จากการที่เริ่มรู้จัก G2K แล้วก็ตั้งใจที่จะเขียนบันทึกติดต่อกัน 21 วัน โดยประกาศเจตนารมณ์ ให้เพื่อนฝูงในแวดวงทราบ บังเอิญช่วงนั้นเป็นช่วงที่ไปเข้าอบรมเรียนรู้ในโปรแกรมของการพัฒนา Inno Facilitator ที่หน่วยงานส่วนกลางจัดให้ทุกกลุ่มธุรกิจมารวมกัน ทำให้มีเรื่องราวที่น่าสนใจ รวมทั้งความประทับใจ สิ่งที่ได้เรียนรู้มาเขียนมากมาย
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> เมื่อกลับมาเขียนบันทึกใน blog แล้วก็ส่งให้ Inno FA ในกลุ่มที่ไม่มีโอกาสไปอบรมได้อ่าน จึงบังเกิดความคิดขึ้นมาว่า อย่ากระนั้นเลย ไปติดต่อบรรณาธิการของวารสารพนักงานที่ออกวางแผงทุก 2 เดือน โดยขอพื้นที่ลงเรื่องราวที่ไปอบรมมาเผยแพร่ให้พนักงานทั่วทั้งองค์กรได้รู้บ้าง น่าจะช่วยปลุกกระแส Innovative organization ได้บ้าง.... จากนั้นพอได้พบหัวหน้าบรรรณาธิการ เราจึงได้แจ้งความประสงค์ที่อยากเขียนสิ่งที่ได้เรียนรู้ระหว่างการเข้าอบรม Inno FA เขาก็ยินดีมาก และพร้อมจะสรรหาพื้นที่ให้เราเขียน แต่มีข้อแม้ว่า ให้ลงได้ทีละ 2 หน้ากระดาษ A4 เท่านั้นนะ ทำให้เราต้องมาฝึกย่อความ เพราะบางบทเรียนเขียนไว้ยาวมาก</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> หลังจากคุยกันไม่นานก็เริ่มส่งต้นฉบับให้เป็นตอนๆ เรียงตามลำดับเหมือนกับที่ไปเข้าโปรแกรมการอบรม เขียนไป 3 ตอนแล้ว เพิ่งมีคนมาบอกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ว่า ชอบอ่านเรื่อง “ประสบการณ์ที่ไปฝึกสติที่วัดป่าธรรมอุทยาน” อ่านแล้วเพลิน อยากให้เขียนตอนต่อไปเกี่ยวกับเรื่องการไปปฏิบัติธรรมอีก คนที่มาบอกนี่ ติดตามอ่านเรื่องที่เขียนมาโดยตลอด ซ้ำบอกว่า อ่านแล้วเพลินดีเหมือนกำลังฟังคนมาเล่าเรื่อง มากกว่าอ่านบทความวิชาการ ทำให้เราปลื้มใจ มีกำลังใจที่จะเขียนต่อไป ทั้งที่กะว่าอีกไม่กี่ฉบับคงจะหมดมุขเขียนแล้วล่ะค่ะ </p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> จากประสบการณ์ครั้งนี้ ทำให้คิดว่าเหมือนมีวาสนาอยู่บ้าง พอคิดจะเลิกทำอะไรสักอย่างก็มีเหตุบังเอิญมาช่วยให้กำลังใจอยู่เรื่อยๆ และต้องขอบคุณกระบวนการเขียนบันทึกใน blog นี้ เพราะทำให้เรายังมีหลักฐานของเรื่องราวเก็บเอาไว้ และนำไปใช้ต่อยอดทำอย่างอื่นอีกได้หลายอย่าง ดังเช่นตัวเองนำบันทึกใน blog ไปปรับเขียนเป็นบทความเผยแพร่ความรู้ให้กับพนักงานในบริษัทได้อีก เพียงแต่ต้องไปปรับสำนวน และวันเวลาให้เข้ากับเวลาของผู้อ่าน ถึงแม้เหตุการณ์จะผ่านมาหลายเดือนแล้ว เรื่องราวที่บันทึกเก็บไว้ใน blog ช่วยให้สามารถนำมาเขียนเป็นเรื่องราวในวารสารได้ง่าย และรวดเร็วขึ้น เรียกว่าเป็นอานิสง ของความมุ่งมั่นอย่างหนึ่งก็ว่าได้ สัปดาห์หน้าต้องส่งต้นฉบับ เรื่อง FLOW ถือว่าเป็นตอนที่ 4 ซึ่งกว่าฉบับนี้จะปรากฎแก่สายตาพนักงานก็คงสิ้นปีพอดี ตอนที่ 5 ก็เป็นการปิดฉากอบรม BU Inno FA ที่อัมพวา กำลังคิดต่อว่า หลังจากนั้นจะสรรหาอะไรมาเขียนต่อดีน่ะค่ะ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>
สวัสดีค่ะ พ่อครูบา
ขอบคุณค่ะที่มาเยี่ยม การที่เราคิดได้ว่า ต้องทำอะไรต่อไป ก็เพราะเห็นว่าสิ่งที่เราได้รับรู้ เรียนรู้เป็นสิ่งดี ที่ไม่ควรเก็บไว้คนเดียว ทำอย่างไรจะให้คนอื่นได้รู้ ได้เห็น หรือมีประสบการณ์ดี ๆ เช่น เราบ้าง
" I care- I share" แบ่งปันความรู้ให้กันด้วยความรัก และมิตรภาพค่ะ
" I care- I share" แบ่งปันความรู้ให้กันด้วยความรัก และมิตรภาพค่ะ
มันเป็นทักษะจริงๆครับ และเป็นฝึกการสังเคราะห์ความรู้ ยิ่งฝึกสติมา จะเห็นตัวตนมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แต่มันก็จะทำให้เราคมขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน
ช่วงนี้ชี้แนะ : พี่ลองให้ผู้เข้าสัมมนาเขียนก่อนและค่อยพูดในช่วงReflection ซิครับ อย่างน้อย คนจะได้Reflect ตัวเองได้ลึกขึ้น
สวัสดีค่ะ อ.Lin Hui
ขอบพระคุณค่ะที่แวะมาเยี่ยมเยียนอย่างสม่ำเสมอ และรอติดตามอ่านบันทึก หลังๆ มานี้ ชีวิตไม่ค่อยมีสาระค่ะ เลยหาเรื่องมาเขียนยากขึ้น
จริงๆ นึกถึงโฆษณา เครื่องปรับอากาศยี่ห้อหนึ่ง เลยอยากใส่คำว่า I feel ไปด้วยค่ะ แต่ยังไม่รู้จะใส่ตรงหน้า I care ดีไหมคะ
สวัสดีค่ะ คุณคนดอย
ขอบคุณมากนะคะ กัลยาณมิตรอีกท่านหนึ่งที่ช่วยชี้แนะ ให้ความเห็นเพิ่มเติมดีๆ เสมอมา
คราวหน้าพี่จะลองทำตามคำแนะนำดูค่ะ น่าจะดีขึ้น และอาจทำให้เนียนขึ้นในช่วง reflection ค่ะ
อยากให้วันที่ 26 ที่นัดรวมพล IF1-3 เป็นอีกเวทีของพวกเราที่จะมาแลกเปลี่ยน ให้ข้อคิดเห็นเพื่อช่วยกันทำให้รากฐานของเราแข็งแรงยิ่งขึ้น
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
อยากอ่านบ้างต้องทำอย่างไรค่