สถาบันโนเบลแห่งนอร์เวย์ (The Norwegian Nobel Institute) ได้ประกาศเมื่อวันที่ 12 ต.ค. เวลา 16.00 น. ว่า ให้รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2550 แก่คณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศ หรือ ไอพีซีซี (UN'sIntergovernmental Panel on Climate Change) และ อัลเบิร์ต อาร์โนลด์ (อัล) กอร์ จูเนียร์ (Albert Arnold (Al) Gore Jr.) อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ
อดีตรอง ประธานาธิบดี อัลกอร์ คว้ารางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปีนี้ตามคาด จากการรณรงค์ต่อสู้กับภาวะโลกร้อน
เพื่อเชิดชูความพยายามในการดำเนินมาตรการที่จริงจังยิ่งขึ้น
ในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน จากผู้ได้รับการเสนอชื่อ 181 ราย ทั้งนี้ คณะกรรมการจะมอบเงินรางวัลมูลค่า 1.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 51 ล้านบาท ให้แก่ผู้ชนะรางวัล
ครูอ้อยมาอ่าน ได้รับความรู้แล้วนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ
คนที่ทำงานแบบนี้น่านับถือนะครับ ทำงานวิจัยมาเยอะแต่ไม่ค่อยได้รับความสำคัญ สภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นนี้ เพราะเราละเลย และคิดว่าไกลตัวซะมากกว่า แต่ยังดีที่มีคนใส่ใจกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง จึงทำให้เราได้รับรู้ข้อมูลใหม่ๆ ตลอดเวลา ต้องขอบคุณบุคลเหล่านี้ที่ทำให้เราตื่นขึ้นกับการแก้ปัญหา ขอบคุณครูมิม นะครับที่เอาบทความดีๆมาฝาก
ขอบคุณ คุณสุดทางบูรพา ..
ขอบคุณแม่อ้อย
ขอบคุณ คุณ.. และคุณ boy mirror สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยโลกของเราได้ คือ ความตระหนัก เห็นคุณค่าในการรักษาทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ขอบคุณค่ะที่เข้ามาเยี่ยมบันทึกของครูมิม
ถ้ามี บทความดีๆอีกเอามาแบ่งปันข้อมูลนะครับ
ต้องยอมรับว่าอัลกอร์เป็นคนจุดกระแสโลกร้อนจนตื่นตัวกันทั่วโลก แต่มีบางอย่างที่อัลกอร์ไม่ยอมพูด คือสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาโลกร้อน ที่มาจากทิศทางการพัฒนาที่มุ่งแต่การเติบโตทางเศรษฐกิจและการผลิตเพื่อสนองความอยากของคน วิธีที่เรานำเข้าจากตะวันตกจึงแก้ตามอาการเท่านั้น ไม่ได้แก้ที่สาเหตุเลย แนวทางของในหลวง แนวทางของโลกตะวันออก และแนวทางตามวิถีพุทธ ที่เน้นการแก้ปัญหาจากเหตุน่าจะเป็นคำตอบที่แท้จริงมากกว่า
ขอชื่นชมที่นำเรื่องราวดีๆมาให้ติดตามกันครับ