ผมอ่าน กระทู้ http://gotoknow.org/blog/sutthinun/143459?page=1 ของครูบา ฯ แค่ บทแรก ก็ "สะท้าน" ทั้งร่างแล้วครับ
ผมนึกถึงคำของท่าน "กฤษณมูรติ" ที่ บรรยายเกี่ยวกับ พวก "คนมือสอง" (Secondhand people) ในหนังสือ Freedom from the known (อิสรภาพเกิดขึ้นเมื่อคุณไม่รู้) มูลนิธิอันวีกษณา แปลโดย สุวรรณา หลั่งน้ำสังข์
การเรียนรู้แบบ นักการศึกษามือสอง คือ ไปเอาตำราเขามา ไปเอาการศึกษาจากฝรั่งมา เอามาใช้ในบริบทไทย
ชอบอ่านๆ หาแต่ สาระที่คนอื่นค้นพบ
คนมือสอง เมื่อมาอ่าน G2k ก็จะร้องว่า "ไร้สาระ" เพราะ พวกเขา จะ กอบโกยสาระ จะเอาสาระที่ทำให้เขาดูดี สบายใจกับสาระเดิมที่เขามีอยู่ ทำให้ กะลาของเขามั่นคงขึ้น
สันดานเสพความคิด เสพความรู้คนอื่น ทำให้ โวยวายว่า G2k ไม่มีสาระ ... ก็ กะ จะมา "ดูด" เต็มๆ เลยนี่หว่า
ผู้บริหารมือสอง ก็มักจะกดดันให้ พนักงานที่ทำ KM แบบจัดฉาก แบบรูปแบบ นำเสนอ "สาระ" ลงในเว็ปต่างๆ เอาไปทำคะแนน ให้ ผู้ตรวจประเมิน KPI/BSC ดู ไปเอารางวัล ไปเอาใจคนตรวจ ฯลฯ
เรามีผู้ยิ่งใหญ่ทางการศึกษา ทางการบริหาร ฯลฯ ประเภท "มือสอง" เอาเขามา ตบแต่ง ใส่ใข่เอง ไม่ได้ สร้าง (Constructionism) กระบวนการเรียนรู้เลย
ระบบการศึกษา จึงออกมา แนว "มือสอง" ลูกหลานเรา กลายเป็น นักการศึกษามือสาม มือสี่ มือห้า
เรามี วิศวกรมากมาย ตีกอล์ฟกัน น้ำหมดป่า แต่ ออกแบบ สร้าง ขาย ไม้กอล์ฟ ลูกกอล์ฟ ไม่เป็น
เรามี คนจบปริญญาเอกมากมาย แต่ สังคมวิปริต การเมืองน้ำเน่า ป่าไม้เป็นตอไม้ โกงกินกันสนั่นเมือง บ้ากาม สื่อมวลชนไร้สาระ ฯลฯ
เรามี มหาวิทยาลัยชั้นนำ (คิดเอง ยกหางกันเอง หรือเปล่า ว่าชั้นนำ นำอย่างยั่งยืนหรือเปล่า) แต่ ทำไมสังคมก็ออกมาแบบนี้ !!! โลกร้อน สงคราม งกๆเค็มๆ
กระบวนการเรียนรู้ ไม่ใช่ โพสต์ความรู้ การโพสต์แบบเมามัน เป็นแค่ ถ่ายทอด "ข้อมูล" ไม่ใช่ "ความรู้" เป็น ข้อมูล มือสอง มือสาม อีกต่างหาก
ความรู้ ต้องผ่าน ตามวงจรเรียนรู้ สุนทรียสนทนา คิด ตกผลึก ลดลองทำ คุย คิด คลิก คลำ หมุนวนไปเรื่อยๆ เกิดเป็น sensing for making sense การคุยกัน รู้จักกัน อ่านๆๆๆ แลกๆๆ ใน g2k ก็จะบ่มเพาะ หมักข้อมูลเอาไปเพาะความรู้
ผมก็คิดว่า คนจบปริญญา โท เอกทางการศึกษา หลายคน อาจจะไม่ใช่นัก "เรียนรู้" เลย ก็ได้ หลายท่าน เป็น นักการศึกษามือสอง" ก็ได้นะ นักการศึกษาใต้ศอก นักการศึกษาที่เลียสิ่งที่ต่างชาติถุยออกมา ฯลฯ ไม่ทุกคนนะครับ บางคน ย้ำบางคน !!! และ ผมไม่ได้ หมายถึงประเทศไทย
แหม ท่านไร้กรอบ
ท่านวนเวียนอยู่ในเมืองไทย ท่านยังจินตนาการว่าอยู่เมืองนอกอีก
หลบก้อนหินไม่พ้นหรอกครับ
ใกล้แค่นี้เอง
สวัสดีครับอาจารย์
อ่านแล้วทำให้รู้สึกแน่นที่หน้าอก หนึบๆ
นึกถึงสมัยตอนเป็นเด็กนักเรียน
หุหุ
ต่างกันมากเลย. เห็นจริงเพราะถูกทำให้เชื่อว่าเป็นจริง
กับ ค้นพบความจริงด้วยตัวเอง ความพยายามมันต่างกัน... ปัญญาน้อยคงจะใช้เวลามาก...(อาจหลายร้อยหลายพันชาติ นะครับอาจารย์)
อาจเพราะเหตุนี้ ระบอบการศึกษาจึงได้ออกมารูปนี้...ไปอีกนาน...
ฮ่า ๆๆๆ .... โอ๊ย เจ็บ ครับ อาจารย์
หินโดนหัวโน เลย ครับ
เล่าฮู แสวง มีของดี พระดี ผ้ายันต์ดี คาถาดี ขอยืมมาให้แขวนขึ้นเวทีได้ไหมครับ อิอิ