สระแก้วชายแดนเบื้องบูรพา


เมืองศูนย์กลางทางการศึกษา

         วันนี้เป็นวันที่ 2 ที่ผมได้มาทำงานที่ กศน. สระแก้ว อย่างที่เคยบอกบ้านนี้เมืองนี้ ผมเคยมาทำงานในตำแหน่ง ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์อยู่ 2 ปี  รู้จักผู้คนมามากมาย เท่ากับได้กลับมาทำงานที่บ้านเก่า ทุกอย่างจึงไม่ต้องเริ่มจากศูนย์

         สี่ปีที่จากไปสระแก้วเปลี่ยนแปลงไปมาก บ้านเมืองเจริญขึ้นตามสภาพ ร้านรวงที่เปิดขายสินค้าค่อนข้างทันสมัย มีห้างยักษ์ใหญ่อย่างแมคโครมาตั้ง และช่วงนี้กำลังเกิดกระแสต่อต้านห้างต่างชาติที่จะพากันเข้ามายึดหัวหาดที่สระแก้ว หลายอย่างที่เปลี่ยนไปแต่เหนือสิ่งอื่นใดคือหัวใจของพันธมิตรที่อยากเห็นสระแก้วเป็นเมืองที่พร้อมด้วยมิตรภาพและความมีคุณภาพของผู้คน ไม่เคยเปลี่ยน  ผมได้พบกับพันธมิตรที่เคยร่วมอุดมการณ์มาด้วยกันมาในอดีตหลายคน ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน สุดท้ายทุกอย่างเหมือนเดิม

         หลายปีมาแล้วมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งถามผมว่า ในฐานะหัวหน้าส่วนราชการของสระแก้วคนหนึ่ง อยากเห็นสระแก้วพัฒนาไปในทิศทางใด ผมจำได้ว่าผมย้อนกลับไปถามท่านว่า ต้องตอบผมก่อนว่าทำไมคนภาคใต้แถบชายแดนเขาถึงนิยมส่งลูกหลานไปเรียนที่ปีนัง เขาไม่นิยมส่งมาเรียนที่กรุงเทพฯ  ท่านอธิบายว่าเพราะเขาอยากให้ลูกหลานเขาเก่งภาษาและได้เรียนในสถาบันที่มีมาตราฐานกว่าเมืองไทย  ผมยิ้มแล้วตอบว่า   ก็เพราะแบบนี้ ผมอยากเห็นสระแก้วเป็นเมืองศูนย์กลางทางการศึกษา เพราะถ้าเทียบเคียงสระแก้วก็คือปีนังและจังหวัดชายแดนของกัมพูชา 3 -4 จังหวัดก็คือจังหวัดชายแดนภาคใต้บ้านเรา  ครับวิธีคิดนี้เกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว

        ณ วันนี้ เค้ารางของความคิดนี้มีสิ่งบ่งบอกว่ามีโอกาสเป็นไปได้ เพราะสระแก้วทุกวันนี้ มีสถานศึกษาเกิดขื้นเป็นดอกเห็ด สิ่งอยากเห็นตามมาคือการเอาจริงเอาจังของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะช่วยกันทำให้ฝันนี้เป็นจริงได้มากน้อยเพียงใด

คำสำคัญ (Tags): #ฝันที่เป็นจริง
หมายเลขบันทึก: 139118เขียนเมื่อ 16 ตุลาคม 2007 15:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 21:20 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

อย่างน้อยผมเชื่อว่าหน่วยงานหนึ่งที่ยังคงมุ่งมั่นเอาจริงเอาจังดังหน้าตาของผู้นำหน่วยงาน หน่วยงานนั้นคือกศน.สระแก้ว ไงล่ะ จะบอกให้

ตามมาอ่านความคิดและประสบการณ์ที่อยู่ในตัวพี่น้อยต่อที่ สระแก้ว ครับ

         เรียน ท่านดิศกุลและครูนง

ผมต้องขอบพระคุณอย่างสูง ที่ให้กำลังใจกันด้วยดีมาตลอด เคยมีคนพูดว่า สถานการณ์เป็นตัวเปลี่ยนแปลงความคิด  ผมก็ว่ามีส่วนจริงแต่ในความหมายของผม ผมคิดว่า ความคิดต่างหากที่เป็นตัวเปลี่ยนแปลงสถานการณ์  หวังว่าเราจะเป็นกำลังใจให้กันและกันตลอดไปนะครับ

สวัสดีครับ ท่านP

  • ขอสนับสนุนแนวความคิดของท่านและขอป็นกำลังใจให้อีกคนหนึ่งนะครับ
  • ขอบคุณครับที่มีแนวคิดที่ดี ต่อการศึกษาของบ้านเมืองของเรา

 

เรียนคุณสะ มะ นึ กะ

         ชื่อคุณแปลกมากและเป็นชื่อเดียวกับผม ผมเกิดวันจันทร์เขาบอกว่าคนเกิดวันจันทร์ไม่ควรมีสระ เคยไปปรึกษาปลัดอำเภอที่เป็นเพื่อนกัน อยากตัดสระอึออก เป็นสมนก เพื่อถามแล้วจะอ่านอย่างไร ผมบอกว่า อ่าน สะ มะ นะ กะ เพื่อนบอกว่าน่าเกลียดเดี๋ยวคนจะเข้าใจว่าผมเป็นญี่ปุ่น ตั้งแต่นั้นมาไม่เคยคิดเปลี่ยนชื่ออีกเลย ชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้เป็นมงคลอยู่แล้วครับ

        เรื่องของการศึกษาเป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหวแต่ยิ่งใหญ่ระดับชาติ ผมเคยสอนลูกของเพื่อนคนหนึ่ง ถามเขาว่าทุกวันนี้คนเขารู้ใช่ไหมว่าเราเป็นลูกใคร เด็กตอบว่าใช่ แถมพูดออกมาว่าและเขารู้ด้วยว่าพ่อผมจนอย่างไร  ผมก็เลยถามว่าแล้วรู้ไหมว่าทำไมพ่อถึงจน  เด็กตอบว่าพ่อบอกว่าเรียนมาน้อย ผมได้ทีก็เลยอธิบายว่าที่พ่อเรียนมาน้อยอาจจะเป็นเพราะว่าพ่อไม่มีโอกาสเรียนก็ได้ แต่วันนี้เธอมีโอกาสเรียนแล้วจงตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด การศึกษาจะเปลี่ยนแปลงชีวิตเธอได้ และข้อสำคัญเมื่อเธอโตขึ้น ก็ไม่ต้องเสียเวลาอธิบายลูกของเธอว่า ทำไมครอบครัวเราถึงจน

        ขอบคูณมากครับที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมเยียน ยินดีแลกเปลี่ยนในสิ่งที่ผมรู้ทุกอย่างครับ

ยินดีด้วยครับ ที่มีโอกาสเปลี่ยนแปลงชีวิตการทำงาน....ขอให้มีพลังกายพลังใจที่เข้มแข็งต่อไปนะครับ....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท