ฉบับนี้ยาวหน่อยนะครับ แต่น่าสนใจมากที่เดียว เพราะเห็ดฟางเป็นเห็ดที่มีคุณค่าคู่ครัวคนไทยมาเนิ่นนาน เพราะมีคุณสมบัติดีที่รสชาติอร่อย นำไปประกอบอาหารได้หลายชนิดทั้งผัด ต้ม ยำ และแกง พร้อมสรรพไปด้วยคุณค่าทางอาหารที่มีมากทั้งโปรตีนและเกลือแร่ คือความชื้น 88.9 % โปรตีน 3.4 % ไขมัน 1.8 % คาร์โบไฮเดรต 3.9 % กากใย 1.4 % พลังงาน 44 แคลอรี่ และธาตุแคลเซียม 0.08 % แต่ด้วยความยุ่งยากสำหรับการเพาะ ตั้งแต่การเตรียมวัสดุและการจัดการใน โรงเรือนที่ยุ่งยากจึงทำให้เกษตรกรไม่ให้ความสนใจในการเพาะเห็ดฟาง แต่สำหรับอาจารย์สำเนาว์ ฤทธิ์นุช คิดค้นดัดแปลงวัสดุและวิธีการเพาะเพื่อให้เกิดความสะดวก เพื่อให้สามารถที่จะเพาะเพื่อบริโภคในครัวเรือน หรือจะทำในเชิงธุรกิจก็คงจะไม่ผิดหวังถ้ามีความตั้งใจที่แท้จริง
อาจารย์สำเนาว์ ฤทธิ์นุช อาจารย์ 3 ระดับ 8 ของวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชัยนาท ผู้คิดค้นวิธีการเพาะเห็ดฟางดังกล่าว กล่าวว่า การเพาะเห็ดฟางในถุง ซึ่งสามารถเพาะใต้ร่มไม้ชายคาหรือเพาะในใต้ถุนบ้าน สามารถขนย้ายได้ วัสดุอุปกรณ์เพาะหาซื้อได้ง่าย ถ้าเกิดโรคและศัตรูจะระบาดเฉพาะถุง มีระยะเวลาใน การเพาะ 8 – 10 วัน แต่ยังคงมีข้อจำกัดคือการผลิตแต่ละครั้งจะเก็บผลผลิตได้เพียง 1 – 2 ครั้งเท่านั้น และต้องนำวัสดุเพาะเห็ดฟางมาหมักก่อนนำมาใช้เพาะเห็ดฟางในถุง เช่นนำขี้เลื่อยที่ผ่านการเพาะเห็ดนางรม หรือเห็ดนางฟ้า เมื่อจะนำมาใช้เพาะเห็ดฟางต้องนำมาหมักก่อนด้วยอีเอ็มหรือจุลินทรีย์
ขั้นตอนการเพาะเห็ดฟางในถุง คือเตรียมวัสดุ(จำนวนที่ใช้ต่อ 1 ถุง) ดังนี้ ก้อนขี้เลื่อยที่ผ่านการเพาะเห็ดในถุงพลาสติกมาแล้ว 12-15 ก้อน เชื้ออีเอ็ม (หัวเชื้อ) 20 – 40 ซีซี น้ำสะอาด 20 ลิตร แป้งข้าวเหนียวหรือแป้งสาลี 1 ช้อนชา เชื้อเห็ดฟางที่ดี 1 ถุง ผักตบชวาสดหั่น (อาหารเสริมที่ใช้ในขั้นตอนการเพาะ) 1 กิโลกรัม
การดำเนินงานโดยใช้อีเอ็ม (หัวเชื้อ) และขี้วัวแห้งหรือดินร่วน ร่วมหมักขี้เลื่อยที่ผ่านการเพาะเห็ดในถุงพลาสติกมาแล้ว ประมาณ 3 เดือน ไม่มีเชื้อราปนไม่มีกลิ่นเน่าหรือแฉะน้ำ และไม่มีโรคแมลงทำลายก้อนขี้เลื่อย นำมาทุบให้แตกออกหยาบๆ โดยบางส่วนอาจมีความละเอียดบ้างเล็กน้อย ตรวจสอบความชื้น ให้มีความชื้นหมาดๆ หรือมีความชื้นในระดับที่เมื่อใช้มือกำขี้เลื่อยนั้นแรงๆ จะมีน้ำซึมออกมาจากซอกนิ้วเพียงเล็กน้อยเท่านั้นจึงจะถือว่าพอเหมาะ (มีความชื้นประมาณ 60 % ใช้เพาะเห็ดฟางในถุงได้ ผลดี) นำขี้เลื่อนมากองบนพื้นซีเมนต์ ใช้อีเอ็ม (หัวเชื้อ) จำนวน 20 – 40 ซีซี ผสมกับน้ำสะอาด 20 ลิตร ราดน้ำที่ผสมอีเอ็มนั้นลงในขี้เลื่อยผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตรวจสอบความชื้นของวัสดุเพาะนั้นปรับให้มีความชื้น 60 – 65 % กองขี้เลื่อยเป็นกองสามเหลี่ยมคลุมด้วยพลาสติกให้มิดชิด กลับกองขี้เลื่อยทุก 2 วันครั้ง หรือวันเว้นวัน หมักขี้เลื่อยไว้ 10 วัน
เมื่อได้วัสดุต่างๆ แล้วดำเนินการเพาะเห็ดฟางตามกรรมวิธีการเพาะเห็ดฟางในถุง นำวัสดุเพาะผสมกันบรรจุลงในถุง โดยมีส่วนผสม 3 อย่าง คือ วัสดุเพาะ อาหารเสริมหรือผักตบชวาสดหั่น และ เชื้อเห็ดฟาง นำส่วนผสมทั้ง 3 อย่างมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน ก่อนนำมากองลงพื้น เกลี่ยแผ่กองวัสดุเพาะเห็ดฟางออกหนาประมาณ 2 – 3 นิ้ว นำเชื้อเห็ดฟางที่เตรียมไว้แล้ว ผสมคลุกเคล้าเข้ากับวัสดุเพาะเห็ดฟางให้ทั่วถึง จึงบรรจุลงในถุงๆ ละประมาณ 5 กิโลกรัม ยกถุงกระแทกกับพื้นหรือใช้มือกดให้วัสดุเพาะเห็ดฟางแน่นพอสมควร กดจากภายนอกถุงเพาะให้วัสดุเพาะเห็ดฟางมีความหนาประมาณ 20 เซนติเมตร . จับและรวบปากถุงเป็นจีบเข้าหากัน แล้วมัดปากถุงด้วยเชือกให้แน่น โดยมัดในจุดที่สูงสุดของปากถุง เพื่อให้ถุงมีลักษณะเป็นกระโจม ซึ่งเมื่อฝนตกลงมามาก ต้องพับปากถุงลงมา เพื่อป้องกันน้ำฝนเข้าภายในถุง พับตรงระดับที่ 50 – 70 เซนติเมตรจากก้นถุง ให้ปากถุงที่มัดห้อยลงด้านล่าง หรือด้านข้างของถุงนั้น และนำถุงบรรจุวัสดุเพาะเห็ดฟางไปตั้งไว้ในสถานที่เพาะหรือแขวนไว้ในที่ที่มีความชุ่มชื้น เช่น ในร่มเงาต่างๆ หรือใต้ร่มไม้ก็ได้ ตั้งไว้เช่นนั้นนานประมาณ 8 – 10 วัน ดอกเห็ดฟางจะเกิดขึ้นบนผิวของวัสดุเพาะเห็ดฟางภายในถุงนั้น รอจนได้ขนาดเหมาะสมกับการเก็บเกี่ยวผลผลิต การเก็บเกี่ยวผลผลิต จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในวันที่ 8 หรือ 9 โดยมีระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวผลผลิตประมาณ 1-2 วันต่อรุ่นต่อถุง
อาจารย์สำเนาว์ ฤทธิ์นุช ฝากบอกถึงผู้อ่านว่า ฤดูกาลเพาะเห็ดฟางในถุงควรเป็นฤดูร้อนหรือฤดูฝน (เดือนพฤษภาคม-ตุลาคม) จะได้ผลผลิตสูง สถานที่เพาะควรมีความชุ่มชื้นและมีร่มเงาโดยเฉพาะจากต้นไม้ ขนาดดอกเห็ดฟางที่ได้รับมีขนาดใหญ่มาก บางดอกมีน้ำหนักถึง 100 กรัม ผลผลิตเห็ดฟางที่ได้รับ 0.58-9.00 กิโลกรัม/ ถุง เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 3-5 ครั้งต่อรุ่นต่อถุง และการเพาะเห็ดฟางในถุงมีอีกหลายสูตรที่ใช้วัสดุเหลือใช้จากการเกษตร สามารถให้ผลผลิตใกล้เคียงกับสูตรที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ผู้อ่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือเข้าฝึกการเพาะเห็ด และการเกษตรอื่น ๆ ติดต่อได้ที่ 01 – 9532507 ยินดีต้อนรับทุก ๆ ท่านด้วยความยินดีครับ ชัด ขำเอี่ยม/รายงาน
ดำเนินการคล้ายกับเพาะเห็ดฟางในตะกร้า แต่ข้อดีน่าจะไม่ต้องสร้างกระโจมคุมความร้อน
เทดนิคที่ง่ายดี ที่ สฎ.มีเกษตรกรเพาะเห็ดตะกร้าอยู่ น่าจะนำไปเผยแพร่ต่อ
หลายเรื่องที่น่าสนใจแล้วจะติดตามนำมาเสนอครับ (ถ้ามีผู้สนใจ)
ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมกัน
ดีจังได้ความรู้อีกแล้ว มีเกษตรกรที่อยากเพาะเห็ดฟางอยู่กลุ่มหนึ่งเขาลองเพาะในตะกร้าแต่ไม่ได้ผล เดี๋ยวจะเอาวิธีนี้ไปบอกกเขา
ขอบคุณนะคะสำหรับความรู้ดีๆ
เขียวเอง
ฝากขอบคุณอาจารย์สำเนาว์ด้วยค่ะ ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการเพาะเห็ดฟางในตะกร้าและในถุงปุ๋ย วันนี้ได้ทดลองเพาะในตะกร้าและในถุง ได้ผลดีแค่ไหนจะมาเล่าให้ฟังค่ะ
ได้เข้าอบรมกับอาจารย์สำเนาว์ที่บ้านอาจารย์วิชิต จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในวันที่5 พฤษภาคม 2551 อาจารย์มีประสบการณ์มาเล่าให้ฟังและสอนเทคนิคการเพาะและดูแลเห็ดให้ด้วย ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ
สนใจการเพาะเห็ดฟางในถุงมากครับผมอยากได้รายละเอียดในการเพาะจะติดอาจารย์โดยตรงที่ไหนครับพอจะมีความรู้ที่เพาะในตะกร้าพลาสติก อยากได้รายละเอียดและขั้นตอนต่างๆอย่างละเอียดครับขอบคุณ
สุกรี ปังหลีเส็น
lสนใจการเพาะเห็ดฟางในถุงมากเป็นครูระดับประถมต้องการวิธีเพาะเห็ดฟางในถุงอย่างละเอียดจะทำอย่างไรจะนำความรู้ไปสอนเด็กเพราะมั่นใจว่าเด็กระดับประถมมีความสามารถทำได้ อยากได้ที่ติดต่ออาจารย์สำเนาโดยตรง กรุณาติดต่ออีเมล[email protected]ขอบคุณครับ
เยี่ยมมากเลยครับ ผมขออนุญาตนำไปเผยแพร่นะครับ
ที่เกษตรชัยนาทมีเชื้อเห็ดนางฟ้าขายหรือเปล่าครับ
สนใจมากเลยค่ะ