คืนที่ผ่านมา ไม่ได้นอนมากไปกว่าทุกๆ วัน แต่รู้สึก หลับเต็มอิ่ม ตื่นเต็มตา ตื่นได้แต่เช้า เช้าแบบนี้น่าไปปั่นจักรยาน แง้มม่านหน้าต่างดูบรรยากาศ อื้มม ไม่เลวร้าย อากาศเย็น ๆ วูบเข้ามาตามช่องลม จึ๋ยย หนาว ๆ เช้านี้แหล่ะ เหมาะอย่างยิ่ง ชงกาแฟ ทำธุระปะปังเสร็จ ก็จัดแจง จูงคุณ "ไต้ฝุ่น" ออกมานอกบ้าน วันนี้ไม่กลัวรถชนแล้วค่ะ เพราะติดไฟเรียบร้อยแล้ว ลองไฟมาหลายครั้งแล้วด้วย
พาเจ้าลูกชาย 4 ขาไปเก็บ ไม่เก็บไม่ได้ซะแล้ว ขานี้ ช่วงหลัง ๆ ชักเอาใหญ่ วันก่อน ยายกาแฟกำลังปล่อยรถ ไถลลงเนิน เสร็จเจ้าตัวดีโผล่มาจากไหนไม่รู้ พรวดพราด ยายกาแฟเบรก จึ้ก !! ล้อหลังลอยวูบมาอยู่ข้างหน้า ยายกาแฟก็ร่วง ร่วงทั้งคนทั้งรถ ระบมยังไม่หายดี นี่เป็นครั้งแรกของอุบัติเหตุและการบาดเจ็บจากคุณไต้ฝุ่น ช่วงเวลาวูบหนึ่งที่ล้อลอยขึ้น และยายกาแฟ กำลังจะร่วง เวลาเหมือนหยุดนิ่งก็มีเสียงดังในใจ “เอาละว้อยยยย ตู เจ็บตัวอีกแล้วว้อยยย” ผู้ชมที่เห็นเหตุการณ์ใกล้ชิด หัวเราะสนุกสนาน ไอ้เราก็ได้แต่คลำหัว คลำหางป้อย ๆ
ปล่อยจักรยานให้ฉิวลงเนิน ลมเย็น ๆ ก็ปะทะหน้า รู้สึกปลอดโปร่ง เหลียวมองบรรยากาศยามเช้า รอบตัว ฟ้ายังไม่สว่างมาก หลอดไฟแสงจันทร์ หน้า โรงพยาบาลยังไม่ปิดลง แต่ทุกอย่างเงียบไปหมด คนส่วนใหญ่คงยังไม่ตื่น หมอกยังลอยอ้อยอิ่ง คงอีกนานกว่าจะจาง เลยเก็บภาพถ่ายบรรยากาศหน้า รพ. มาฝากชาว G2K
เสร็จจากนั้น ก็ไถลลงเนินหน้า รพ.มาถึงถนนใหญ่ ตรงนี้ก็แค่ตัดสินใจ ว่า จะเลี้ยวซ้าย หรือ จะเลี้ยวขวา เลี้ยวซ้ายจะเป็นทางเข้าตลาดและตัวอำเภอ ก็จะได้บรรยากาศชีวิตยามเช้า ของบ้านสบป่อง ค่ะ ไม่ไกลมาก ไม่มีเนินมากเท่าไหร่ ถ้าไปเส้นนี้ยามเช้า ยายกาแฟมักจะแวะซื้อน้ำเต้าหู้ หวานน้อย และปาท่องโก๋ อีก 3 ตัว เป็นประจำ อุ่นสบายท้อง แต่ยามเย็นจะแวะ หามื้อเย็นติดมือกลับไปกินที่บ้านด้วย
เช้านี้ ยายกาแฟ เลือกเลี้ยวขวา เพราะนึกอยากเห็นบรรยากาศยามเช้า ที่ศูนย์ทดลองข้าว ไม่ต้องคิดนานก็เลี้ยวขวาฟืบ จากหน้า รพ. ไปยังศูนย์ทดลองข้าว ระยะทางประมาณ 6 กม. ไปกลับก็ร่วม 12 กม. ไม่เลวใช่ใหมคะ เส้นทางเมื่อออกจาก หน้า รพ.ถนน จะลาดต่ำลงนิดหน่อย และค่อย ๆ เอียงขึ้น ทางแถวนี้ ก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้นแหละ ถนนที่ยายกาแฟไปปั่น ถือว่าเป็นทางชั้นดีของที่นี่เลย ลาด ๆ เอียง ๆ เลี้ยว ซ้าย เลี้ยวขวา เนินมาก เนินน้อย การมีเนินขึ้น ๆ ลง ๆ สลับกัน ทำให้การปั่นสนุกขึ้นเยอะ มีช่วงเหนื่อย มีช่วงพัก
นึกถึงการปั่นครั้งแรก ไม่กี่กิโลหรอกค่ะ เจอเนินก่อนจะมาถึงทางเข้า โรงพยาบาล โอ่ยยย ยายกาแฟเหนื่อย จนเหมือนหัวใจจะวาย เมื่อหยุดลงเดิน ขาสั่นพั่บๆ ไม่น่าเชื่อว่าเนินเล็ก ๆ ที่บางครั้งเรารถยนต์หรือจักรยานยนต์ เราแทบไม่รับรู้ถึงความลาดเอียงของมันเลย แต่มาเจอจักรยาน แล้วซึ้งเลยค่ะ บางเนิน ที่เตี้ย ๆ แต่ยาวเล่นเอาจะถอดใจเลย ช่วงเวลาไม่ถึงเดือน ที่ปั่นบ้าง พักบ้าง ไม่น่าเชื่อ ว่ายายกาแฟ ตอนนี้ปั่น 20 กม.ได้สบาย ๆ เจอเนิน ก็เก่งขึ้นค่ะ ไม่รู้สึก”เหมือนใจจะขาดอีกแล้ว” อิอิอิ แสดงว่าเราเก่งขึ้นหรือเปล่า นึกแล้วก็ครึ้มอกครึ้มใจ
อากาศยามเช้า แทบไม่มีรถวิ่งสวนทางกัน กลิ่นของต้นไม้ใบหญ้า กลิ่นดอกไม้ป่า สูดหายใจยิ่งลึกยิ่งยาวเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกดีค่ะ เช้าวันนี้รู้สึกว่าตัวเองโชคดี มีอากาศดีใช้ไม่จำกัด โดยไม่ต้องไปแสวงหาเหมือน ผู้คนเมืองที่ต้องออกเดินทางไกล ๆ เพียงเพื่อหาที่สูดอากาศ จนรู้สึกอยากจะเหมาเอาเองว่า “สุข สงบ” มันเป็นแบบนี้นี่เอง
ปั่นผ่านป่าละเมาะไปประมาณ 1 กม.ก็จะเริ่มมีบ้านผู้คน กระจาย ๆ ไป และก็เป็นป่าละเมาะอีก เช้า ๆ แบบนี้รถน้อย ถนนโล่งเวลาปล่อยให้รถลงตามเนินไป ความรู้สึกแรงลมที่ผ่านใบหู หมอกเม็ดละเอียดปะทะใบหน้า ทำให้รู้สึกเหมือนบินได้ เวลาปั่นผ่านป่าละเมาะ มักจะได้กลิ่นดอกไม้หอม แต่ไม่เคยรู้ว่าหน้าตามันเป็นอย่างไร เคยคิดเล่น ๆ ว่าอยากจะจอดรถ แล้วลองเดินหาดูซักครั้ง ว่าไม้ดอกที่หอมขนาดนี้หน้าตาเป็นอย่างไร
พอปั่นไปถึงสถานีทดลองข้าว สวยสมใจค่ะ ที่นี่เป็นที่ราบที่เดี่ยวในปางมะผ้าที่ใหญ่ที่สุด พอถึงช่วงฤดูการปลูกข้าว ก็จะเห็นทุ่งข้าว สีเขียวสวย เย็นตา พอถึงช่วงใกล้เก็บเกี่ยว จะเห็นทุ่งเปลี่ยนเป็นสีทอง โดยมีฉากหลังเป็นภูเขา ที่ห่มไว้ด้วยสายหมอก แถวนี้ ถ้าปั่นช่วงเย็น จะมีเพื่อนนักปั่นคนอื่น ๆ ตามกันบ้าง สวนทางกันบ้าง ทักทายเป็นที่สนุกสนาน แต่เช้า ๆ ไม่ค่อยมีใครปั่น เก็บบรรยากาศมาฝาก ชาว G2K ก็กลับค่ะ
ขากลับจะเหนื่อยกว่านิดหน่อย เพราะหลายจุดที่ขามาเป็นที่ลาด ขากลับจะกลายเป็นเนิน ปั่นจนขาสั่นเลยค่ะ ขนาดจักรยานทดเกียร์ได้ ยังเหนื่อยเลย จะได้เหงื่อมาก ๆ ก็ขากลับนี่แหล่ะ ขามายังไม่สว่างมาก แต่ขากลับสว่างโร่แล้ว ถึงบ้านพัก ก็พอดีเหงื่อออกได้ที่
วันนี้ใช้เวลาชั่วโมงกว่านิดหน่อย เวลาทั้งหมดไม่ได้หมดไปกับการปั่นหรอกค่ะ แต่เป็นจากการหยุดชื่นชมบรรยากาศและการ เก็บภาพมาฝาก
หมดไปอีกหนึ่งวันกับการเติมพลังให้กับวันด้วยความรู้สึก ดี ๆ ขอจบการรายงานเรื่องเล่าบนหลังอาน และวันนี้ขอให้มีความสุขกับการทำงานนะคะ
สวัสดีครับ
อ.ขจิต ครับ
คุณกุ้ง
สวัสดียามเช้าค่ะ คารวะ 1 จอก เนส โกล์ด ร้อน ๆ
- ว้าว ต้องบอกว่าอิจฉาคุณแม่หอยโข่งอีกแล้ว ที่ได้อยู่ในบรรยากาศแบบนี้ ครูพรรณา ร้างลามา ๒๕ ปีแล้ว
- เห็นแล้วคิดถึงส่องดาว จ. สกลนครจังเลย กลับไปก็คงไม่มีโอกาสอีกแหละ
- เมื่อแรกอ่านบันทึกยังนึกว่า มีลูกตัวใหม่ชื่อหลังอานซะอีก ...... ไปโน่นนนนนนนนน เลย