26 ตุลาคม 2550 ผมเดินทางไปร่วมการประชุมนำเสนอ Best Practices ของแต่ละกลุ่ม ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานนทบุรี เขต1 ที่ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี สถานที่ที่ไปตามที่ผู้รู้ บอกว่า มี Ozone เป็นลำดับ 7 ของโลก ที่รีสอร์ทบ้านทะเลหมอก เท่าที่สังเกต คนที่อยู่ที่นี่มีความสุขดี สมกับภูมิอากาศที่เป็นอยู่โดยรอบ เพราะอากาศกำลังดี ช่วงบ่ายที่ไปถึงบริเวณที่พักจะเห็นเมฆ หมอก คลอเคลีย อยู่ที่ยอดเขาไกล ๆสวยงามมากเลย ( สมกับที่ ททท เขาโฆษณา เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้ ) แต่ที่จะเล่าตามที่จั่วหัวไว้ เป็นอย่างนี้ ช่วงขาไปทำกิจกรรมแรกต้องผ่านตลาด ก.ม.79 ทางขวามือของถนน มีการประดับดอกไม้บนไม้โค้งที่ทำเป็นซุ้มไว้ สัก 10 ซุ้มได้ ทำให้สงสัยกันว่า ( คนบนรถที่นั่งไป ) คงมีงานใหญ่ซักอย่าง แต่ไม่รู้ว่างานอะไร จนวันรุ่งขึ้น เราต้องผ่านบริเวณตลาดนี้อีกครั้งหนึ่ง จึงถึงบางอ้อทั้งคันรถ เพราะมองไปที่เขาจัดซุ้มไว้ นั้น จะมีรถยนต์ ปิคอัพ และรถยนต์นั่งธรรมดา จอดเอาท้ายเข้าหากัน เว้นระยะไว้พอสมควร ในรถแต่ละคันจะมีถุงเล็กๆ ใส่ข้าวสาร อาหารแห้ง ผลไม้ ดอกไม้ เตรียมที่จะใส่บาตร กัน เพียงแต่บรรยากาศที่เป็นใจ ถึงจวนเพล ก็ยังรอพระ เพื่อที่จะใส่บาตรกันอยู่ จึงทำให้รู้ถึงประเพณีการตักบาตรของชาวเนินกัน
พอกลับมาถึงบ้านในวันรุ่งขึ้นได้ยินเสียงเครื่องเรือดัง มาแต่ไกลๆ ทำให้นึกขึ้นได้ว่า ช่วงนี้ชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขาตักบาตรพระร้อยกัน น้ำกำลังท่วมไม่สูงมากนักกำลังดี เหมาะสำหรับ ประเพณีการตักบาตรออกพรรษา ( เดิม เท่าที่ได้อ่านหนังสือ ของดีเมืองปทุม ที่ อ.ทองคำ พันนัทธี และอ.วีรวัตน์ วงศ์ศุปไทย ได้เขียนเอาไว้ดังนี้ เมื่อสมัยเดิม นั้น การรับบิณฑบาต ของพระ ที่ใช้เรือ จะนำเรือมาร้อยต่อ ๆกัน แล้วเลื่อนไปรับการใส่บาตรไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงคนสุดท้าย ) เวลานี้ ที่บริเวณวัดที่อยู่ริมแม่น้ำ กำลังจัดตักบาตรพระร้อยอยู่พอดี ถ้ามีเวลาลองไปเยี่ยมชมรับรองว่าเป็นบุญตาของท่าน ๆ เลยทีเดียว
ไม่มีความเห็น