ลมหนาวพัดผ่านมา


ความเรียง ถึงเพลงบทน้อย ในงานสร้างสรรค์บทเพลงของ เอี้ยว ณ ปานนั้น ด้วยความรำลึกต่อสายลมหนาว และความเปลี่ยนแปลงของชีวิต ยามได้พบว่า ลมหนาวพัดผ่านมา

ลมหนาวพัดผ่านมา

 

อ้างอิง - ภาพ http://www.lomography.com/folkways

เพลงบทหนึ่ง มักร้องไม่ได้มากมายโอกาสนัก

หากเลือกตามเนื้อหาของบทเพลงเป็นแกนหลัก

เพลงเศร้าก็มักจะไม่ได้รับการร้องรำในยามเริงรื่น เพลงหวานก็ไม่ออกมาโลดแล่นในยามชีวิตหมอง เพลงรักก็ไม่ควรมาร้องตอนร้องไห้เพราะคนรักจากไป เช่นเดียวกับเพลงของฤดูกาล ก็ไม่ควรร้องข้ามไปมา ขณะร้องเหงื่อแตกเพื่อร้องถึงความหนาวเย็นฉ่ำชื่นของลมหนาว

อีกมากมายของตำแหน่งแห่งหน

ซึ่งบทเพลงต่างทำหน้าที่

เช่นเดียวกับที่เพลงแห่งลมหนาวกำลังเริ่มต้นขณะนี้

หลังข่าวสารคาดการณ์พยากรณ์ออกมาว่า ปลายปีนี้ลมเย็นและความหนาว จะเพิ่มขึ้นมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา มาเร็วมาไวและยาวนานกว่าปีใดใด ผู้คนควรเตรียมรับความเปลี่ยนแปลง ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย

บ้างรายงานอ้างอิงไปถึงโหราพยากรณ์

ว่าปีนี้แผ่นดินไทยอาจมีหิมะตก

อันเป็นหนึ่งในกาลวิบัติ

และสัญญาณเตือนถึงเพชภัยในแผ่นดินนี้ มีหลายความคิดปนเปกันไปมา ระหว่างการคาดเดา คาดการณ์ ทำนาย หรืออ้างอิงสถิติความน่าจะเป็น เพื่อรวมกับการตีความวิบัติของประเทศ นอกจากนั้น ยังไม่มีบทเสนอทางออกของความไม่ดีงาม ไม่มีการนำเสนอทางออก แม้จะไม่พึงใจในวิบัติ

สำหรับผม ลมหนาวปีนี้มาแปลก

เป็นลมหนาวของปลายฝนที่เร็วมาก

จมูกสัมผัสกลิ่นชื้นของไอฝน ขณะที่ลมเย็นไม่ได้แห้งกร้าน แต่กลับเป็นความเย็นช่ำที่ผสมผสานเรื่องราวของสายฝน ไม่ใช่สายฝนของยาสูบ แต่เป็นสายฝนที่ยังไม่ทิ้งเรื่องราว ฝนช่ำที่นำพาให้เรารู้ถึงความเปียกปอน

ฝนยังไม่ผ่านไป แต่ลมหนาวรีบเข้ามา

ขณะเดียวกับที่ชีวิตผู้คน เริ่มรับรู้ได้ดีถึงสายลมเย็นยามเช้า

 

 

 

 

สำหรับผม คำตอบต่อลมหนาวล้วนเป็นเรื่องราวน่ายินดี เป็นสัญญาณของความเปลี่ยนแปลง ตลอดปีที่ผ่านมากำลังจะผ่านไป ชีวิตกำลังเริ่มต้นงานเฉลิมฉลอง ผู้คนเริ่มต้นแต่งตัวมากชิ้น

มีเสื้อผ้าสีสันสดใสกำลังออกมาโลดแล่น

เสื้อเก่าเก็บเนื้อหนาถูกขุดขึ้นมาใส่ งานรื่นเริงและการพักผ่อนกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ชีวิตกำลังจะผ่านปีเก่าเพื่อเข้าสู่ปีใหม่ เรากำลังจะได้รับของขวัญ

ชีวิตกำลังมีความเปลี่ยนแปลง

 

 

ลมหนาวสำหรับผม เป็นเหมือนสัญญาณเตือนแห่งความเปลี่ยนแปลง เป็นกระดิ่งระฆังที่ดังอยู่ในใจ คอยเร้าให้รับรู้ว่าชีวิตกำลังเปลี่ยนไป ควรใส่เสื้อให้หนาขึ้น ทาครีมเพื่อกันผิวแห้งแตก 

บอกตัวเองให้เข้าใจว่า

เมื่อได้กลิ่นของดอกพญาสัตตบรรณ

ลมหนาวกำลังมาแล้ว

จะรู้สึกเช่นไร

 

 

ก็จงเตรียมพร้อมรับกับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น เมื่อมีความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ มีความหมายของการผันผ่าน ความเข้าใจในสัญญาณที่เห็น ก็ควรปรับตัว พร้อมรับต่อความหมายใหม่ๆ

 

จะอย่างไรก็ตาม กลิ่นของดอกพญาสัตตบรรณ อาจไม่รัญจวนใจสำหรับทุกคนนัก เพราะบางคนก็บอกว่า ไม่ค่อยชื่นชอบกลิ่นติดเขียวเหม็นเขียวของดอกไม้ ที่มักกลิ่นแรงเพิ่มขึ้นหลังพระอาทิตย์

 

สำหรับผม ผมยังคงชอบร้องเพลง ถึงลมหนาวที่พัดผ่านมา ในยามได้กลิ่นดอกพญาสัตตบรรณพัดผ่านมา หรือในยามที่ใจอยากร้อง

แม้ผิดที่ผิดทางไปบ้าง สำหรับบทเพลงแห่งลมหนาว

ผมก็ยังคงอยากร่ำร้อง

แม้โอกาสจะไม่อำนวย แต่ผมถือว่า หัวใจผมอำนวย

ผมจะพยายามร้องเพลงแห่งงานรื่นเริง ให้ได้บ่อยครั้ง

ในแต่ละเช้าของชีวิต

 

 

 

หมายเหตุ - ชื่อความเรียง ได้แรงบันดาลใจและความประทับใจจาก เนื้อเพลง จากผลงานการสร้างสรรค์บทเพลงของ เอี้ยว ณ ปานนั้น -  http://www.aeawthatsong.com

 

สามารถฟังบทเพลงได้จากเวปไซต์ดังกล่าว

 

หมายเลขบันทึก: 141945เขียนเมื่อ 25 ตุลาคม 2007 23:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:12 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท