สำคัญได้แก่
...
ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
ที่มา
ไม่มีความเห็น