วรรณกรรมคำถาม : คำถามที่รอคำตอบจากคุณ...?
1.เรื่อง หนูอยากให้พ่อหายไป
2. ผมไม่ชอบเป็นครู
วรรณกรรมคำถาม 2 : คำถามที่รอคำตอบจากคุณ...? (อีกครั้ง)
3. พรุ่งนี้ผมจะไปทานเหล้า
4. นางยักษ์ที่บ้าน
สวัสดีค่ะอาจารย์
วันนี้ไม่เล่นแล้ว ตอบจริงๆ เป็นคนที่แปลก คิดว่า ถ้าใครขอก็จะให้ ไม่มีเหตุผลอะไร คนที่คิดจะขอมีไม่กี่เหตุผลค่ะ และในนั้น ก็มีทั้งจริง และปลอม และคิดว่าทั้งสองเหตุผลของคนขอ เขาต้องใช้พลังอย่างมาก เวลาเอ่ยปาก ฉะนั้น กล้าขอ ก็กล้าให้ แม้แต่จะขอให้ซื้อก็เอาค่ะจริงๆ
ถ้าเป็นดอกไม้..บางทีก็ซื้อ บางทีก็ไม่ซื้อค่ะอาจารย์...ขึ้นอยู่กับสายตาของเด็กที่มอง......บางทีก็คิดว่า เอ๊ะเราทำไมไปรู้สึกผิดที่กินอาหารเต็มโต๊ะหลายเงิน กับเงินแค่ไม่กี่บาทที่ซื้อดอกไม้ก็ไม่ยอมจ่าย........แต่บางทีก็คิดว่าไม่ซื้อดีกว่าจะได้ไม่ต่อยอดการจ้างแรงงานเด็กในลักษณะนี้.........สับสนกับตัวเองอยู่เหมือนกันค่ะ......ยังไม่มีคำตอบที่ลงตัว......จนตอนหลังเลยคิดว่า......อะไรที่ทำแล้วไม่เสียใจภายหลังก็ทำๆไป ......เลยเป็นว่าซื้อบ้างไม่ซื้อบ้างตามเหตุตามปัจจัย......อืม....เป็นอย่างนี้บ่อยๆซะด้วยซิคะ
คุณ
สวัสดีครับ
ก็แปลว่าคุณตันติราพันธ์ตกลงซื้อดอกกุหลาบของเด็กหญิง "ไชโย้! หนูขายได้แล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ คุณน้าใจดี จังเลย" เด็กหญิงคงจะพูดอย่างนี้ในใจ อย่างน้อยก็มีคนซื้อ "นึกว่าจะต้องเปลี่ยนไปขายกระดาษทิชชู หรือไม่ก็ขนมหวานแบบไทยๆ เสียแล้วสิ
สวัสดีครับ อ.
ตกลงว่า "ลังเล" อยู่ "งั้นหนูไปขายข้างหน้าก่อนนะคะ เดี๋ยวหนูกลับมาขายคุณน้าใหม่ แต่ยังไงก็ช่วยซื้อสักดอกนะคะ ไม่แพงหรอก 10 บาทเอง ซื้อ 5 ดอก แถม 1 ดอก ค่ะ นึกว่าสงสารหนู หนูจะได้มีค่าขนมไปโรงเรียนนะคะ" เด็กหญิงคงพูดอย่างนี้ แล้วก็กลับมาหา อ.ลูกหว้าใหม่อีกครั้ง
สวัสดีครับ
เด็ดเดี่ยวมากครับ "ไม่ซื้อ" แม้เด็กจะเจ็บปวดบ้าง แต่เพื่อระเบียบของสังคม ต้องตัดใจเหมือนกัน บางทีเราก็เห็นมีผู้ใหญ่ที่มาคุมตบหัวเด็กทิ่มอย่างนั้นเหมือนกัน เราอยากจะไปถามว่านี่คุณทำไมทำกับเด็กอย่างนั้น หรือคุณไม่ใช่พ่อแม่เด็ก แต่เป็นพวกใช้แรงงานเด็ก เอ! บอกตำรวจจัดการเลยดีไหม หรือองค์กรที่ดูแลเด็กให้มาจัดการ เด็กๆ เหล่านี้น่าจะมีสิทธิในการเรียนหนังสือ พักผ่อน ตามสมควรแก่สถานะ การที่เด็กท่องราตรีขายของอยู่นี่ ไม่แน่ใจว่ามีกฎหมายคุ้มครองหรือไม่
ส่วนเรื่องช้าง เห็นด้วยครับที่จะต้องจัดการเด็ดขาด แต่แปลกนะ เจ้าหน้าที่เขาไปอยู่ไหน ช้างตัวโตขนาดนั้นไม่ยักเห็น ปล่อยให้คนเหล่านี้พามาตระเวนใช้แรงงานผิดกาลเวลาอย่างนี้
"ขอบคุณค่ะ" เด็กหญิงคงจะหิ้วตะกร้าดอกไม้กลับออกไปด้วยสีหน้าหม่นหมองและกังวล
สวัสดีครับคุณ
ตกลงว่า "ลังเล" เหมือนกัน (ขึ้นอยู่กับหนูๆ แล้วล่ะ จะทำหน้าตาน่าสงสาร เวทนา จริงใจแค่ไหน ต้องฝึกนะ เรื่องขายของในลักษณะนี้ เราต้องเข้าใจว่า 1.ผิดกาลเวลาที่เขาจะซื้อดอกไม้ 2. ผิดสถานที่ เพราะเป็นร้านอาหาร ไม่ใช่ที่สาธารณะ 3. ผิดจุดประสงค์ เพราะเขามากินอาหาร มาหาความสุขจากการดื่ม กิน ไม่ใช่มาหาซื้อดอกไม้ เพราะฉะนั้น ต้องมีเทคนิคการขายมากๆ ไม่เช่นนั้น น้าจันทรัตน์ ไม่ควักเงินซื้อดอกไม้หนูเป็นแน่)
ไม่ซื้อ ส่ายหน้าเฉยๆ ไม่พูดอะไร
เจอหลายรูปแบบ ปฏิเสธหมด
สงสาร แต่มีอะไรแอบแฝงเบื้องหลังไม่ชอบ
ช้างก็เหมือนกัน
เมื่อก่อน "ลังเล" นั้นใช่เลย...แต่ระยะหลังนี้ไม่ใช่ค่ะ....ยืดหยุ่นไม่เบียดเบียนตัวเองและไม่เบียดเบียนคนอื่นมากกว่า...มันคนละอารมณ์ความรู้สึกน่ะค่ะ
สวัสดีครับคุณ
เด็ดขาดครับ เด็กน้อยต้องถอยกรูดแน่ๆ ครับ บางทีการตัดใจก็ช่วยทำอะไรให้ดีขึ้นได้เหมือนกัน
คุณ
ผมเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของคุณจันทรรัตน์แล้วครับ บางทีการพิจารณาอย่างคุณจันทรรัตน์ว่าก็ดีนะครับ เพราะบางครั้งเราอาจเจอเด็กที่ขายของด้วยบริสุทธิ์ใจ ช่วยเหลือผู้ปกครองจริงๆ ก็ได้ ส่วนที่เป็นแก๊งค์เป็นก๊กก็มี ก็ต้องดูสถานการณ์และพิเคราะห์ด้วยเหมือนกัน ครับ