สี่วันกับการออกจากชุมชน(24-27ตค.)เพื่อไปราชการต่างจังหวัดพร้อมคณะเจ้าหน้าที่ในอำเภอฯ(ที่เขียนโครงการว่าประชุมสัมมนาถ่ายทอดแผนฯ แต่ที่จริงคือ..พักผ่อน) ผมออกจากบ้าน(ในเมือง ขก.)ตั้งแต่เช้า ถึง สอ.ประมาณเจ็ดโมง(28ตค) ถาม..ทำไมผมต้องไปเช้าถึงขนาดนั้น คำตอบคือทั้งเป็นห่วงงานและที่สำคัญกว่าคือ ชาวบ้าน(ซึ่งที่จริงแล้วก็คือญาติพี่น้องผมเกือบทั้งชุมชน)ที่อาจมีความเดือดร้อนและเป็นห่วงเรา ความผูกพันกับงานหรือคนในชุมชน..สำหรับผมแล้วไม่สามารถแยกจากกันได้เลย เพราะทุกเรื่องที่เป็นปัญหาของชุมชน ก็เหมือนปัญหาของเราด้วย ถึงแม้เราจะมีหน้าที่ด้านการดูแลสุขภาพของพวกเขา..แต่เราก็ไม่สามารถละเลยกิจกรรมทางสังคมและวิถีชีวิตในชุมชนเขาได้ ทุกเรื่องมันจะต้องเดินไปด้วยกัน
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงที่ผมถึงอนามัยฯ ก็มีชาวบ้าน(ญาติห่างๆๆๆ)มาบอกว่ายาย(ของคนดังกล่าว)ท่านเสียแล้ว ผมเองก็ต้องรีบตอบรับ และเดินทางเข้าหมู่บ้านเพื่อแสดงความเห็นใจกับญาติของผู้เสียชีวิต และช่วยเหลืองานเล็กๆน้อยๆ ก่อนที่จะขอตัวกลับมาเปิดอนามัยให้บริการประชาชนก่อนสองโมงครึ่ง เพราะถึงแม้จะเป็นวันอาทิตย์ แต่ก็มีผู้มารับบริการจำนวนมากเกือบ สี่สิบราย กว่าจะจบวันก็เหนื่อยแทบแย่ เพราะวันหยุดต้องทำงานคนเดียวทุกอย่าง ไม่เหมือนวันต่อๆมา(จันทร์-อังคาร)ที่ช่วงเช้าจะมีเจ้าหน้าที่มาช่วยบ้าง แต่ช่วงบ่ายเราก็ต้องอยู่ดูแลอนามัยเอง เพราะคนอื่นก็ต้องเข้าชุมชน(หรือภายนอกบ้าง)
สามวันที่อยู่ในชุมชน(ต้องดูแลเวรอนามัย) ทุกเช้าผมจะเข้าชุมชน เพื่อเยี่ยมเยียนชาวบ้านและเรียนรู้กิจกรรมต่างๆในวิถีชีวิตของชุมชน ทำไมผมต้องทำอย่างนั้น เพราะผมคิดว่าการดูแลสุขภาพของชาวบ้าน เราต้องมีความเข้าใจเหตุการณ์และกิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นในชุมชนบ้าง เพื่อใช้เป็นแนวทางให้การดูแลแนะนำที่ถูกต้อง นอกจากนั้นก็ต้องเข้าร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรม ประเพณีต่างๆในชุมชนไม่ว่าจะเป็นระดับครัวเรือน หรือระดับชุมชน เช่นการเข้าร่วมงานศพ งานทำบุญทำกุศล งานกฐิน และงานพัฒนาด้านต่างๆ ถึงแม้งานเหล่านั้นอาจไม่ใช่หน้าที่เรา แต่หากเราคิดว่านั้นคือโอกาสที่เราจะได้ทำหน้าที่ผู้ดูแลสุขภาพ ที่ไม่ใช่เพียงด้านการรักษากายเท่านั้น แต่มันต้องรักษาทั้งใจ และสังคมของผู้คนในชุมชนนั้นๆด้วย
สวัสดีค่ะ
นี่คือเอกลักษณ์ของคนอนามัย ดิฉันเป็นข้าราชการกระทรวงเดียวกัน หน้าที่เหมือนกัน ยินดีที่รู้จักค่ะ