"คนส่วนใหญ่พอใจเรียกร้องความสมบูรณ์แบบจากคนอื่น โดยหลงลืมการเรียกร้องจากตนเอง มีอยู่เสมอที่เราคาดหวังให้คนนั้นเป็นอย่างนี้ คนนี้เป็นอย่างนั้น เข้มงวดกับใครต่อใครเขาไปทั่ว แต่สำหรับตัวเองแล้วกลับ ยืดหยุ่น ได้ทุกเรื่อง
เรามักลืมไปว่า โดยความจริงพื้นฐานมนุษย์เป็นผู้ที่ไม่มีใครสมบูรณ์แบบไปเสียทั้งหมด ทุกคนย่อมมีข้อดี ข้อด้อยในตนเองไม่มากก็น้อย คนฉลาดย่อมรู้จักเลือกที่จะมองข้ามข้อด้อยของคนอื่น นึกนิยมแต่ข้อดีของเขา ส่วนคนเขลาพอใจจะยกข้อด้อยของคนอื่นมาโจมตี แล้วทำทีมองไม่เห็นข้อดีของคนอื่น
หากเราตระหนักอย่างชัดเจนว่า ความไม่สมบูรณ์แบบ คือสัจธรรมพื้นฐานของมนุษย์ เราจะเรียกร้องจากคนอื่นน้อยลง เข้าใจตนเองและคนอื่นมากขึ้น มองโลกและชีวิตอย่างอ่อนโยนและผ่อนคลาย พร้อมเสมอที่จะให้อภัยในความไม่สมบูรณ์แบบของคนอื่นอย่างรู้เท่าทัน
จากนั้นผมก็เริ่มมามองตัวเอง ไม่ค่อยหงุดหงิดกับคนอื่นเท่าไรนัก(แต่ก้ยังมีบ้างละครับ)เพราะพอสังเกตุดูแล้ว เรื่องที่เราหงุดหงิดในแต่ละคนมันก็มักจะเป็นเรื่องซ้ำๆกัน เริ่มที่จะวางความหงุดหงิดนั้นลงไปได้บ้าง เปลี่ยนจากความหงุดหงิดมาเป็นการให้คำแน่ะนำ บ้างครั้งหากคนนั้นๆผิดซ้ำๆออกแนวจะขำๆด้วยซ้ำ แต่ถ้าหากเป็นเรื่องสำคัญเราก็ใช้แนวทาง put the man on the right job แทนจะได้ไม่ต้องมีปัญหามากวนใจอีก อยากให้ทุกคนมองอะไรให้ถูกต้องอย่างอ่อนโยน เห็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์แต่ละวัน รู้สึกว่าคนเราใจร้อนขึ้นไม่ค่อยอภัยให้กัน ในความไม่สมบูรณ์ของคนคนนั้นครับ
เพิ่มเวลาและสถานที่ด้วยน่าจะดีนะครับ
put the right man on the right job at the right time in the right place
ขอบคุณครับ
โลกวุ่นวาย และน่าอยู่น้อยลงทุกวันก็เพราะ .. การไม่รู้จัก ..ให้อภัยในความไม่สมบูรณ์แบบของคนอื่น .. นี่แหละครับ.