เรียนรู้จากเด็ก >>> เก็บตกปั่นแปะ


ชีวิตที่เป็นจริงของ ม. ๓/ ๗

วันนี้จะเล่าเรื่องปั่นแปะซึ่งเดิเป็นการเล่นของเด็ก ๆ ต่อมาก็พัฒนาการเป็นการพนันชนิดหนึ่ง เล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่  .......ที่จะเล่าในวันนี้เป็นครึ่งหนึ่งของพัฒนาการเพราะ นักเรียนชั้น ม. ๓ / ๗  ( ปี ๔๙  ครูพรรณา  ถูกจับสับเปลี่ยนให้สอนและเป็นที่ปรึกษา เด็กห้องนี้ด้วย ซึ่งเป็นห้องที่รวมดาวชาวเฮี้ยว  ไว้ด้วยกันทั้งหญิงทั้งชาย  แข่งกันทำคะแนนว่าใครจะได้ขึ้นห้องปกครองมากกว่ากัน  .......ช่วงปลายภาคเรียนแรกเขานิยมเล่นปั่นแปะกันเป็นอันมาก   เล่นได้ทุกวันที่มี ช่องว่างของเวลา ( หาเองนะคะ ) ถูกทำโทษทุกวัน เวลาเรียนคุณ ๆ เหล่านั้นก็มักจะทำลายบรรยากาศในการเรียนทุกวิชาไม่เว้นกระทั่งวิชาของครูที่ปรึกษา ......จนครูพรรณาก็เอือม  สุดท้ายเหลืออดจึงออกข้อสอบให้แต่งกาพย์ยานี ๑๑  เรื่องปั่นแปะ  เท่านั้นแหละเป็นเรื่องเลย  เรานึกว่าเขาจะดื้อด้านแต่เปล่าทุกคนมีความสุขและรู้ดีถึงการเล่นชนิดนี้ลองชมนะคะ

๑.สำนวนของน้อง  พิชิต  ราชสีห์ คนนี้เป็นเพชรในตม

                                      ปั่นแปะ

ปั่นแปะคืออะไร                             ใครบอกได้ช่วยบอกที

ผมนั้นยังไม่มี                                 ความรู้ดีเรื่องปั่นแปะ

เขาบอกมันไม่ดี                              เล่นแล้วมีเพื่อนเจ๊าะแจ๊ะ

เพื่อนเพื่อนนั้นชอบแนะ                 เล่นปั่นแปะไม่ดีเอย

 

๒. สำนวนของน้อง  กิติพงษ์  สระทองแห่ว ( ฉายาไอ้แห่ว กวนโอ้ย )

                                   ปั่นแปะ

ปั่นแปะการพนัน                    ไปเล่นกันสนุกดี

อย่าช้าปั่นเร็วรี่                      สนุกดีมาเล่นกัน

เล่นนานมากชักเสีย              คนไม่เชียร์ยังดื้อดัน

เสียแล้วก็ลุกพลัน                  ไม่อดกลั้นหน้าด้านเอย

 

๓. สำนวนของน้อง เทวรรณ   วงษ์ปรีดี  ฉายาหยก

                                   ปั่นแปะ

ปั่นเอ๋ยเจ้าปั่นแปะ                    เพื่อนฉันแนะให้เล่นกัน

แรกเล่นชักเริ่มมัน                      จึงเล่นกันทุกวันมา

พักเที่ยงพร้อมนั่งลง                   เริ่มตั้งวงร้องเรียกหา

เพื่อนเพื่อนรีบลงมา                   แล้วเดาว่าหัวหรือก้อย

๔. สำนวนของน้อง  วริทพล   โกกุล   ฉายาสามเณรน้อยหนีซ่อมเสริม ( พอจะสอบซ่อมเสริมขอไปบวชเณรทุกครั้งจนครูพรรณา  ต้องบอกว่าเออไปบวชซะ ไม่ต้องซ่อม ไม่ต้องจบ ม. ๓ หรอก  พระเขาบวชให้ ...จบจนได้ )

                                           ปั่นแปะ

มาเร็วมาทางนี้                                    ปั่นแปะดีมาเล่นกัน

เตรียมตังค์มาให้ทัน                           พากันนั่งเราตั้งวง

ตอนเช้าเตรียมตังค์มา                        เราคอยพาปั่นแล้วลง

ตั่งค์หมดเราชักธง                                ทุกทุกวงเราได้ตังค์

๕. สำนวนของน้อง  หาญณรงค์  จิตนิยม

                                       ปั่นแปะ

ปั่นแปะออกหัวก้อย                       ปั่นค่อยค่อยออกก้อยหัว

ปั่นไปฉันเริ่มมัว                             ออกก้อยหัวมันไม่ชัวร์

ปั่นแปะเล่นเสียตังค์                      จนกระทั่งมันหมดตัว

เล่นไปมันชักกลัว                          ไม่ลืมตัวกลับบ้านเอย

๖. สำนวนของน้อง  ถิรวัฒน์  แซ่ลิ้ม

                                         ปั่นแปะ

เขาชอบเล่นปั่นแปะ                        คนเยอะแยะมาเล่นกัน

เขาลองดีดนิ้วกัน                             เขาว่ามันไม่ค่อยดี

ชอบเล่นและชอบลอง                     ฝ่ายปกครองเขาก็ตี

เล่นกันมันไม่ดี                               ลองดูซีมันเสียตังค์

๗. สำนวนของน้อง สิรคุปต์  คล้ายสุบรรณ

                                          ปั่นแปะ

ปั่นแปะนั้นไม่ดี                                เล่นทุกทีมีแต่เสีย

ทุกคนล้วนอ่อนเพลีย                        ต้องนั่งเสียเงินให้มัน

ถ้าเราอยากได้เงิน                             อย่าเพิ่งเมินทำงานกัน

ทุกคนควรขยัน                                  เพื่อความฝันอันยาวไกล

๘. สำนวนของน้องสุพัฒชัย  ทองเชื้อ  ฉายากวนสิ้นดี

                                      ปั่นแปะ

ปั่นแปะเรามาแล้ว                       คงไม่แคล้วโดนตีอีก

คราวก่อนก็เนื้อฉีก                       มาคราวนี้เพื่อนท้าดวน

อาจารย์บอกให้เลิก                     เราอยากเลิกแต่เพื่อนชวน

เพื่อนเราขอท้าดวน                     อยากเล่นด้วยแต่ออกแล้ว

๙. สำนวนของน้อง ระยอง สืบพลาย

                                      ปั่นแปะ

การเล่นปั่นแปะนั้น                   เขาเล่นกันตั้งหลายคน

หญิงชายนั้นปะปน                   เล่นกันจนโดนจับได้

ผีพนันมันเข้าสิง                      เล่นกันจริงไม่หนีไป

เล่นกันจนได้ใจ                       เล่นกันไปห้องปกครอง

๑๐. สำนวนของน้อง  พรพิมล  อินทสร

                                        ปั่นแปะ

นักเรียนสมัยนี้                                  ไม่รู้ดีไม่รู้ชั่ว

ชอบลองของมึนมัว                          ไม่รู้ชั่วที่ตัวทำ

ปั่นแปะเป็นสิ่งยั่ว                               ให้ทำชั่วไม่รู้กรรม

มนุษย์ชอบกระทำ                              ในสิ่งมัวชั่วกันจริง

๑๑. ตบท้ายด้วยสำนวนของน้องณัฐพงศ์  ใจตรง  ฉายารูปหล่อตาแดง ( เมายาสูบ )

                                      ปั่นแปะ

ปั่นแปะนั้นมีโทษ                          เราไม่โกรธที่ถูกตี

เพราะเราทำไม่ดี                          ครูจึงตีทุกคราวไป                           

อาจารย์ไม่ลงโทษ                       เขาแค่โกรธไม่อภัย

พากเราแสนเสียใจ                       วันต่อไปไม่เล่นแล้ว

 

หมายเลขบันทึก: 144319เขียนเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2007 13:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม 2012 18:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท