นำเรื่องการทำน้ำผลไม้มาฝากครับ

ผลไม้ไทยสามารถนำมาทำน้ำผลไม้ได้หลากหลาย

วันนี้ (17-10-50) ผมจะขอนำเรื่องของการแปรรูปผลไม้ในท้องถิ่น เป็นนำผลไม้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันครับ

น้ำผลไม้ประกอบด้วยวิตามินและเกลือแร่อันมีความสำคัญยิ่งต่อร่างกายของมนุษย์ ทั้งในยามปกติและเจ็บไข้ วิตามินที่สำคัญในผลไม้ก็คือ วิตามินซี และคาโรทีน ซึ่งเป็นสารกำเนิดของวิตามินเอ ผลไม้ทุกชนิดอุดมด้วยธาตุโปตัสเซียม ไอโอดีน ฟลูออรีน ทองแดง แมงกานีส เป็นต้น

ขั้นต่างๆ ในการปฏิบัติที่ถูกต้องของการทำน้ำผลไม้
1. เลือกผลไม้ที่สุกพอดี ไม่ช้ำ มีรา หรือมีรอยแมลงกัดกิน
2. ล้างผลไม้ให้สะอาด
3. การคั้นน้ำหรือสกัดน้ำ
        3.1 ผลไม้ที่จะคั้นสด ๆ นำมาตัดหรือซอยเป็นชิ้นเล็ก ๆ หรือตีด้วยเครื่องตีเนื้อผลไม้ ในกรณีมะนาวหรือส้ม ผ่าครึ่ง บีบด้วยเครื่องบีบ กรองเอากากออก
        3.2 ผลไม้ที่ต้องต้มก่อนจึงจะสกัดน้ำได้ เช่น พุทรา มะขาม นำมาต้มกับน้ำกรองเอากากออก
4. การผสม น้ำผลไม้บางชนิด เมื่อถูกความร้อนจะทำให้คุณภาพเสีย ดังนั้นควรใช้น้ำเชื่อมที่เย็นแล้วผสม เติมกรดซิตริกหรือกรดมะนาว ช่วยในการทำให้รสเปรี้ยวตามต้องการ บางคนก็อาจชอบใส่เกลือด้วย
หมายเหตุ    วิธีทำน้ำเชื่อม ใช้น้ำตาลทราย 2 กิโลกรัม ต่อน้ำ 1 ลิตร ต้มให้เดือดแล้วกรอง
5. การเก็บ ถ้าเก็บไว้รับประทานหลายวัน ควรต้มให้เดือดก่อนบรรจุขวดที่สะอาด ปิดจุก เก็บในตู้เย็น
6. การทำเป็นเครื่องดื่ม เมื่อต้องการดื่ม นำมาผสมน้ำและเติมน้ำแข็ง ให้รสตามความพอใจ

น้ำแตงโมหวานเข้มข้น
ส่วนผสม
น้ำแตงโมคั้น                    1             ลิตร
น้ำเชื่อม                            1             ลิตร
เกลือ                                 5             กรัม
วิธีทำ
1. ล้างผลแตงโมให้สะอาด ผ่าผลแตงโม หั่นเนื้อแตงโมเป็นชิ้นเล็กๆ คั้นให้ได้น้ำ 1 ลิตร
2. นำน้ำแตงโมที่คั้นได้มาผสมน้ำเชื่อม เติมเกลือ

น้ำกล้วยหอมหวานเข้มข้น
ส่วนผสม
เนื้อกล้วยหอม                     1            กิโลกรัม
น้ำสะอาด                            1             ลิตร
น้ำเชื่อม                              2 ½         ถ้วยตวง
กรดซิตริก                           ½            ช้อนชา
เกลือ                                    1            ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. ล้างผลกล้วยหอมให้สะอาด ปอกเปลือก หั่นเนื้อกล้วยหอมเป็นชิ้นเล็ก ๆ
2. ใส่น้ำสะอาด ต้มด้วยไฟอ่อน ๆ ประมาณ 15 นาที กรองให้ได้น้ำ 1 1/5 ลิตร
3. เอาน้ำกล้วยหอมที่กรองได้มาผสมน้ำเชื่อม เติมกรดซิตริกและเกลือ

น้ำตะลิงปลิงหวานเข้มข้น
ส่วนผสม
ตะลิงปิง                            1              กิโลกรัม
น้ำสะอาด                          1              ลิตร
น้ำตาล                            600            กรัม
เกลือ                                1              ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. ล้างผลตะลิงปลิงให้สะอาด ใส่น้ำสะอาด ต้มด้วยไปอ่อน ๆ ประมาณ 5-10 นาที
2. ใส่น้ำตาลทราย ต้มต่อไปประมาณ 45 นาที กรองได้น้ำตะลิงปลิงหวานเข้มข้นประมาณ 1-1 1/5 ลิตร เติมเกลือ

น้ำแตงไทยหวานเข้มข้น
ส่วนผสม
เนื้อแตงไทยสุก                 1              กิโลกรัม
น้ำสะอาด                           1              ลิตร
น้ำเชื่อม                             1              ลิตร
เกลือ                                ½              ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. ล้างผลแตงไทยให้สะอาด ปอกเปลือก แคะเอาเมล็ดออก หั่นเป็นชิ้น ๆ ใส่น้ำสะอาดต้มด้วยไฟอ่อน ๆ ประมาณ 10 นาที กรองให้ได้น้ำ 1 ลิตร
2. เอาน้ำแตงไทยที่กรองได้ผสมน้ำเชื่อม เติมเกลือ

น้ำมะม่วงหิมพานต์
ส่วนผสม
น้ำมะม่วงหิมพานต์            1              ลิตร
น้ำเชื่อม                               1              ลิตร
กรดซิตริก                           1              ช้อนโต๊ะ
เกลือ                                   ½              ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. ล้างผลมะม่วงหิมพานต์ให้สะอาด บีบน้ำ กรองให้ได้ 1 ลิตร
2. ต้มน้ำมะม่วงหิมพานต์ด้วยไฟอ่อน ๆ ประมาณ 10 นาที ผสมน้ำเชื่อมร้อน
3. เติมกรดซิตริกและเกลือ

น้ำมะละกอหวานเข้มข้น
ส่วนผสม
เนื้อมะละกอสุก                      1            กิโลกรัม
น้ำสะอาด                             1              ลิตร
น้ำเชื่อม                               3              ลิตร
กรดซิตริก                             2            ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. ล้างมะละกอให้สะอาด ลวกในน้ำเดือดนาน 3-5 นาที
2. ปอกเปลือกเอาแต่เนื้อ ยีหรือบดให้ละเอียดกับน้ำสะอาดจนเป็นเนื้อเดียวกัน
3. ผสมน้ำเชื่อมร้อน เติมกรดซิตริกและเกลือ

น้ำสับปะรดหวานเข้มข้น
ส่วนผสม
น้ำสับปะรดคั้น                 1              ลิตร
น้ำเชื่อม                           1              ลิตร
กรดซิตริก                     1-1 ½         ช้อนโต๊ะ
เกลือ                               1               ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1.วิธีคั้นน้ำสับปะรด
- หักจุก ล้างสับปะรดทั้งเปลือกให้สะอาด
- ปอกเปลือก ตัดส่วนที่ช้ำ เสียทิ้ง เซาะตาออก ล้างอีกครั้ง
- หั่นสับปะรด เอาแกนออก สับให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ในผ้ากรองอย่างหยาบ
- คั้นน้ำออก กรองอีกครั้ง
- สับปะรดขนาดกลาง 2 ผล จะได้น้ำสับปะรดคั้น 1 ลิตร
2. ต้มน้ำสับปะรดคั้นให้เดือดนาน 10 นาที ผสมกับน้ำเชื่อมร้อน เติมกรดซิตริกและเกลือ

เขียนใน GotoKnow โดย สุดทางบูรพา
ใน เกษตรชายแดน

คำสำคัญ (Tags): #น้ำผลไม้#การแปรรูป#ผลไม้ในท้องถิ่น#กรมส่งเสริมการเกษตร

หมายเลขบันทึก: 139369เขียนเมื่อ 17 ตุลาคม 2007 13:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 10:49 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่าน

ความเห็น (14)

berger0123

เขียนเมื่อ 17 ตุลาคม 2007 13:24 น. ()

สวัสดีค่ะ คุณสุดทางบูรพา แวะมาอ่านและทักทาย เรื่องการทำน้ำผลไม้น่าสนใจดีค่ะ เป็นคนปลูกผลไม้ด้วยตัวเองใช่ไหมค่ะ

berger0123

เขียนเมื่อ 17 ตุลาคม 2007 13:24 น. ()

สุดทางบูรพา

เขียนเมื่อ 17 ตุลาคม 2007 13:28 น. ()

สวัสดีครับคุณ berger0123
ผลไม้ที่เลือกมานี้ส่วนใหญ่เป้นผลไม้พื้นบ้านสามารถหาได้โดยทั่วไปครับ
ส่วนตัวผมเองนั้นที่บ้านผมปลูกเองแทบทุกอย่างครับ เน้นจำนวนชนิดเข้าว่า แต่บางชนิดก็ได้กินบางชนิดก็ไม่ได้กินครับ ต้องแข่งกับนกกาและแมลงเพราะว่าไม่ได้ใช้สารเคมี