อ่าน “พระมหากษัตริย์ยอดกตัญญู” ในครั้งก่อนแตกต่างกับวันนี้ เพราะครั้งก่อนขณะที่อ่านเราจินตนาการถึงภาพในหลวงทรงดูแลสมเด็จย่าอย่างอ่อนโยนหลากหลายอิริยาบถด้วยความตื้นตันในความกตัญญูของพระองค์ท่าน แต่วันนี้...วันที่แม่..จากไปสวรรค์ เราอ่านหนังสือเล่มนี้ไป ก็จะมีภาพความทรงจำส่วนตัวตามรอยภาพในจินตนาการจากตัวอักษรไปพร้อมกัน ด้วยความรู้สึกซาบซึ้งในพระองค์ท่าน และคิดถึงแม่จนเกินจะอธิบาย“ ทรงเข้าเฝ้าเสวยพระกระยาหารกับพระมารดาเป็นประจำ ”
เราเห็นภาพ...แม่มีความสุข และกินข้าวได้ดี... เวลามีเราป้อนข้าวทุกเย็น“ ทรงเข้าเฝ้าเคียงข้างพระมารดาที่โรงพยาบาล แม้พระองค์ทรงประชวรและต้องพักรักษาพระองค์ ” เราเห็นภาพ...แม่ยิ้ม แม่อดทน ถึงแม้จะไม่สบาย... เวลามีเราเฝ้าไข้ใกล้ ๆ“ ทรงเข็นรถนั่งของพระมารดาด้วยพระองค์เอง ” เราเห็นภาพ...แม่สดชื่น... เวลาเราเข็นรถพาแม่ วนไปวนมา พักผ่อนหย่อนใจ “ ทรงมีพระปฏิสันถารกับพระมารดาเป็นนิจ ”
เราเห็นภาพ...แม่หัวเราะ และมีรอยยิ้ม อารมณ์ดี... เวลาเราพูดคุยหยอกล้อกับแม่ เรายังเห็นภาพตัวเองในอีกหลาย ๆ กิจกรรมที่เราอยู่ข้างๆ แม่ ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่แม่เจ็บปวดจากโรคภัยไข้เจ็บ ช่วงเวลาที่แม่มีความสุข หรือ ดีใจเวลาที่มีเราอยู่ใกล้ๆด้วยตลอด... ...อยากกอดแม่อีกสักครั้ง... แล้วก็บอกแม่ว่า... เรารักแม่...เหมือนที่เคยบอกและทำให้แม่รู้ว่าเรารักแม่ทุกวัน.... ท่ามกลางความรู้สึกคิดถึงแม่ ยังมีอีกความรู้สึกที่แทรกอยู่ คือ” ความซาบซึ้งใจ ”ที่ยังมีอย่างน้อย 1 ความดี ที่เราสามารถทำได้ เพราะมี “ ต้นแบบที่ดี ” แม้เป็นได้เพียงผงธุลีเล็กๆในรอยเท้าพระองค์ท่าน แต่เราเชื่อว่าแม่คงภูมิใจที่ลูกคนนี้ได้ “ เดินตามรอยเท้าพ่อหลวง” ที่รักยิ่งของคนไทยทุกคน
ไม่มีความเห็น