คืนวันอันอ่อนล้า


เมื่อเราเอาด้านดีเทียบกับด้านไม่ดี เพื่อนพ้องน้องพี่ จะพบว่า การศึกษาไทยในปัจจุบัน อยู่กับคืนวันอันอ่อนล้า เหลือเกินครับ

            ผมเชื่อว่าหากเอ่ยถึงคำว่า  อ่อนล้า   ทุกท่านคงจะหลับตาและนึกภาพออก  ว่าเป็นอย่างไร สาเหตุมาจากอะไรบ้าง  มีวิธีจัดการกับความอ่อนล้าอย่างไร  ซึ่งในวิธีการจัดการกับความอ่อนล้านั้นคงเป็นวิธีการที่เหมาะสมของแต่ละท่านไป                      

         ช่วงนี้นับว่าเป็นโชคดี  เป็นมงคลชีวิต  ที่ได้มีโอกาสได้กราบขอคำแนะนำหลายเรื่อง  จากผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเรา  ท่านเมตตาให้กำลังใจ  ให้คำชี้แนะแนวทางทั้งการปฏิบัติหน้าที่การงานและการปฏิบัติตนในชีวิตประจำวัน                                

           สิ่งสำคัญที่ผู้อาวุโสทุกท่านพูดตรงกันคือเรื่องคุณภาพของกระบวนการจัดการศึกษาของไทย  เมื่อมองผ่านปรากฏการณ์ทางสังคมที่มีให้เราเห็นไม่ว่าจะเป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับเด็กเยาวชน  วัยกลางคน  วัยสูงอายุ  ล้วนแล้วนับวันจะหดหู่ใจมากขึ้น   หากตั้งคำถามแบบภาพรวมและแบบทำใจให้เป็นกลาง  ท่วงทำนองของคำถามอาจมีว่า สิ่งที่ว่ามาเป็นผลผลิตส่วนหนึ่งของกระบวนการจัดการศึกษาใช่หรือไม่                             

            ผมเชื่อว่าทุกท่านมีคำตอบ  หากว่าในฐานะครูไทยคนหนึ่ง  ผมจะตอบว่า เมื่อเรานิยามคำว่า  การศึกษา  หมายถึง  กระบวนการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความเจริญงอกงามให้แก่บุคคลและสังคม  และเมื่อเราเอาด้านดีเทียบกับด้านไม่ดี    เพื่อนพ้องน้องพี่ จะพบว่า  การศึกษาไทยในปัจจุบัน อยู่กับคืนวันอันอ่อนล้า   เหลือเกินครับ                     

            สิ่งที่ดีที่สุด     วันนี้  เพื่อนพ้องน้องพี่  ต้องช่วยกันเติมพลังให้การศึกษาไทย  มีสีสัน  มีชีวิตชีวา    ดีไหมครับ  

หมายเลขบันทึก: 141852เขียนเมื่อ 25 ตุลาคม 2007 17:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม 2012 17:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • มาทักทาย ผอ
  • เป็นอย่างไรบ้างครับผม
  • ไปบ้านพ่อไหมครับ

การศึกษาอ่อนล้า  ในความเข้าใจในตอนนี้ก็คือ  นักเรียน เรียนประสบผลสำเร็จในการเรียน  แต่ไม่ประสบผลสำเร็จในชีวิต  นักเรียนประสบผลสำเร็จในชีวิต  แต่ขาดคุณธรรม  ศีลธรรม

            คุณครูที่สอนมีความรู้ดี มีความมุ่งมั่นแต่นักเรียน ดื้อตาใส แอ๊บแบ๊ว ครูก็เหนื่อยหน่าย หมดกำลังใจ และเด็กทุกวันนี้  หัวแข็ง สอนยากสอนเย็น แต่ไอ้ที่เราไม่สอน  เก้งเก่ง  ครูก็เลยปล่อยตามยถากรรมวิบาก  ปล่อยให้ธรรมชาติลงโทษ

            นักเรียนบางคน ตั้งใจเรียนมุ่งมั่น  อยากมีความรู้ อยากมีวุฒิการศึกษา เพื่อเอาเป็นภูมิคุ้มกันการเริ่มต้นชีวิตที่ดี เพื่อมีงานทำ แต่คุณครูที่สอน  เบื่อหน่ายแล้ว  ขี้เกียจพูด ซำซาก เซ็ง เสียแล้วเด็กก็เลยไม่ได้รับเต็มที่

ตราบใดที่ชีวิตยังดำเนินไปอยู่ ก็ย่อมมีปัญหาตามไปด้วย  อยู่ที่ว่า ใครจะทานไหว  สิ่งที่ต้านทานได้ ก่อนอื่นก็คงเป็นกำลังใจให้กัน  แล้วก็มาช่วยกันแก้ไข ถ้าหากว่าใครเหนื่อยหน่ายแล้ว สมควรที่คิดว่าจะเออรี่เพราะด้วยความเออเร่อ ก็สมควร

            เรื่องการเออรี่นั้น  มีทั้งดีและไม่ดี  ที่ดีคือควรให้โอกาสคนที่ขี้เกียจสอน เปลี่ยนให้คนรุ่นใหม่ไฟแรงเขาได้เข้ามาพัฒนา ตามให้ทันโลกสมัยใหม่ คิดใหม่ทำใหม่ บูรณาการใหม่ คงจะกระฉับกระเฉง ว่องไว ตามยุคโลกาภิวัตน์ทัน เพราะมันมีการเปลี่ยนแปลงเร็ว  ครูหรืออาจารย์เดิมๆ อาจล้าสมัยไปแล้ว

           ส่วนที่ไม่ดีนั้น  คุณครูหรืออาจารย์ที่เออรี่นั้น ท่านเป็นปูชนียบุคคล ที่เพรียบพร้อมไปด้วยความรู้และประสบการณ์  ท่านยังไม่ได้ถ่ายทอดให้หมดเลยท่านก็ตัดช่องน้อยแต่พอตัว ไปพักเสียแล้ว เสียดาย

     อาจารย์ขาที่พูดมาทั้งหมด เป็นความคิดของนักศึกษา ที่มิควรจะมาออกความคิดเห็น ร่วม  ตีตนเสมอท่าน แต่ด้วยที่ว่าติดตามผลงานการเขียนของท่านมาตลอด  ตั้งแต่ปิดเทอมแล้ว ก็ขออนุญาต ออกความคิดเห็นร่วมด้วย  และถือโอกาสตรวจสอบไปด้วยว่านักเรียนคนนี้พูดถูกเข้าท่าหรือเปล่า บางครั้งจะเป็นคนคิดลบ ไว้ก่อน เป็นกันชนภูมิคุ้มกันทางความคิด คะ

แวะมาแอ่วหาคุณเมกดำ..ท่านผอ.ผู้กล้าแสดงความคิดเห็น

หากท่านไม่อ่อนล้าเพียงหนึ่งคนนั่นแสดงว่าเมืองไทยไม่เคยมีคนอ่อนล้าให้ชาวโลกได้เห็น  ...ใกล้ปีใหม่ขออวยพรด้วยกะโลงล้านนาเป็นกำลังใจครับ...

ปีเก่าล่วงลับแล้ว      เลยลา   ลับเลย

ปีใหม่จั่กเข้ามา        แม่นแท้

ขออายุยืนทีฆา         ยาวยิ่ง  ยืนเอ่

คิดใดมุ่งมาดแม้        มาดได้ดั่งหมาย...จิ่มเทอญ

ด้วยความปรารถนาดีจาก...หนานพรหมมา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท