Episode 2 พักร้อนก็ตัองมานอนซิครับ


...พูดถึงสระน้ำ...ที่นี่มีตั้งสามสระครับ สวยๆ ทั้งนั้นใกล้ที่ไหนไปที่นั้น สระที่สองตอนสายๆ มีสอนแอโรบิกในน้ำด้วยครับ ..ใครเบื่อเต้นบนบก ก็ลองไปเต้นในน้ำดูครับ ไม่มีทางได้เห็นเหงื่อ...

นาฬิกามันปลุกตอนตีห้า ตามปกติของมันล่ะครับ ...

ผมตื่นขึ้นมา แล้วก็ต้องหัวเราะกับตัวเอง เพราะปกติวันจันทร์เช้า พอตีห้าปุ๊ปก็ต้องสปริงตัวจากเตียง เตรียมตัวไปทำงานตามประสาคนกรุง อ้าว... แต่นี่มันเป็น พักร้อนของผมนี่นา ไม่ใช่วันทำงาน และ นี่ก็ไม่ใช่กรุงเทพฯ ...

ใช่ครับจันทร์นี้ผมตื่นมาที่ ห้วหินฮ่า ฮ่า วันนี้ เราเป็นนายครับ เวลาตีห้าไม่สามารถทำเราลุกขึ้นจากเตียงได้ ว่าแล้วเดินก็ไปกดปุ่ม “Dismiss” ในโทรศัพท์ เพื่อที่จะบอกมันว่า ไม่ต้องปลุกแล้ว ผมจะได้นอนต่อ...

บรรยากาศนอกห้องยังมืดอยู่เลยครับ..เป็นใจสนับสนุนให้ผมนอนต่อจริงๆ...

 

ที่ Sofitel หัวหินนี่ โรงแรมเค้าสวยและสงบดีจังนะครับ ห้อง ก็ใหญ่โตดี ตีลังกาเล่นได้ เรียกว่า นอนหลับสบาย ที่นอนสูง และ นุ่มได้ที่ ผมนอนแล้วไม่ปวดหลังก็ถือว่าใช้ได้แล้วล่ะครับ เพราะ ส่วนใหญ่ จะเจอแต่ที่นอนแล้วปวดหลัง

บริเวณโรงแรมเค้าใหญ่ครับ มีห้องพักเต็มไปหมด ผมตั้งใจมาพักผ่อน และ ดูทะเล มีคนบอกว่าเส้น Horizontal หรือเส้นขอบฟ้า ทำให้เราสร้างสมาธิ และ ลดความเครียดได้ดี...สงสัยถ้าจะจริง เพราะมาถึงก็หายเครียดแล้ว....ความใหญ่โตของโรงแรมบวกกับตำแหน่งห้องพักเลยทำให้ผมไม่ค่อยเห็นทะเล ที่เป็นงั้นเพราะห้องผมมันอยู่อีกด้านของทะเลนะครับ ไปได้ตรง Garden view ก็เลยเห็นวิวตามชื่อ Zone นะครับ มองไปมุมไหน ก็เป็นต้นไม้ เขียวไปหมด จะมีมุมแปลกก็ตรงหลังห้องที่ประตูหลัง เปิดออกไปลงสระว่ายน้ำได้เลย

แต่ตอนเข้าๆ ตื่นมาแปรงฟันต้องตกใจเหมือนกัน เพราะเห็นเงาตัวเองในกระจก นึนกว่า ผีทะเล

 

พูดถึงสระน้ำ...ที่นี่มีตั้งสามสระครับ สวยๆ ทั้งนั้นใกล้ที่ไหนไปที่นั้น สระที่สองตอนสายๆ มีสอนแอโรบิกในน้ำด้วยครับ ..ใครเบื่อเต้นบนบก ก็ลองไปเต้นในน้ำดูครับ ไม่มีทางได้เห็นเหงื่อ...

เช้านี้เลยมาเดินสำรวจสถานที่ดูหน่อย เพิ่งรู้ว่าตรงสวนเค้าจัดไว้สวยจริงๆ ครับ คนสวนที่นี่บรรจงตัดเป็นรูปสิงห์สา ลาสัตว์ เป็นช้าง เป็นนก ถูกหลักกายวิภาคบ้าง ไม่ถูกบ้าง คงเจตนาให้เดาครับว่าตัดเป็นตัวอะไร เพราะฉะนั้นอย่างงนะครับ ถ้าเห็นผีเสื้อตัวใหญ่กว่าช้าง เน้นเป็นงานศิลป์ ละกัน ผมเลยได้ถ่ายรูปหมดไปเป็นโหล

ริมชายทะเลยามเช้ามีคนมาเดินรับแสงอาทิตย์กันบ้างเหมือนกันครับ ผมเองก็ต้องออกมาสังเคราะห์แสงเหมือนกัน แต่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์ออกมานะครับ ไม่ใช่ออกซิเจน วันนี้คนไม่มากอาจเป็นเพราะไม่ใช่วันหยุด ตอนเดินมาสังเกตว่าทางโรงแรมมีจัดรำ ไทชิซึ่งเป็นการออกลังกายแบบค่อยๆ เหมาะกับผู้สูงอายุครับ เห็นคุณลุงอายุหกสิบกว่าทำหกสูง อยู่ข้างคุณยายที่กำลังทำสะพานโค้งอยู่ ผมเองก็ต้องถอยแล้วครับ ไม่อยากไปเล่นด้วย กลัวทำสมาชิกเค้าเสีย self นะครับ.

 

ริมทะเลมีม้าให้บริการนะครับ ใครอยากสวมวิญญาณ Cowboy ขี่ม้าก็สามารถลองกันได้ เพราะชีวิตประจำวันเราขับรถ ขี่มอเตอร์ไซต์กันหมดแล้ว โอกาสขี่ช้างขี่ม้าคงน้อยลง ยกเว้นบางคน(เคยได้ยินสาวๆ คุยกันว่าวันนี้ขี่ม้า...อะไรประมาณนี้) ผมเลยทดลองขี่ดู อ้ะฮ้า..เข้าท่าดีเหมือนกัน สนนราคาครึ่งชั่วโมงก็ประมาณสามร้อย...ถ้าเทียบกับก๋วยเตี๋ยวก็แพงนะครับ แต่ถ้าคิดอีกมุมก็ไม่แพงนะครับ เพราะเห็นว่าราคาม้าตัวละตั้งสองแสนบาท (ตัวที่ผมขี่มาจาก Malaysia) อายุ 5 ปี...ชื่ออะไรไม่รู้เหมือนกัน... ลองถามมันแล้ว...มันไม่ยอมบอก...สงสัยจะอาย...หรือไม่ก็ฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง

เช้าๆอย่างนี้ต้องออกมาเดินเล่นตลาดครับ แต่ แฮะ แฮะ ประทานโทษ รับประทานมาสายไปหน่อย ตลาด YYYYYYYYYYYYYYY ว า ย (ออกเสียงยาวๆ ครับจะได้อารมณ์) ไปเรียบร้อย ก็บอกแล้วครับว่ามาพักร้อน...ทุกอย่างเลย สบายๆ ไม่รู้จะรีบตื่นไปทำแป๊ะทำไม...ไหนๆ ออกมาแล้วไม่ได้เที่ยวตลาด ก็หาจุดน่าสนใจ ถามคนแถวนั้นเค้าบอก point of interest ที่นี่ก็จะมี สวนสนน่ะครับ อยุ่ห่างจากที่นี่ไม่กี่โล ผมเลยขับรถไปเที่ยวสวนสนประดิพัทธ์ซะเลย ไม่กี่โลจริงๆ GPS ไม่ทันทำงานเลย แป๊บเดียวจริงๆ ก็ถึงทางเข้าซะแล้ว

 

ที่นี่เป็นที่เที่ยวที่หลายคนคงเคยมากันแล้วนะครับ เป็นที่ของทหาร ดังนั้นการตรวจคนเช้าออกก็จะเข้มงวดตั้งแต่ทางเข้า ตอนขับรถเข้าไป...ทหารที่เฝ้าประตูเห็นผม ก็กระโดดมายืนแถวตรง ทำความเคารพอย่างแข็งขัน สงสัยหน้าตาคงคล้ายผู้พัน พอเปิดกระจกถาม ว่าจะขอเข้าไป ทหารเลยรู้แกวว่าไม่ใช่ผู้พัน J ... แถมหันมาขายบัตร ช่วยค่าดูแล คันละ

 

ยี่สิบบาท...ผมให้ไปไม่ต้องทอน... (เพราะให้แบงค์ยี่สิบไป)

สวนสนยังคงเรียบร้อย อย่างที่ควรจะเป็นครับ บังกะโลริมทะเลจะดูเก่าไปบ้างตามกาลเวลา แต่แถวถัดมาด้านหลังก็ดูยังใหม่ๆ ใครมาเป็นครอบครัวหรือหมู่คณะมาพักที่นี่ก็น่าจะดีนะครับ เข้าใจว่าค่าใช้จ่ายไม่มาก เพราะเป็นของราชการเที่ยวไทย แถมประหยัดงบได้ดีเหมือนกัน...ผมเองก็คงจะมาเร็วๆนี้ เพรานี่ได้ข่าวว่า คณะท่องเที่ยวที่ทำงาน “Classic Tour” จะจัดมาเที่ยวที่นี่เหมือนกัน...คงมีเรื่องเล่าละเอียดตอนมาอีกทีครับ

กลับจากสวนสน มา Sofitel ก็มานอนอีกเช่นเคยครับ Charge Bat ครับ Battery ก้อนนี้ Charge เท่าไหร่ก็ไม่เต็ม (ใช้เท่าไหร่ก็ไม่หมด) หลับไปงีบใหญ่ ก็ตื่นขึ้นมากินอีกรอบ....ใช่ครับ กิน กินอีกแล้ว

 

ที่ Sofitel หัวหิน ตอนบ่ายๆ เค้ามีจัด Coffee time ไว้ตอนสามโมงเย็น ถึงหกโมงเย็น ครับ มีของทานอร่อยๆ เยอะแยะครับ เหมาะสำหรับคนผอมแห้งแรงน้อย อย่างผม มีกาแฟ ชา เค๊ก มีทั้งคิดเป็นชิ้น หรือ Buffet งานนี้ น้องหน่อยเค้าพกบัตร Gold Card มาทางเจ้าหน้าที่เลยแนะนำให้ ทานแบบ Buffet เพราะเหมาจ่าย แถมเหลือแค่ครึ่ง บ่ายนี้เลยกินกันกระจายครับ เพิ่มไขมัน และ คอเรสเตอรอล กันเต็มที่ ถือคติ...แม่สอนไว้ครับ ว่ากินก่อน...ลดทีหลัง ผมยึดเป็นคติประจำใจ จนน้ำหนักขึ้น พุงหลามแล้ว ยังไม่ได้ลดสักที

และเช่นเคยครับกิจกรรมยามเย็น เดินเที่ยวในโรงแรม เดินเท่าไหร่ก็ไม่หมดสักทีและก็ว่ายน้ำ วันนี้ว่ายเยอะกว่าเมื่อวานครับ ...เพราะกินไปเยอะ ว่ายไปสามร้อย กินไปพันกว่า แคลลอรี่...

โปรแกรมยามดึก...ว่าจะมาหา กีลาโต กินกันครับ เพราะแว๊บๆ เห็นร้านแถวโรงแรม พอมาถึงร้านติดป้าย ปิดปรับปรุงซะแล้ว ตอนแรกนึกโมโหจะจองตั๋วไปกินที่อิตาลีเลย แต่นึกขึ้นมาได้ว่าไม่มีตังส์ เลยต้องขับเลยไปที่ Hua Hin Market Village ตอนแรกดูใน GPS นึกว่าตลาดสด ที่ไหนได้ เป็นศูนย์การค้าใหญ่เบ้อเริ่ม

 

ที่นี่ทำซะใหญ่โตเลยครับชอบตรงด้านบนที่ทำเป็นเหมือนโดมที่สร้างไม่เสร็จ (เอ..หรือว่าไม่เสร็จจริงๆ)ในนี้มีสินค้า Brand name แทบจะทุกยี่ห้อ ร้าน ไอศกรีมมีทุกเจ้าเหมือนกัน ไอ้ความตั้งใจที่จะกิน กีลาโต้มีกันเปลียนไป เพราะเห็นขายอยู่ในตู้ แต่ก็เห็นแต่ตู้ไม่ยักจะเห็นคนขาย เลยต้องมากินไอศกรีม ชื่ออ่านยาก ที่ร้านอยู่ด้านหน้าสุด เห็นตั้งแต่เอารถมาจอด ชื่อมันเรียกยากครับ พยายามอ่านก็แล้ว ลองสะกดก็แล้ว ไม่รู้จะเรียกมันว่าอะไรดี เอ่อ...คือว่า...เสียงมันจะออกเสียงคล้ายๆว่า ... แห่กันแดก”.. อะไรประมาณนี้แหล่ะ ดูจากชื่อแล้ว ท่าทางจะขายดี เพราะ ตั้งชื่อเป็นเคล็ดให้แห่กันมาขนาดนี้ คนขายคงขายกันแทบไม่ทัน ยิ่งตอนไปจ่ายเงิน ยิ่ง confirm ว่าเจ้าของร้านนี้ต้องรวยแน่ๆ เพราะไอศกรีมถ้วยนึงกินก๋วยเตี๋ยวได้หลายมื้อทีเดียว

หัวหินด้านชายหาดยามค่ำคืนวันธรรมดา ค่อนข้างเงียบครับ คงจะเก็บแรงไว้คึกคักช่วง Weekend เหมือนผม ที่ต้องกลับไปนอนเอาแรงไว้เที่ยวต่อพรุ่งนี้ ในวันสุดท้าย

สุดท้ายก็ไม่ได้ดูทะเลกลางคืนอยู่ดี....

To be continued…

 

 

หมายเลขบันทึก: 136837เขียนเมื่อ 9 ตุลาคม 2007 23:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:55 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

แล้วเคยกินกาแฟ "กาลาโต้" ไหม ฮิฮิ (เป็นโจ๊คพม่าคลาสิคในไทยครับ)

บรรยายมาจนน่าอิจฉาวันหลังต้องไปดูแล้วล่ะค่ะ
  • ที่พักน่าสบายนะคะ
  • เสน่ห์ของหิวหินตรงที่มีม้าให้เช่าเดินตามชายหาดนี่ละคะ..อิอิ
  • ขออภัย...ฮ่าๆ หัวหินคะคุณ ดันพิมพ์ผิดซะได้

โจ๊ก "กาลาโต้" ยังไม่เคยฟังครับ อาจารย์ สงสัย ต้องให้อาจารย์ เล่าให้ฟังหน่อยแล้วล่ะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท