เรื่องราวแห่งความหวัง


จงหลับให้สบายในนภา อย่าได้คิดห่วงกังวลต่อสิ่งใด เด็กหญิงตัวน้อยรอยยิ้มใสๆ ขอให้ไปสู่สวรรค์คาลัยชั้นดาวดึงค์

            วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ฉันและอาสาสมัครคนอื่นๆเข้ามาทำกิจกรรมกับเด็กป่วยที่ตึกศัลยกรรมเด็กโตของ รพ.เด็ก เด็กๆพอเห็นอาสาสมัครก็พากันดีใจ เพราะจะได้เล่นของเล่นที่อาสาสมัครเตรียมมา อาสาสมัครบางส่วนก็จะไปหาเด็กป่วยตามเตียงที่ลงไม่ได้ บางส่วนก็จะอยู่ที่ห้องสันทนาการ กิจกรรมดำเนินไปอย่างสนุกสนาน และไม่วุ่นวายเลย เพราะฉันได้อาสาสมัครรุ่นเยาว์ที่คอยให้ความช่วยเหลือตลอดเวลา แถมยังสามารถเป็นเจ้าของกิจกรรมได้เองด้วย อาสาสมัครรุ่นเยาว์คนนี้ชื่อ น้องเอม อายุ 12 ปีค่ะ ฉันเจอน้องเอมมาสามครั้งแล้ว น้องเอมเป็นเด็กร่าเริง มีมนุษยสัมพันธ์ และดูแข็งแรงดี คอยช่วยฉันจัดอุปกรณ์ ช่วยดูแลเด็กป่วยที่เล็กกว่าที่ไม่มีผู้ปกครองมาเฝ้า แล้วยังช่วยเอาของเล่นไปแจกจ่ายให้กับเด็กป่วยที่อยู่ตามเตียงอีกด้วยค่ะ ฉันรู้สึกชื่นชมในความมีน้ำใจของน้องเอมพอสมควร แต่ก็ยังไม่เคยได้ถามน้องเอมหรอกนะว่าน้องเอมป่วยเป็นโรคอะไร เพราะมัวแต่ทำกิจกรรมกัน และทุกครั้งน้องเอมก็จะสนุกกับการที่ได้เล่นกับเพื่อนๆเด็กป่วยด้วยกันอย่างสนุกสนาน ฉันกับน้องเอมช่วยกันสูบลูกโป่งพลาสติก โดยมีน้องเอมคอยช่วยเหลือฉันในการทำหน้าที่แจกจ่ายความสุขให้กับเพื่อนๆเด็กป่วยด้วยกันเอง ซึ่งเปรียบเหมือนเป็นซานต้าน้อยประจำวอร์ดในช่วงนี้เลยก็ว่าได้ ฉันกับน้องเอมช่วยกันสูบจนลูกโป่งจนหมด ปรากฏว่าเหลือเด็กอยู่คนเดียวที่ยังไม่ได้ น้องเอมก็เลยเสียสละของตัวเองให้แทน โดยน้องเอมบอกให้ฉันเอามาให้ใหม่คราวหน้าที่จะมาก็ได้ ฉันรับปากสัญญากับน้องเอมว่าจะเอามาให้อย่างแน่นอน น้องเอมยิ้มรับ พร้อมกับบอกขอบคุณฉันก่อนล่วงหน้าเลย น้องเอมบอกให้ฉันเอาไปให้ที่เตียง เพราะพรุ่งนี้ต้องเข้าห้องผ่าตัดแล้ว คงลงจากเตียงไม่ได้ ฉันตอบตกลง แล้ววันนี้ก็ผ่านไปพร้อมกับรอยยิ้มอีกหนึ่งวัน

            วันเวลาผ่านไปดั่งสายลม ก็ถึงวันที่ฉันจะได้มาทำกิจกรรมกับเด็กๆเหมือนเคย แต่ที่แตกต่างไปคือฉันต้องเอาของที่สัญญาไว้กับน้องเอมมาให้ด้วยค่ะ ฉันเดินเข้าไปในตึกศัลยกรรมเด็กโต เพื่อไปเล่นกับเด็กๆอย่างอารมณ์ดี และหวังว่าเด็กๆคงจะสนุกกับของเล่นที่ฉันเตรียมมาให้  พอฉันเดินเข้าไปก็พบว่ามีเด็กๆมารอรับอยู่แล้วเหมือนทุกครั้ง  แต่ก่อนที่ฉันจะเดินไปถึงห้องสันทนาการ ผู้ปกครองคนหนึ่งที่คุ้นเคยกับฉันก็เรียกฉันไว้ พร้อมกับบอกข่าวของน้องเอมให้ทราบว่าน้องเอมจากเราไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ การผ่าตัดล้มเหลว ฉันยืนฟังอย่างอึ้งๆ พร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆเอ่อขึ้นมา มือที่ถือของที่จะเอามาให้น้องเอมแทบหมดแรง ฉันเพิ่งจะรู้ว่าน้องเอมเป็นโรคหัวใจ เส้นเลือดใหญ่ตีบ เห็นผู้ปกครองบอกว่าพอหมอผ่าเข้าไปข้างในก็พบว่าเส้นเลือดข้างในแตกเกือบหมดแล้ว จนไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ผู้ปกครองคนเดิมเล่าให้ฟังว่า แม่น้องเอมเสียใจมาก รู้สึกเหมือนทำให้ลูกจากไปเร็วก่อนเวลาอันสมควร ไม่น่าให้ลูกมาผ่าตัดเลย นี่เป็นคำกล่าวโทษตัวเองของคนเป็นแม่ ซึ่งความจริงแล้วไม่มีใครสามารถรู้ได้เลยว่าผลมันจะออกมาเป็นอย่างไร ฉันเองก็เป็นคนหนึ่งที่กล่าวโทษตัวเองเช่นกันที่ไม่สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับน้องเอมได้ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้ผิดสัญญา แต่มันก็เป็นสัญญาที่ไม่สามารถเป็นความจริงได้แล้ว เพราะคนที่จะได้รับสิ่งที่สัญญาไว้ได้จากไปไกลเหลือเกิน ก่อนที่น้องเอมจะเข้าห้องผ่าตัด น้องเอมยังบอกกับผู้ปกครองอยู่เลยว่า ถ้าฉันมาแล้วไม่เจอน้องเอมก็ให้เก็บของที่ฉันเอามาให้ด้วย น้องเอมบอกว่าอยากหายเร็วจะได้ทำกิจกรรมได้ และสิ่งสุดท้ายที่น้องเอมบอกไว้กับผู้ปกครองคือ  " หนูดีใจนะที่ได้วิ่งเล่น ได้ทำกิจกรรม หนูยังอยากวิ่งเล่นให้มากกว่านี้จัง หนูอยากทำอะไรมากกว่านี้อีก "  นี่คือคำพูดของน้องเอมที่ทิ้งท้ายไว้ ก่อนที่จะจากไปแสนไกล อย่างไม่มีวันกลับ ชั่วนิรันดร์ 

            น้องเอม เด็กหญิงผู้มีน้ำใจคนนี้ สอนให้ฉันรู้และเข้าใจว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ความทุกข์ ความสุข ความเป็น ความตาย อยู่ใกล้แค่เอื้อมเป็นสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ ถ้าอยากทำอะไรก็จงทำ สัญญาอะไรกับใครก็รีบทำตามคำสัญญานั้น เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาเสียใจที่หลัง เพราะความแน่นอนคือความไม่แน่นอน ฉันเริ่มเชื่อคำนี้เสียแล้ว ถึงแม้ว่าฉันกับน้องเอมจะรู้สึกกันได้ไม่นาน แต่ก็รู้สึกผูกพัน และรู้สึกเสียใจกับการจากไปของน้องเอม และรู้สึกผิดที่ทำให้คำสัญญาเป็นจริงไม่ได้ แม้ว่าฉันจะไม่ได้ผิดสัญญาก็ตาม แต่ฉันก็จะเก็บน้องเอมไว้ในความทรงจำที่สวยงาม เมื่อนึกถึงก็จะมองเห็นภาพเด็กผู้หญิงตัวน้อยที่ร่าเริง มีน้ำใจต่อผู้อื่น และเสียสละ รวมถึงภาพรอยยิ้มที่มีอยู่ทุกครั้งที่เจอของซานต้าน้อยที่คอยแจกของให้เพื่อนๆตามเตียง ฉันจะไม่ลืมและคงไม่มีวันลืมเด็กหญิงน้อยคนนี้อย่างแน่นอน

หมายเลขบันทึก: 144523เขียนเมื่อ 6 พฤศจิกายน 2007 10:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:22 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท