ครูพิชัย เป็นครูต้นแบบที่ดีน่ายกย่องและเอาอย่างจริงๆ ค่ะ อดดีใจแทนเด็กๆ ที่มีโอกาสได้เรียนรู้กับครูพิชัยค่ะ
บีเองก็จะพยายามทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มความสามารถและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ ที่ผ่านเข้ามาเพื่อเป็นบททดสอบเราค่ะ
พรมแดนไม่ขวางกั้นความเป็นครู
บทเรียนแห่งวิถีชีวิตที่นับวันจะมีให้เห็นน้อยลง ดีค่ะที่เก็บมาเล่าอย่างน้อยก็จุดประกายให้คิดย้อนไปถึงเรื่องดีที่เคยมีประสบการณ์กับครูของเรา
อ่านแล้วรู้สึกประทับใจ ทำให้คิดว่า มนุษย์ในโลกนี้ดำรงอยู่ได้เพราะยังมีผู้เสียสละอยู่ทุกแห่ง มนุษย์ส่วนมากในปัจจุบันมองเลยไป ไม่มีความเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ทำทุกอย่างเพื่อตนเองเท่านั้น
สวัสดีค่ะอาจารย์
อ่านบทความของอาจารย์แล้ว รู้สึกนับถือครูพิชัย จุลเดชมาก ที่มีความเป็นครูจริง ๆ คือ สอนให้นักเรียนได้รู้จักคิด เปิดโอกาสให้นักเรียนได้รู้จักถกเถียงกันอย่างมีเหตุผล ตามสภาพที่เป็นจริง และชี้แนะแนวทางความคิดซึ่งเป็นความคิดที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องไปทะเลาะกับใคร ไม่เกิดผลกระทบกับใคร และไม่สร้างศัตรู เป็นความคิดที่รอบคอบ คิดเชิงบวก คิดแบบสร้างมูลค่าเพิ่ม ทั้งนักเรียน และชาวบ้าน ต่างก็ชื่นมื่นด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย ทำให้ได้แนวคิดว่า ในการทำงานใดๆก็ตาม หากเกิดปัญหาอุปสรรคขึ้นมา ดิฉันเชื่อว่าทุกปัญหาสามารถแก้ได้ด้วยการคิด โดยคิดอย่างรอบคอบ รอบด้าน กว้างและลึก คิดเชิงบวก คิดแบบสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งในการคิดรอบด้านเราต้องนำองค์ประกอบหรือปัจจัยทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่คิด เพื่อเราสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการเลือก ตัดสินใจหรือวางแผนได้ ซึ่งองค์ประกอบที่จะช่วยให้เราเกิดการคิดรอบด้านได้แก่ องค์ความรู้ที่เป็นสาระโดยตรง (ความรู้ ทฤษฎี หลักการในเรื่องที่เราคิด) และองค์ประกอบในด้านอื่น ๆ เช่น ด้านคน (ตัวเรา ผู้อื่น) ด้านสังคม ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านศีลธรรม เป็นต้น ดิฉันเชื่อว่าหากคุณครูทุกคนได้ฝึกให้นักเรียนได้รู้จักคิดอย่างครูพิชัย จุลเดช สังคมไทยก็จะไม่วุ่นวาย หรือแม้แต่บุคคลที่ทำงานแล้วก็ตาม หากได้มีการฉุกคิดอย่างรอบคอบ คิดแบบรอบด้านก็จะทำให้เกิดการผิดพลาด หรือเกิดความเสี่ยงน้อยที่สุด หรืออาจจะไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้ ขอขอบคุณอาจารย์ที่ได้กรุณาเล่าสิ่งดี ๆ ให้ได้อ่าน และนำไปคิดต่อ และขออนุญาตนำไปขยายผลต่อนะคะ.