อัลกอร์...คว้าโนเบล


อดีตรอง ประธานาธิบดี อัลกอร์ คว้ารางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปีนี้ตามคาด จากการรณรงค์ต่อสู้กับภาวะโลกร้อน

        สถาบันโนเบลแห่งนอร์เวย์ (The Norwegian Nobel Institute) ได้ประกาศเมื่อวันที่ 12.. เวลา 16.00. ว่า ให้รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2550 แก่คณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศ หรือ ไอพีซีซี (UN'sIntergovernmental Panel on Climate Change) และ อัลเบิร์ต อาร์โนลด์ (อัล) กอร์ จูเนียร์ (Albert Arnold (Al) Gore Jr.) อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ

        อดีตรอง ประธานาธิบดี อัลกอร์ คว้ารางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปีนี้ตามคาด จากการรณรงค์ต่อสู้กับภาวะโลกร้อน
       นายอัล กอร์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ ร่วมกับคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change หรือ IPCC) ของสหประชาชาติ (ยูเอ็น)
คว้ารางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปีนี้

        เพื่อเชิดชูความพยายามในการดำเนินมาตรการที่จริงจังยิ่งขึ้น
ในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน จากผู้ได้รับการเสนอชื่อ 181 ราย ทั้งนี้ คณะกรรมการจะมอบเงินรางวัลมูลค่า 1.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 51 ล้านบาท ให้แก่ผู้ชนะรางวัล
 

        นายกอร์กระตุ้นให้มีการดำเนินมาตรการชะลอภาวะโลกร้อน
ผ่านทางหนังสือของเขาและผ่านทางภาพยนตร์สารคดีเรื่อง An Inconvenient Truth ที่ได้รับรางวัลออสการ์สาขาสารคดี IPCC
ประกอบด้วยนักวิทยาศาสตร์ 2,500 คน โดย IPCC ได้ออกรายงานหลายฉบับในปีนี้เพื่อระบุว่ามนุษย์คือสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน และเสนอแนวทางแก้ไขปัญหานี้
           ทั้งนี้ คณะกรรมการแถลงว่า พวกเขาพยายามสร้างและเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ก่อขึ้นโดยมนุษย์ และยังสร้างรากฐานในการใช้มาตรการต่างๆ ที่จำเป็นอย่างยิ่งต้อการลดผลกระทบของสภาวะดังกล่าว
  


 

คำสำคัญ (Tags): #โลกร้อน
หมายเลขบันทึก: 140049เขียนเมื่อ 19 ตุลาคม 2007 12:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน 2012 09:25 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
  • สวัสดีครับครูมิม
  • เรื่องโลกร้อนน่ะ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสไว้นานแล้วครับ แต่คนไทยไม่ได้ให้ความสำคัญ
  • ขอบคุณครับสำหรับบันทึกดีๆ

ครูอ้อยมาอ่าน  ได้รับความรู้แล้วนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะ

P

ดีใจกับเขาด้วย ที่มีความสามารถในการการตุ้นเตือนให่โลกตระหนักถึงภัยอันใหญ่หลวง ถ้ายังขืนแชเชือนกัน

ได้เขียนบันทึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไว้เหมือนกันค่ะ

 

คนที่ทำงานแบบนี้น่านับถือนะครับ ทำงานวิจัยมาเยอะแต่ไม่ค่อยได้รับความสำคัญ สภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นนี้ เพราะเราละเลย และคิดว่าไกลตัวซะมากกว่า แต่ยังดีที่มีคนใส่ใจกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง จึงทำให้เราได้รับรู้ข้อมูลใหม่ๆ ตลอดเวลา ต้องขอบคุณบุคลเหล่านี้ที่ทำให้เราตื่นขึ้นกับการแก้ปัญหา ขอบคุณครูมิม นะครับที่เอาบทความดีๆมาฝาก

      ขอบคุณ คุณสุดทางบูรพา ..P

     ขอบคุณแม่อ้อย  P 

ขอบคุณ คุณ..P  และคุณ boy mirror  สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยโลกของเราได้ คือ ความตระหนัก เห็นคุณค่าในการรักษาทรัพยากรสิ่งแวดล้อม  ขอบคุณค่ะที่เข้ามาเยี่ยมบันทึกของครูมิม

ถ้ามี บทความดีๆอีกเอามาแบ่งปันข้อมูลนะครับ

  ด้วยความยินดีอย่างยิ่งค่ะ คุณ boy_mirror P จะรอติดตามอ่านบันทึกนะคะ

ต้องยอมรับว่าอัลกอร์เป็นคนจุดกระแสโลกร้อนจนตื่นตัวกันทั่วโลก แต่มีบางอย่างที่อัลกอร์ไม่ยอมพูด คือสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาโลกร้อน ที่มาจากทิศทางการพัฒนาที่มุ่งแต่การเติบโตทางเศรษฐกิจและการผลิตเพื่อสนองความอยากของคน วิธีที่เรานำเข้าจากตะวันตกจึงแก้ตามอาการเท่านั้น ไม่ได้แก้ที่สาเหตุเลย  แนวทางของในหลวง แนวทางของโลกตะวันออก และแนวทางตามวิถีพุทธ ที่เน้นการแก้ปัญหาจากเหตุน่าจะเป็นคำตอบที่แท้จริงมากกว่า

 ขอชื่นชมที่นำเรื่องราวดีๆมาให้ติดตามกันครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท