เหตุเพราะ "เพื่อนเก่า" คือ อัญมณีที่นับวันจะเพิ่มคุณค่า
ผมจึงอยากเขียนถึงเพื่อนเก่า ที่ยังคงอยู่ในความทรงจำตลอดมาในฐานะของ ... คนของความคิดถึง
..." ขอให้หลับฝันดี ... นะค่ะ " .....
เสียงประโยคสุดท้ายจากปลายสายโทรศัพท์ ของใครบางคน ที่อยู่ห่างไกลบนภูดอยที่ใดที่หนึ่งของ จ.แม่ฮ่องสอน เอ่ยออกมาก่อนจะวางสายไปเมื่อเวลาประมาณ 3 ทุ่มกว่า ๆ ...
ผมทวนประโยคนั้นในใจ รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฎบนใบหน้า พร้อม ๆ กับภาพความทรงจำเก่า ๆ ก็ปรากฎขึ้นมาเป็นฉาก ๆ ....
ผมยังจำเธอได้ ... เด็กสาวคนนั้น...
ประมาณต้นปี 2543 ในช่วงวันวัยหนึ่ง ของการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ... ใครบางคน... แนะนำให้ผมรู้จักกับเธอ...สาวน้อยผู้น่ารัก ซึ่งเป็นน้องใหม่ สดใส หากแต่แววตามีความมุ่งมั่น ดูรั้นหน่อย ๆ และชอบที่จะตั้งคำถามกับหลายสิ่งอย่างในบริบทความเคลื่อนไหวของสังคม...
ช่วงเวลา 2-3 ปี ที่มีโอกาสทำงานร่วมกับเธอ ในเส้นสายรายทาง ของคนทำกิจกรรมภายใต้ร่มเงาขององค์กร นาม องค์การบริหาร องค์การนักศึกษา ผมเป็นพี่ที่ดีของเธอ ในการชี้แนะแนวทาง โต้แย้ง และคล้อยตาม เธอให้สมญานามผมว่า " อำนาจมืด " ที่มีอิทธิพลเร้นลับในบทบาทที่ต้องประคับประคองงานองค์กร และ ความรู้สึกของคนทำงานกิจกรรม ... อีกอย่างเธอบอกว่า ผมเป็นคนตัวดำที่มีอำนาจ ....
ในแง่มุมความสัมพันธ์ส่วนตัว
ผมมักช่วยเธอ เขียนบทความ เรียงความ บทกวี และงานเขียนอีกมากชิ้นให้เธอใช้ส่งอาจารย์ ซึ่งเป็นเรื่องน่าขัน เหตุเพราะเธอเรียนวิชาเอกภาษาและวรรณคดีไทย ส่วนผมอยู่ในสาขาวิทยาศาสตร์ วิชาเอกคณิตศาสตร์ ...
ผมกับเธอและคนอื่น ๆ มักไปขลุกอยู่ที่ขนำน้อยริมทะเล ภายในหมู่บ้านชาวประมง...บ้านของพี่ชายใจดีท่านหนึ่ง ... ความผูกพันของเราก่อเกิดที่นั่น ...
หลาย ๆ ครั้งที่เราต่างร่วมกัน รับสุข รับทุกข์ ร่วมหัวจมท้ายบนสายทางการทำกิจกรรม มีเสียงหัวเราะ เสียงร้องไห้ ... ตามห้วงยามของความรู้สึก
บ่อยครั้งที่เราเดินทาง...ไม่เว้นแม้แต่กลางค่ำกลางคืน อย่าง การขี่มอเตอร์ไซต์ จาก จ.ปัตตานี ไป จ.ยะลา ...
ทุก ๆ ครั้ง ที่มีโอกาสผมจะบอกกับเธอให้ใสใจต่อสังคม สานต่ออุดมการณ์...อันแรงกล้า
แต่ผมก็ไม่เคยนึกว่าเธอ จะเอาจริงเอาจัง จนต้องโยกย้ายตัวเองไปสู่ภูดอย เมื่อจบการศึกษา....ซึ่งต่างจากคนอื่น ๆ ที่เดินเข้าสู่ระบบ...
ประมาณ 5 ปีแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน ... มีเพียงน้ำเสียงและถ้อยคำ ที่ส่งผ่านมาทางสายโทรศัพท์ ไถ่ถาม ทุกข์ สุข พอให้หายคิดถึงกันบ้าง ในบางเวลา
ผมพอทราบข่าว จากคำบอกเล่าของเธอ และ มิตรคนอื่น ๆ ว่า เธอยังคงมุ่งมั่น เอาจริงเอาจัง กับงานของเธอ ตามความเชื่อ และ อุดมการณ์ ...
ปัจจุบัน เธอ ยังคงอยู่ภายใต้ร่มเงาขององค์กรพัฒนาเอกชน ลงไปคลุกฝุ่นอยู่กับเด็ก ๆ และ ชาวบ้าน บนดอยสูง บทบาทของเธอ นอกจากเป็นครูที่น่ารักให้กับเด็ก ๆ ที่ด้อยโอกาสแล้ว ยังต้องดูแลทุกข์ สุข ของชาวบ้าน โดยเฉพาะสตรี และ ผู้สูงอายุ อีกทั้งยังทำงานในบทอื่นอีกจิปาถะ ในฐานะผู้ประสานโครงการ ...
ผมจำได้ว่า ก่อนที่จะบอกลาเธอทางโทรศัพท์ ... ผมบอกเธอว่า วันคล้ายวันเกิดของเธอปีหน้า ... เธอจะได้เจอตัวเป็น ๆ ของผม แทนที่จะมีเพียงของขวัญบางชิ้น ที่ผมเพียรส่งให้เธอ ทุก ๆ ปี
และผมเหมือนจะจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า ผมพลั้งปากบอกเธอไปว่า " ผมจะปั่นจักรยานจาก จ.นครศรีธรรมราช ไปหาเธอ "