- ธรรมะช่วยขัดเกลาจิตใจ
- แต่ตอนนี้นะคะนกพยายามเอาธรรมะดับโกรธให้ใจสงบแต่ยังทำไม่ได้เลยคะ
- เลยรีบเปิดคอมฯอ่านบันทึกเจอธรรม ในblogของอาจารย์ ภัทรพล และของอาจารย์หว้า จะพยายามดับโกรธคะ
- ขอบคุณอาจารย์ที่มาทักทายคะ
วันที่ 17 ตุลาคม 2550 เวลา 9.00 -11.00 น. ที่นอร์ทกรุงเทพ ได้ฟังการบรรยาย ธรรม เรื่อง "คุณธรรม นำชีวิต "
ก่อนนั่งรอฟังก็นึก ในใจว่าการฟังธรรม ก็คงจะง่วงนอน แน่ เตรียม ลูกอม ยาดม ไว้เผื่อง่วง
แต่เมื่อได้ฟังท่าน แล้วเป็นการฟังธรรม ที่สนุกและได้ประโยชน์มาก ท่านพูดสิ่งที่ฟังดูแล้วมันง่าย ๆ แต่มีความหมาย มาก ท่านเล่าเรื่อง การเดินทางไปต่างประเทศกับหลวงพ่อ ปัญญาฯ ไม่ว่าจะเป็น อเมริกา หลวงพ่อก็สามารถสื่อสารได้ ไปประเทศจีน หลวงพ่อก็สื่อสาร ได้ สาเหตุที่หลวงพ่อสื่อสารได้เพราะหลวงพ่อศึกษาเอง อ่านเองตั้งใจจะเป็นครู ทุกวันในตอนเช้า" หลวงพ่อปัญญาฯ ท่านตื่น ตี 4 ทุกวันและเดิน ออกกำลังกาย วัดมี 45 ไร่ ท่านก็เดินเกือบหมดทุกวัน
สิ่งที่ผู้บันทึกได้บันทึกอาจจะน้อยกว่าที่ฟังมากแต่ก็อยากจะบันทึกให้อ่าน เพราะเป็นการฟังที่ดีมากและมีคำคมที่อยากนำมาฝากคะ
วัดปัญญานันทาราม เลขที่ 1 หมู่ 10 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12121 โทรศัพท์ 0-2904-6101 ถึง 2 โทรสาร 0-2904-6065 พระครูสีลวัฒนาภิรม (พระมหาสง่า สุภโร) เจ้าอาวาส ความสำคัญของวัดปัญญานันทาราม คือเป็นศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรต์ จังหวัดปทุมธานี โดยมี พระพรหมังคลาจารย์ (หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ) เป็นองค์อุปถัมภ์วัด พระครูสีลวัฒนาภิรม (พระมหาสง่า สุภโร) เจ้าอาวาส .............................................................................................. โครงการของวัดปัญญานันทาราม สําหรับประชาชนทั่วไป 1. โครงการเพิ่มโอกาสบวชธรรมจาริณี จากแนวคิดเรื่องชีวิตทางกายอยู่ได้ด้วยปัจจัยสี่ ทางจิตวิญญาณอยู่ด้วยคุณธรรม การมีชีวตที่ แสวงหาแต่ปัจจัยสี่เป็นชีวิตที่แสวงหาความสุขทางกายโดยส่วนเดียว เราจึงประสบภาวะทั้งส่วนบุคคลและสังคม ดังนั้นเราควรแสวงหาปัจจัยที่ก่อให้เกิดความสุขทางจิตคือ ธรรมะ จะได้มีชีวิตอยู่ด้วยสติ ปัญญา และเพื่อให้จิตใจได้พบความสุขสงบเย็นของชีวิตโดยมีรากฐานจากประเพณีและวัฒนธรรม ซึ่งเป็นมรดกอันลํ้าค่าของชาติ การบวชเป็นการพัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เป็นกิจกรรมฝ่ายดีที่ชาวพุทธทุกเพศ ทุกวัยมีสิทธิร่วมกิจกรรมเพื่อพัฒนาตนเอง และขยายผลไปยังผู้อื่น ไม่จํากัดจํานวน เวลา และสถานที่ การบวชธรรมจาริณีเป็นการให้โอกาสแก่ชีวิตในการนําตนเองเข้าหาธรรมะเพื่อพัฒนาตนเอง พัฒนางาน และพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสม ได้จัดกิจกรรมครั้งแรก เมื่อ ปี พ.ศ.2537 2. โครงการสืบสานวัฒนธรรมรักษาอุโบสถ (วันพระ) ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของความดี ด้วยความละเอียดอ่อนของบรรพบุรุษจึงได้หาแนวทางเพื่อสร้างความดี ให้แก่ลูกหลานและสานสัมพันธ์ สายใยครอบครัวทําให้ผู้สูงอายุ ไม่ถูกทอดทิ้งไว้ ในบ้านคนชราอันเป็นความพิการของสังคม บรรพบุรุษของเราได้อาศัยการฝึกตนโดยหลักของศาสนาที่มาจากรากฐานของวัฒนธรรม ประเพณี เป็นเครื่องมือในการสร้างชีวิต คือการสร้างความสํานึกให้เกิดขึ้นเพื่อความรอดของชีวิต ทั้งทางกายและทางจิต จึงทําความมั่นคงให้เกิดขึ้นกับชีวิตและสังคม ณ เวลานี้ สถานการณ์ได้เปลี่ยนไป วันพระเคยทําหน้าที่สืบสานอริยธรรมของมนุษย์ กําลังถูกลบเลือนไปจากความทรงจําเพราะการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตจากจันทรคติ สู่สุริยะคติ อริยธรรมของมนุษย์จําเป็นต้องได้รับการรักษา และปฏิบัติ สืบต่อไปเพื่อให้มนุษย์ กล้า ลด ละ เลิก ฝึกตนให้เป็นคน “อยู่ง่าย กินง่าย ถูกใจมนุษย์ สิ้นสุดปัญหา” ได้จัดกิจกรรมครั้งแรก เมื่อ ปี พ.ศ.2537 3. โครงการชีวิตใหม่ (บําเพ็ญบารมีวันอาทิตย์) การเกิดของคนมีได้สองทาง เกิดครั้งแรกเกิดจากครรภ์มารดา เกิดเป็นชีวิตร่างกาย และเกิดทางจิต เกิดได้หลายครั้ง หลายเหตุการณ์ เพราะการเปลี่ยนแปลงเป็นความจริง (อนิจจัง) การเกิดทางจิตด้วยความปรารถนากระวนกระวาย อยากมี อยากเป็น ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น การเกิดเช่นนี้จึงเป็นทุกข์รํ่าไป ดังนั้นการเปลี่ยนจากความรู้สึก ความปรารถนาเดิมๆ ให้เป็นความรู้สึก ความนึกคิดปรารถนาการกระทําที่เป็นไปตามธรรม เขาจึงเกิดเป็นชีวิตใหม่ สังคมปัจจุบันได้เปลี่ยนวิถี จนเกิดความสับสน กายกับจิตไม่สัมพันธ์กัน เพื่อให้โอกาสแก่ชีวิต นั้นคือวันจันทร์ - ศุกร์ มีภาระต้องทํางาน วันเสาร์ - อาทิตย์ เป็นเพียงวันพักผ่อนทางกาย จิตจึงไร้ทิศทางเป็นความล้มเหลวของระบบชีวิต เราจัดโอกาสให้ เพียงแต่กายได้พักผ่อน แต่จิตกลับไม่มีเวลาให้หยุดคิดแม้เพียงเสี้ยวหนึ่ง เพื่อได้สัมผัสถึงความสงบเย็น เมื่อวัฒนธรรมในสังคมไทยได้เปลี่ยนไปตามกระแสสังคมโลก ความห่างเหินทางวัฒนธรรมได้ เกิดขึ้น แต่คุณค่าพิเศษของมนุษย์อยู่ที่การปรับตัวได้ การปรับตัวเพื่อให้โอกาสชีวิตเป็นความจำเป็น เพื่ออนุเคราะห์เกื้อกูลแก่ชีวิต สงเคราะห์ตนเองและสังคมด้วยการปรับตัวเองให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลง ใช้วันอาทิตย์ให้โอกาสแก่ตัวเองทั้งกายและจิต ชีวิตก็สมบูรณ์แม้เพียงวินาทีหนึ่งก็ตาม ได้จัดกิจกรรมครั้งแรก เมื่อ ปี พ.ศ.2537 4. โครงการสร้างความสุขด้วยการบําเพ็ญบุญ (วันสําคัญต่างๆ) ความสุขมี 2 ระดับคือ สามิสสุข ความสุขที่อิงอามิส คือกามคุณ 5 มีวัตถุ เป็นเครื่องล่อใจให้ เพลิดเพลินและปรารถนายิ่งขึ้นไป โดยเฉพาะกิน กาม เกียรติ ปัญหาต่างๆ ในสังคมที่เกิดขึ้น เพราะต่างก็แสวงหาความสุข อีกระดับที่เรียกว่า นิรามิสสุข คือความสุขที่ไม่อิงอามิส ไม่ต้องอาศัยวัตถุเป็นเครื่องให้ความสุข หรือออกจากกามคุณ 5 ออกจากกิเลสเป็นความสุขจากการไม่เบียดเบียนกัน มีเมตตาคํ้าจุนโลก และนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง การแสวงหาความสุขตามหลักธรรม เป็นความสุขสงบเย็นตามธรรมชาติอย่างหนึ่ง ที่เกื้อกูลชีวิตมนุษย์ และมนุษย์เท่านั้นที่เข้าถึงได้ด้วยการให้ ทาน รักษาศีล และการเจริญภาวนา เพื่อชีวิตได้พบความสุขแท้จริงคือ สะอาด สว่าง สงบ ได้จัดกิจกรรมครั้งแรก เมื่อ ปี พ.ศ.2537 5. โครงการวิปัสสนาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต วิปัสสนาเป็นวิธีที่พระพุทธเจ้าปฏิบัติด้วยการใช้สติกํ าหนดดูอาการทางกายและจิตที่เกิดขึ้นในปัจจุบันขณะ ขณะที่มีสติกําหนดอยู่ กิเลส (โลภ โกรธ หลง) ไม่อาจเข้าครอบงําจิตได้ บางครั้ง ขาดสติ เผลอไป เมื่อรู้ตัวก็ตั้งสติตามกําหนดกิเลสที่เกิดขึ้นในจิตจนกิเลสหายไป จิตกลับสู่ภาวะบริสุทธิ์ดังเดิม ปัญหาหรือความทุกข์จากการกระทําผิดทางกาย วาจา ใจ ก็จะไม่เกิดขึ้น ดังนั้นการศึกษาปฏิบัติให้มากกิเลสและความทุกข์ ย่อมลดลง ความสงบสุ ขในจิตใจย่อมมีมาก เพื่ออนุเคราะห์เกื้อกูลแก่ชีวิต สงเคราะห์ตนเองและสังคม ด้วยการปรับตัวเองให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงเพื่อความถูกต้องกับโลกและชีวิต และสร้างสรรค์แบบอย่างที่ดีงามให้แก่สังคม ทําให้รู้จักการดําเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท คือได้เจริญอัปปมาทธรรม สร้างครอบครัวเป็นสุข สังคมร่มเย็น ประเทศชาติมั่นคง ได้จัดกิจกรรมครั้งแรก เมื่อ ปี พ.ศ.2544 เว็บไซต์วัดปัญญานันทาราม http://watpanya.com/ http://www.watpanya.org/ http://www.panya.iirt.net/ http://www.panya.iirt.net/watpanya/ http://www.watcholpratan.net/ พระพรหมังคลาจารย์ (หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ) องค์อุปถัมภ์วัด * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * ประวัติและปฏิปทาพระพรหมังคลาจารย์ (หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ) http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=8148 แผนที่วัดปัญญานันทาราม http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=3143 |
1. แต่งหน้านอกให้น้อย (ตอนนี้กำลังแต่งให้น้อยลง โดยเลิกใช้แป้งพัฟใช้แต่แป้งเด็ก)่้
2. แต่งหน้าในให้งาม
( พี่พยายามคิดแต่สิ่งดีๆ นำธรรมะมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต)
3. แต่งหน้างานให้มากๆๆๆ (อันนี้ได้เลยค่ะ เพราะทำงานจนล้นแล้ว แต่จะพยายามให้มีคุณภาพมากขึ้นค่ะ)
ขอบคุณมากนะคะสำหรับข้อมูล ปิดเทอมหรือยังค่ะ พี่จะมีปิดกล่องช็อล์ค วันที่ 19 ต.ค. นี้ค่ะ
นกขอบคุณพี่หว้ามากเลยคะ ถ้าหากพี่หว้าฟังท่านนะคะ 2 ช.ม เหมือนมันเร็ว มันได้หลายอย่างมากเลยคะ ท่านอธิบายเหมือนพี่หว้าพูดเลยคะ
แต่งหน้างานให้มากๆๆๆ ดูจากกิจกรรมและการสอนนกก็รู้คะว่าพี่ว่าได้ข้อนี้เต็มเลยคะ แต่เราเป็นผู้หญิงนะคะ พี่หว้า เราก็แต่งหน้าบ้างนะคะ ที่นกสอนเขาให้ลาพักร้อนคะ นกก็ลาไม่หลายวันแล้วคะ วันที่ 30 ต.ค 50 นี้ก็เปิดเทอมแล้วคะพี่หว้า
สวัสดีค่ะ
มีเพื่อนๆไปปฏิบัติเหมือนกัน แต่ดิฉันยังไม่เคยไป ขอบคุณกับเรื่องราวดีๆค่ะ
พี่หว้าเมื่อวันจันทร์-อังคารที่ผ่านมานกก็ไปทำงานที่ วพล.คะ แต่พอไปแล้วงานมันก็มีแยะ นะคะ ก็ไม่ได้ไปไหน... แต่เย็นวันจัน นกไปซื้อ ชั้นวางเสื้อผ้าที่บ้านราณีนะคะ ร้านอินเดียฯแต่ไม่เจอราณีคะ ก็ซื้อน่าจะเป็นพ่อราณี (แอบต่อราคา หลายเลยคะ... ฮิฮิ) ตอนเย็นวันอังคารก็เดินทางกลับ มาทำต่อที่ กทม.นะคะ แต่งานที่กทม.ก็เป็นงานเบา ๆ คะพี่หว้าเพราะมันยังไม่ได้เปิดเทอมนะคะ
ขอคุณคุณตันติราพันธ์ มากเลยคะที่เขาทักทาย ที่วัด หลวงพ่อท่านก็ให้ดูภาพนะคะ ท่านได้แยกที่พักไว้ได้ดีมากเลยคะ และหลวงพ่อท่านบรรยายธรรม ได้ดีมากและประทับใจมากเลยคะ ท่านให้เอา 3 ข้อไปปฏิบัตินะคะ ให้เน้น หน้าใน และหน้างาน
หน้านอกบอกความงาม
หน้าในบอกความดี
หน้าที่บอกผลงาน
ขอบคุณครับ
วันนี้ได้อิ่มบุญก่อนนอน ครับ
สวัสดีครับรัตน์ชนก
ขอบคุณคะท่าน ผศ.เพชรากรนกฟังนะคะ นกยังประทับใจมาก 2 ชั่วโมงที่ฟังนะคะดีมากเลยคะ
ขอบคุณอาจารย์ โกศลคะ ไปพักให้สบายเทียวให้สนุกนะคะแล้วนำรูปมาฝากสมาชิกด้วยนะคะ แล้วอาจารย์แอบ(ภรรยา)ไปหรือไปทั้งครอบครัว ..ฮิฮิ
แวะมาฟังธรรมของหลวงพ่อผ่านทาง อ.นก ขอบคุณครับ
ท่านอาจารย์ นกต้องขอบพระคุณ มากเลยคะที่ท่านอาจารย์เข้าทักทาย อาจารย์ ไปบรรยาย KM. ที่นอร์ท นกประทับใจการบรรยายของอาจารย์มากเลย
ราณีนกขออนุญาต เอารูปราณีนะคะ
สวัสดีครับ.
ขอบคุณคะคุณอาจารย์เกษตรยะลา แล้วจะลองไปหาเห็ดแครงทานนะคะขอบคุณคะ
สวัสดีครับคุณรัตน์ชนก
ผมเคยไปอบรมปฏิบัติธรรมที่วัดปัญญานันทาราม ๔ วัน ๓ คืนครับ ในการอบรมเป็นอัยการจังหวัด ดีมากครับ ที่นอนในวัดดีมากเป็นทรายครับแล้วใช้ผ้าพลาสติกปู ทำให้นอนไม่ปวดหลัง ไม่ร้อน ผมได้ฝึกนั่งสมาธิด้วย ดีมากๆ อาจารย์เจ้าอาวาสท่านเทศน์เก่งจริงครับ ผมยืนยัน
ที่นั่น เราต้องล้างชามเอง พระท่านก็บอกว่าไม่ว่าคุณจะเป็นใครเมื่อเข้ามาในวัดก็จะต้องเท่าเทียมกัน กินเองต้องล้างเอง เพื่อนผมบอกว่า มาอยู่วัดล้างชามแค่นี้สบายมาก เพราะอยู่บ้าน เมียให้ล้างมากกว่านี้ ฮ่าๆๆ
สวัสดีค่ะ
ทราบว่ามีคนไปปฎิบัติธรรมมากที่นี่ แต่ยังไม่เคยไปเลยค่ะ
น่าเลื่อมใสนะคะ
ขออนุโมทนาบุญค่ะ
สวัสดีค่ะแวะมาทักทายรู้สึกอิ่มบุญมากเลย
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีครับ
แวะมาทักทายและเก็บประเด็นอันง่ายงาม และชัดลึกในเรื่องวิถีแห่งโลกและชีวิต
หน้าที่บอกผลงาน
ผมเห็นด้วยกับประเด็นข้างต้นเหมือนกัน แต่บางครั้งก็อดสะท้อนใจไม่ได้ว่าหลายคนมีกราฟที่พุ่งขึ้นในด้านการงาน และความจริงผลงานกลับสะท้อนในมุมกลับอย่างน่าหายใจ
นั่นกระมังครับที่เราเปรยกันว่า "แข่งบุญวาสนานั้นแข่งขันยาก" แต่ก็คงไม่ใช่ให้เรารู้สึกสิ้นหวังกับการทำงานอย่างเต็มที่ - เต็มศักยภาพ ....
บันทึกนี้จึงอดตั้งคำถามกับหน้าที่ตนเองว่า "ผลงาน" สอดรับกับหน้าที่และหน้าที่สัมพันธ์กับผลงานอย่างไรบ้าง ?
ขอบพระคุณครับ
ขอบคะอาจารย์แผ่นดินคะ สำหรับคำถาม
"ผลงาน" สอดรับกับหน้าที่และหน้าที่สัมพันธ์กับผลงานอย่างไรบ้าง ?
สวัสดีครับ
ธรรมะช่วยขัดเกลาจิตใจครับ แต่บางวัดผมไม่ชอบไป ฝืนความรู้สึกอย่างไรไม่รู้ เข้าไปแล้วอึดอัด แต่บางวัดสงบ ร่มรื่น อยากนั่งปฏิบัติธรรม ไปแล้วอยากไปอีก ไม่ใช่เพราะความสวยงาม พระดังคนขึ้นเยอะ ครับ
ช่วงนี้ทำใจไม่ได้เลยครับตั้งแต่หลวงพ่อปัญญามรณะภาพไปท่านเป็นคนเดียวที่ผมสามารถฟังธรรมของท่านได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ทำให้ผมเป้นคนดีเข้ากับสังคมดีๆได้ ใครมีพระอาจารย์ท่านไหนบรยายธรรมะได้เข้าใจอย่างถ่องแท้แบบหลวงพ่อปัญญาแยะยำด้วยนะครับ