เมื่อช่วงปิดกลางเทอมที่ผ่านมา ผู้เขียนมีโอกาสพาตัวเองไปให้รางวัลกับชีวิตในรูปแบบของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ โดยชักชวนเพื่อนๆ พี่ๆ (ในโรงเรียน) คอเดียวกันและอุดมการณ์ทางการท่องเที่ยวแบบอนุรักษ์ธรรมชาติเหมือนๆ กัน รวมพลพรรคได้ทั้งสิ้นจำนวน 11 ชีวิตออกเดินทางกันด้วยรถตู้พร้อมคนขับผู้ที่สามารถสนองความต้องการในรูปแบบการท่องเที่ยวของคณะเราได้ชนิดไม่มีหลุดกรอบ
จากสงขลา...เมืองสะตอ....ไปล้อลมทะเลเล่นต่อที่ประจวบคีรีขันธ์เพียงเพื่อให้ได้สัมผัสกับความต่างของสถานที่ที่แตกต่างไปจากทะเลที่หมู่เราชาวใต้แสนจะคุ้นเคยในท้องถิ่นบ้านตนเอง แล้วบรรเลงเส้นชีวิตการเดินทางออกไปทางเก็บตกของเก่า เข้าชมตลาดคลองสวน 100 ปีที่สมุทรปราการ ผสานเจตนารมณ์สมาชิกชมรมนักเที่ยว....เลี้ยวรถเข้านมัสการหลวงพ่อโสธรที่ฉะเชิงเทรา พอเช้าถึงออกเดินทางต่อขอแค่ให้ได้ไปล่องแก่งที่นครนายกตามคำชวนของคนรู้จัก และก็จะไปพักค้างคืนที่จุดหมายที่ใครๆ ในคณะอยากไปให้เห็นหรือได้ชื่นชมธรรมชาติกันสักครั้ง ณ ที่แห่งนี้....เขาใหญ่....
เมื่อคณะของเราเดินทางมาถึงเขาใหญ่ในช่วงบ่ายแก่ๆ สิ่งที่พวกเราซึมซับได้นั่นคือ บรรยากาศแห่งความสดชื่นที่ธรรมชาติหยิบยื่นให้เรา จนทำให้ผู้เขียนอดนึกถึง เพลงเขาใหญ่ของศิลปินคนโปรด “กวีศรีชาวไร่” น้าหมู พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ ไม่ได้ เพราะนั่นคือทุกความหมาย...ของ....เขาใหญ่จริงๆ โดยเฉพาะเนื้อร้องในท่อนนี้
“คือเขาใหญ่ถิ่นไพรพนา
ถิ่นสัตว์สาร่าเริง
ล่องลอยมีเสรีมีเกสร ร่อนความงดงาม
ตามความฝัน...ขอผองเรา
จงร่วมกัน ปกป้องฝัน
ปกป้องธาร บ้านพงไพร
เป็นเขาใหญ่....ที่ยืนยาว”
และแล้ว....พวกเราก็เริ่มออกเดิน....เดินเพื่อชื่นชมและสัมผัสธรรมชาติใกล้ๆ บริเวณบ้านพักซึ่งอุตส่าห์จองล่วงหน้ามาตั้งแต่ตอนอยู่ใต้ จนเมื่อ....ผ่านหน้าป้ายที่ทำการของอุทยานฯ เห็นฝรั่งนักท่องเที่ยวรูปร่างใหญ่คนหนึ่งหันมาส่งยิ้มทักทายพวกเรา ในขณะที่มือก็กำลังสาละวนอยู่กับเลือดที่ติดอยู่ที่ขาบ้าง เท้าบ้าง พวกเราก็ยังคิดว่า “แหม...ตัวตั้งโต...ไม่น่าปั่นจักรยานล้มเลยเนาะ” และพากันออกเดินต่อจนมาเจอเข้ากับป้ายบอกทางไปน้ำตกกองแก้ว ซึ่งดูท่าน่าจะสนุกกับสถานที่แปลกใหม่ในชีวิต ด้วยต้องเดินผ่านสะพานลิงเก่าๆ และเข้าป่าไปถึงจะเจอที่มาของเสียงน้ำตกที่พวกเราได้ยินกันมาตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ตัวบ้านพักนั่นเอง และด้วยความที่เติบโตกันมาในเขตชานเมืองกันทุกคน เลยไม่มีใครกลัวอะไรๆ กับการเดินป่าในครั้งนี้ ต่างเดินผ่านสะพานลิงกันมาด้วยความสนุกสนาน ในที่สุดเสียงของน้ำตกก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆๆ จนนำพาพวกเรามาพบกับความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้ หลังจากเก็บเกี่ยวความประทับใจฝากไว้กับภาพถ่ายเป็นที่พึงพอใจแล้ว กำลังจะเดินออกจากน้ำตกก็มีใครคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้นถึงสภาพพื้นที่ของป่าเขาใหญ่นี้ว่ายังคงมีความอุดมสมบูรณ์สูง โดยสังเกตจากพื้นแฉะๆ ชื้นๆ และออกจะเย็นๆ “น่าจะมีทากบ้างนะ” ในฉับพลันต่างคนต่างนึกถึงเจ้าตัวดำๆ เล็กๆ รูปร่างของมันชวนให้รู้สึกกลัวและน่าขยะแขยงขึ้นมาในบัดดล สิ้นเสียงวิพากษ์ต่างก็ก้มสำรวจเท้าและขาตนเอง พร้อมกับเสียงกรี๊ดที่ตามมาติดๆ เนื่องจากพบว่าเจอเจ้าตัวดังกล่าวเกาะติดอยู่ตามง่ามนิ้วเท้าบ้าง ขาบ้าง คนละ 2-3 ตัวให้พอรู้ว่า....ใครใหญ่....สะบัดก็ไม่ค่อยจะยอมหลุด ด้วยแทบจะยืนไม่ติด อยู่ไม่ได้ คณะผู้มาเยือนอย่างเราๆ เลยต้องใช้วิธีวิ่งพลาง...เขี่ยออกพลาง...กรี๊ดไปพลาง จนมาถึงบ้านพัก มีหลายคนอุปทานเอามือตัวเองล้วงเข้าไปในเสื้อหรือกางเกงแล้วเห็นยืดๆ หยุ่นๆ กรี๊ดลั่นออกมาซะงั้น เข้าใจว่าเป็นทาก เพื่อนๆ ต้องไปช่วยกันดูว่าใช่เจ้าทากรึปล่าว เสียว....กันไปตามๆ กันจนต้องขอตัวเข้าห้องบ้าง เข้าห้องน้ำบ้างสำรวจเสื้อผ้าตัวเองกันเป็นแถว เมื่อแน่ใจว่าไม่มีผู้ติดตาม.....เราต่างมาลั่งล้อมวงกันใหม่ กลับนึกถึงภาพที่ฝรั่งตัวใหญ่นั่งส่งยิ้มมาให้พวกเราพร้อมกับสาละวนเช็ดเลือดที่ขาและแข้งของเขา ในขณะที่ใกล้ๆ มือมีขวดน้ำเปล่าๆ ใบหนึ่ง เลยเพิ่งถึง....บางอ้อ.... “อ้อ...ไม่ได้ล้มจักรยานแฮะ”
ในตอนกลางคืนพวกเราก็ใช้บริการรถกระบะของทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ในกิจกรรมส่องสัตว์ ก็เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องที่ครูๆ อย่างเราไม่รู้มากมายในเรื่องของสัตว์
จนกระทั่งตอนเช้าก่อนกลับออกจากเขาใหญ่....พวกเราก็แวะเข้าไปในร้านค้าสวัสดิการของอุทยานฯ โดยปกติแล้วพวกเราเองก็เป็นทีมงานที่ชื่นชอบและชอบชื่นชมจนถึงกระทั่งอดใจไม่ได้เป็นต้องซื้อของที่ระลึกของสถานที่นั้นๆ ซึ่งจัดนำเสนอไว้กลับติดมือไปด้วย ......แต่ผู้เขียนไม่สะดุดใจอะไรเท่ากับเมื่อเห็นเสื้อยืดไซส์ใหญ่ที่จัดโชว์อยู่บนตาข่ายข้างฝาผนัง และมีรูปของทากตัวสีดำๆ ใหญ่ๆ บริเวณหน้าอกของตัวเสื้อ พร้อมข้อความประกอบว่า “พระเอก....แห่งเขาใหญ่” เลยมามั่นใจสุดฤทธิ์ว่าเรามาเจอกับเขาเข้าแล้วล่ะ.....พ่อพระเอกแห่งเขาใหญ่.... ที่แน่ๆ ดูเค้าจะมีความสุขมากๆ กับการอยู่ที่นั่นและคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวแทบจะทุกผู้คนที่ต้องการเดินป่า เพราะเค้าคือ "ทาก" หากท่านจะไปเขาใหญ่ในครั้งต่อไป....อย่าอวดเก่งแบบพวกเรา....ใช้บริการถุงกันทากเถอะค่ะ
หวัดดีครับผม
สวัสดีค่ะคุณ
สวัสดี ซิสแอน
เขียนอีกน่ะ จะรออ่าน
สวัสดีน้องนะครับผม
ทะเลแสนงามเมื่อในยามที่มีสายลม... แดดงามจะแต้มตามไรผม... ชอบสายลม พัดเส้นผมเธอปลิว
ภูเขาแสนงาม, เมื่อในยามที่มีฝนพรำ ผีเสื้อดอกไม้ร่ายรำ ชอบฝนพรำ ทำเส้นผมเธอเปียก ...
.....
เป็นเพลงของศุ บุญเลี้ยง...
เลยไม่แน่ใจว่า ทะเล - กับ - ภูเขา... งดงามและแสนงามเช่นนี้หรือเปล่าครับ
สวัสดีค่ะ อ.แผ่นดิน
สวัสดีค่ะ
- ได้แต่ฉวัดเฉวียน.....ไม่ได้เวียนขึ้นไปเที่ยวสักครั้ง
- ฝากนิราศเมืองแกลงของสุนทรภู่มาให้ค่ะ
...........................
ล้วนแต่ทากแต่ละรากลำพูไพร
ไต่ใบไม้ยูงยางมากลางแปลง
กระโดดเผาะเกาะผับขยับคืบ
ถืบกระทืบมิใคร่หลุดสุดแสยง
ปลดที่ตีนเกาะที่ขาระอาแรง
ทั้งขาแข้งเลือดโทรมชะโลมไป
....................................
สวัสดีค่ะ
- เข้ามาแก้ไขค่ะ
- วรรครอง ( ตำแหน่งรองสุดท้าย)แก้เป็น
ปลดที่ตีนติดที่ขาระอาแรง
- ทำของท่านเสียชื่อหมด
ยินดีด้วยคะ ได้เจอ พระเอก ที่ เขาใหญ่
เวลาเดินป่า เดิน คนแรก คนที่สอง สาม สี่ ดีคะ เพราะ ทาก ยังตั้งตัวไม่ทัน
แต่จริงๆ ทาก ก็น่ารักมากคะ เราเคยให้ สมาชิกค่าย บนเขาใหญ่ เขียนข้อดี ข้อเสีย ของทาก ปรากฏว่า ช่อง ข้อดี มากกว่าข้อเสียคะ
แต่ก็จริงๆ แต่ก่อน ตัวเอง ก็พยายามเลี่ยงเส้นทาง เจอพระเอก เหมือนกันคะ แหะๆ
สวัสดีค่ะพี่หน่อย