สอง หมอ สอง มุม
เราไปถึงชั้น 3 โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เวลาประมาณ 08.10 น. ผู้คนยังบางตา ดิฉันเดินตรงไปที่โต๊ะลงทะเบียน ซึ่งมีป้ายบอกจังหวัด (ต้นสังกัด) ไว้อย่างสะดวก ดิฉันและพี่สุ ลงทะเบียนเสร็จ ได้รับป้ายห้อยคอ กระเป๋าใบใหญ่มากกกก (ไม่เคยเจอใบใหญ่ขนาดนี้ ตั้งแต่เข้าอบรมสัมมนามา) มีให้เลือกหลายสี ดิฉันและพี่สุใจตรงกัน เลือกสีดำ เมื่อเปิดกระเป๋าดูก็พบว่ามีหนังสือ เอกสาร แต่ที่สะดุดตาเห็นจะเป็น ข้าวโพดคั่ว 1 ถุง ธูปเทียน 1 ชุด เจ้าหน้าที่แจ้งว่าสำหรับให้อาหารปลาในสระใหญ่ และสักการะอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช บริเวณหน้าโรงพยาบาล ฯ ของ 2 สิ่งที่ว่านี้ แม้จะไม่ราคาค่างวดอะไรมากนัก แต่คุณค่าของความตั้งใจ ความคิดที่ลึกซึ้ง มองเห็นรายละเอียด ที่จะพยายามให้บริการที่พึงพอใจผู้เข้าร่วมให้มากที่สุด สำหรับดิฉันพึงพอใจมากค่ะ ขอบอก
แล้วก็ถึงคิว ปรมาจารย์ด้าน KM อย่าง ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช ผอ.สคส. ที่ดิฉันได้เคยฟังท่านบรรยาย 2-3 ครั้งแล้ว ก็ไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่ายซักที ดิฉันชอบวิธีนำก่อนบรรยายว่า มีข้อจำกัดนะ เช่น “เป็นการตีความโดยผู้บรรยาย ไม่รับรองความถูกต้อง” นั่นหมายถึงความเป็นคนใจกว้าง ไม่ได้โอ้อวดว่ามีความรู้แน่นตัว คนฟังชอบที่เลือกเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ เป็นผู้ใหญ่ที่น่ารักมาก
จากนั้นต่อด้วย นพ.ภักดี สืบนุการณ์ ผอ.รพ.ด่านซ้าย จ.เลย คนนี้ดิฉันไม่เคยรู้จักมาก่อน หลังพักเบรค เดินเข้ามาให้ห้อง ก็เห็นคุณหมอหนุ่มคนนี้ก้ม ๆ เงย ๆ กับคอมฯโน๊ตบุ๊ค เพื่อเตรียมตัวบรรยาย ลีลาการพูดจา เรียกว่าไม่ธรรมดา ยิ่งเล่าก็ยิ่งน่าติดตาม คงต้องบอกว่าเป็น การเล่าแบบเร้าพลัง จะดีกว่า เนื้อหาสาระ ประสบการณ์ ความมีชีวิตในภารกิจหมอกับการศึกษาชุมชน เรียกว่าเป็นเนื้อเดียวกัน จนแยกกันไม่ออก เป็นหมอพันธุ์ใหม่ที่หัวใจติดดิน ฟังเรื่องเล่าจากคุณหมอแล้ว ทำให้นึกถึงภาพยนตร์ที่สร้างแรงบันดาลใจเรื่อง “ Path Adams” ที่ โรบิลส์ วิลเลี่ยม สวมบทบาทเป็นนักศึกษาแพทย์ที่คิดนอกกรอบ ฝึกรักษาคนไข้ด้วยหัวใจเป็นมนุษย์ ไม่หยุดตัวเองไว้แค่ความเชื่อเดิม ๆ ที่รักษาแต่โรค ไม่ได้รักษา “คน” หากแต่เข้าไปสัมผัสคนไข้ด้วยหัวใจของมนุษย์คนหนึ่งที่มีความเชื่อและศรัทธาในคุณค่าของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
ก่อนปิดเบรกช่วงเช้า พิธีกรประกาศว่า “ลำดับต่อไปเป็นการมอบรางวัล สำหรับผู้ที่ลงทะเบียน 2 คนแรกของงานนี้.....ได้แก่ คุณวิมลพรรณ กุลัตถ์นาม และคุณสุภาพร ลาภจิตร จาก กศน. สุรินทร์ ขอเชิญรับรางวัลจาก ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช ได้เลยค่ะ” โอ! พระเจ้าจอร์จ ช่างยอดมาก ดิฉันตื่นเต้น ดีใจ สุด ๆ เดินออกไปขายังสั่นอยู่เลย รางวัลที่ได้รับเป็นเสื้อยืดสีเท่า ปกสีกรมท่า ปักที่หน้าอก “NUKM” (เป็นเสื้อทีมของคณะผู้จัดงานครั้งนี้) กับหนังสือที่รวบรวม “KM วันละคำ” ของ คุณหมอวิจารณ์ ที่เขียนลงบล็อก ซึ่งได้รวบรวมไว้จนถึงวันที่ 26 กย. 50 สุดยอดจริง ๆ เป็นรางวัลที่มีค่าทางจิตใจมาก ขอบพระคุณ น้องตูน คนสวยด้วยนะคะ ที่ประสานงานให้เกิดเหตุการณ์นี้ในชีวิตพี่ ขอบคุณหลายค่ะ ( พยายามเอาภาพรับรางวัลขึ้น แต่ทำไมมีแต่กากบาท ลองหลายครั้งแล้ว ก็จนปัญญา ในไฟล์อัลบั้มก็มี แต่เอามาวางกลับไม่มี ฮือ..ฮือ.... ใครรู้ช่วยบอกที)
อ่านไปก็แอบอิจฉาคนมีโอกาสดีไปด้วย...ขอบคุณมากครับ ที่นำประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟัง ....เล่าสนุกซะด้วย....
ท่านรองรัฐเขตฯคะ
สวัสดีค่ะครูอ๊อด
เล่ารายละเอียดจนเห็นภาพเลยค่ะ......ครูหญ้าบัวก็นับว่าโชคดีที่ตัดสินใจมาร่วมงานนี้....ได้รับสิ่งดีๆมากมายทั้งความรู้และทั้งมิตรภาพจากกัลยาณมิตร
นึกออกแล้วค่ะ....ติดตามบันทึกของน้องตูน...."มาแล้วค่ะผู้สมัคร...... " ที่แท้ก็ ครูอ๊อดนี่เอง... ถือว่าตั้งใจมากๆเลยค่ะ
แล้วคุยกันใหม่ค่ะ
สวัสดีค่ะคุณครูอ๊อด
เล่าได้เหมือนราณีเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ พระเจ้าจอร์จ อิ อิ ขาสั่นอย่างนี้เขาเรียกว่าสั่นสู้ค่ะ หุ หุ ขอบคุณนะค่ะ ยินดีด้วยกับของรางวัลค่ะ อย่างนี้เขาเรียกว่าสฃใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อย