คุณธรรมจริยธรรม(๑๑)


การตัดสินใจบนฐานข้อมูลที่ถูกต้องและมีเวลาเพียงพอ

คุณธรรมจริยธรรม(๑๑)

บัณฑูร  ทองตัน

 

            ในการทำงานก็ดีหรือในชีวิตส่วนตัวของเราก็ดี เราต้องผ่านการตัดสินใจมาจนนับไม่ถ้วน และเราก็คงบอกได้ว่าคงไม่ได้ตัดสินใจถูกทุกครั้งหรอก เพราะการคิดตัดสินใจในแต่ละครั้งจะมีสภาวะต่างๆไม่เหมือนกัน บางครั้งเราตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้อง มีเวลาเพียงพอที่จะใช้สติปัญญาใคร่ครวญไตร่ตรองเป็นอย่างดีแล้วจึงตัดสินใจ ซึ่งมักจะถูกต้อง แต่บางครั้งเราต้องตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์และไม่มีเวลาคิดไตร่ตรองเพียงพอ การตัดสินใจก็มักจะผิดพลาด แต่ก็มีบางครั้งที่เราตัดสินใจไปตามความรู้สึก ตัดสินใจไปตามกระแส โดยไม่ได้ตัดสินจากข้อมูลที่ถูกต้อง เราลองมาดูเรื่องนี้ แล้วลองตัดสินใจกันดูว่า ท่านตัดสินใจถูกหรือไม่ อ้อ เรื่องนี้มาจากอินเตอร์เนต ที่มีการส่งต่อกันมาครับ ไม่รู้ชื่อผู้เขียนครับ

           มีเด็กกลุ่มหนึ่งเล่นกันใกล้รางรถไฟ 2 ราง  รางหนึ่งอยู่ในระหว่างการใช้งานในขณะที่อีกรางหนึ่งไม่ได้ใช้งานแล้ว มีเพียงเด็กคนเดียวเท่านั้นที่เล่นบนรางที่ไม่ได้ใช้งาน ส่วนเด็กที่เหลือนั่งเล่นอยู่บนรางที่ยังใช้งานอยู่ เมื่อรถไฟแล่นมา

            คุณอยู่ใกล้ๆที่สับรางรถไฟ คุณสามารถเปลี่ยนทางรถไฟไปยังรางที่ไม่ได้ใช้งานเพื่อช่วยชีวิตเด็กส่วนใหญ่แต่นั่นหมายถึงการเสียสละชีวิตของเด็กคนที่เล่นอยู่บนรางที่ไม่ได้ใช้งาน หรือคุณเลือกจะปล่อยให้รถไฟวิ่งทางเดิม? 

             ลองหยุดคิดสักนิด มีทางเลือกใดที่เราสามารถตัดสินใจได้คุณต้องทำการตัดสินใจก่อนที่จะอ่านต่อไปรถไฟไม่สามารถหยุดรอให้คุณไตร่ตรองได้ คนส่วนมากอาจเลือกที่จะเปลี่ยนทางรถไฟ และยอมสละชีวิตของเด็กคนนั้นอผมคิดว่า คุณก็อาจจะคิดเช่นเดียวกันแน่นอน ตอนแรกผมก็คิดเช่นนี้เพราะการช่วยชีวิตเด็กส่วนมากด้วยการเสียสละชีวิตเด็กหนึ่งคนนั้นดูสมเหตุผลทั้งทางศีลธรรมและความรู้สึกแต่คุณเคยคิดบ้างไหมว่าเด็กที่เลือกเล่นบนรางที่ไม่ได้ใช้งานแล้วที่จริงเขาได้ตัดสินใจถูกต้อง ที่จะเล่นในสถานที่ๆปลอดภัยแล้วต่างหาก แต่ทว่า เขากลับต้องเสียสละชีวิตให้กับเพื่อนที่ไม่ใส่ใจและเลือกที่จะเล่นในที่อันตราย

            สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นรอบตัวเราทุกวัน ในสถานที่ทำงานย่านชุมชน การเมืองโดยเฉพาะในสังคมประชาธิปไตยคนกลุ่มน้อยมักจะถูกเสียสละให้กับผลประโยชน์ของคนหมู่มากแม้ว่าคนกลุ่มน้อยจะฉลาด มองการณ์ไกล และคนหมู่มากจะโง่เง่า ไม่ใส่ใจก็ตามเด็กคนที่เลือกที่จะไม่เล่นบนรางที่อยู่ในการใช้งานตามเพื่อนๆของเขาและคงไม่มีใครเสียน้ำตาให้หากเขาต้องสละชีวิตก็ตามเพื่อนที่ส่งต่อเรื่องนี้มาบอกว่า เขาจะไม่พยายามเปลี่ยนเส้นทางรถไฟเพราะเขาเชื่อว่าเด็กที่เล่นอยู่บนรางที่อยู่ในการใช้งานย่อมรู้ดีว่ารางนั้นยังอยู่ในระหว่างการใช้งาน และพวกเขาควรจะหลบออกมาเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงหวูดรถไฟ ถ้าทางรถไฟถูกเปลี่ยน เด็กหนึ่งคนนั้นต้องตายอย่างแน่นอนเพราะเขาไม่เคยคิดว่ารถไฟจะเปลี่ยนมาใช้เส้นทางนั้น นอกจากนั้น รางที่ไม่ได้ถูกใช้งานอาจเป็นเพราะรางนั้นไม่ปลอดภัยถ้ารถไฟถูกเปลี่ยนเส้นทางมาที่รางนี้ เราทำให้ชีวิตของผู้โดยสารทั้งหมดตกอยู่ในอันตรายในขณะที่คุณพยายามช่วยชีวิตเด็กจำนวนหนึ่งโดยการสละชีวิตเด็กหนึ่งคนอาจกลายเป็นการสังเวยชีวิตผู้คนนับร้อยก็เป็นได้เรารู้ว่าชีวิตเต็มไปด้วยการตัดสินใจอันยากลำบาก บางครั้งเราอาจลืมไปว่าการตัดสินใจอันรวดเร็วใช่จะเป็นสิ่งที่ถูกต้องเสมอไป

            จำไว้ว่า สิ่งที่ถูกต้องไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่นิยมปฎิบัติ และสิ่งที่เป็นที่นิยม ไม่จำเป็นต้องถูกต้องเสมอไปทุกๆคนสามารถทำสิ่งผิดพลาดได้และนั่นคือเหตุผลที่เขาใส่ยางลบไว้ที่ปลายของดินสอ

            เป็นไงครับ คุณตอบถูกไหม ทุกคนสามารถทำสิ่งผิดพลาดได้ แต่ความผิดพลาดนั้นต้องนำมาเป็นบทเรียนและแก้ไขให้รอบคอบในการตัดสินใจหรือรอบคอบในการกระทำ ไม่ใช่ทำงานผิดซ้ำซาก แล้วจะแก้ตัวว่าทุกคนสามารถทำสิ่งผิดพลาดได้ ก็ไม่ถูกอย่าเป็นเหมือนกับที่เขาบอกว่า คนดีชอบแก้ไข คนจัญไรชอบแก้ตัว

            ลองดูอีกเรื่องก็ได้ครับ ลองดูซิว่าคุณคิดอย่างไร

            ในดึกคืนหนึ่งที่ฝนตกฟ้าคะนองขนาดหนักมากและคุณกำลังขับรถกลับบ้าน ขณะที่ขับผ่านป้ายรถเมล์ป้ายหนึ่ง คุณพบคนสามคนกำลังรอให้ฝนหยุดเพราะดึกเกินกว่าจะมีรถเมล์วิ่งแล้วคนสามคนนั้นคือ
1. หญิงชราที่กำลังป่วยและต้องการการรักษาด่วน มิฉะนั้นเธออาจจะตายได้

2. หมอซึ่งครั้งหนึ่งเคยช่วยชีวิตคุณไว้

3. ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นแฟนของคุณและคุณรักเขามากขนาดจะแต่งงานกับเขาให้ได้

คำถามมีอยู่ว่า รถคุณเป็นแบบนั่งได้แค่สองคน ดังนั้นคุณจะรับคนไปด้วยได้อีกแค่คนเดียว คุณจะรับใครไปด้วย และให้เหตุผลที่ตัดสินใจอย่างนั้น

            พวกเราก็ลองคิดดูสิว่าถ้าเราเป็นคนตอบคำถามข้อนี้ เราจะตอบว่ายังไง แล้วเทียบกับเหตุผลข้างล่าง ลองดูเหตุผลของคำตอบแต่ละแบบแล้วเทียบกับเหตุผลของคุณ เนื่องจากแต่ละข้อก็มีเหตุผลที่เหมาะสมในตัวของมันเอง

            เหตุผลข้างล่างนี้เป็นเหตุผลของคนเกือบทุกคน
1. ถ้าคุณตอบว่ารับคนแก่ เหตุผลก็เพราะเขากำลังจะตาย ถ้าคุณรับไปก็เท่ากับช่วยชีวิตคนได้
2. ถ้าคุณตอบว่ารับหมอ เหตุผลก็เพราะเขามีบุณคุณกับคุณ และนี่คือเวลาที่จะตอบแทนได้บางส่วน
3. ถ้าคุณตอบว่ารับแฟนคุณ เหตุผลก็เพราะ เขาเป็นคนที่คุณรัก

...ให้คิดอีกที
            ถ้าเป็นผม ผมจะตอบว่า "ผมจะให้กุญแจรถกับหมอ ให้หมอพาคนแก่ไปโรงพยาบาล และผมก็จะอยู่ที่ป้ายรถเมล์นั้น กับคนที่ผมรัก"

            เป็นไงครับ คำตอบนี้ดีไหม มีใครตอบแบบนี้บ้างไหมครับ

ข้อคิดของเรื่องนี้คือ
คนเรามักจะยึดติดและไม่ยอมปล่อยผลประโยชน์ตรงหน้า (กุญแจรถ และการกลับบ้าน) ทำให้เรามองอะไร ด้วยมุมมองที่แคบลง จะเห็นว่าการมอบกุญแจรถให้หมอ นอกจากจะได้ตอบแทนบุญคุณ (หมอก็คงไม่ยึดรถไปเป็นของตัวเองหรอก ภายหลังก็เอามาคืน) เรายังได้ช่วยชีวิตหญิงชรา แถมได้อยู่กับคนที่เรารัก แบบสองต่อสอง เรียกได้ว่าเสียไปแค่ไม่ได้กลับบ้านในตอนนั้น แต่เราบรรลุวัตถุประสงค์ใหญ่อีกหลายอย่างได้

           คุณล่ะ คิดว่าคุณมีมุมมองที่กว้างหรือแคบและยึดติดกับผลประโยชน์ต่าง ๆ แค่ไหน 

           ตอนแรกผมตั้งใจเขียนบทความชุดนี้เผยแพร่ให้ลูกน้องได้อ่านในโครงการราชการใสสะอาด ให้ลูกน้องยึดมั่นในคุณธรรมจริยธรรมในการทำงานและการครองชีวิต แต่มีคนเห็นว่าดีขอไปลงพิมพ์จึงอนุญาต  เพราะถือว่าผมทำความดีถวายในหลวงในนามสำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต และถือว่าผมทำความดีเป็นของขวัญให้แม่ที่ปีนี้ได้รับพระราชทานรางวัลแม่ดีเด่นแห่งชาติด้วย ครับ (บทความชุดนี้เขียนเมื่อปี ๒๕๔๙)

หมายเลขบันทึก: 135205เขียนเมื่อ 5 ตุลาคม 2007 12:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:49 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
  • สวัสดีครับท่านบัณฑูร
  • บทความของท่านให้ข้อคิดที่ดีมากครับ
  • ทำให้เราได้ย้อนมองและสำรวจตัวของเราเอง
  • ขอบคุณครับ
  • สวัสดีครับคุณ บัวชูฝัก
  • ขอบคุณสำหรับคำชม
  • ดีใจที่เป็นประโยชน์กับผู้อื่นครับ
  • และขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมทักทายกันครับ

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะ ท่านบัณฑูร

  • บันทึกนี้ดีมากๆค่ะ...
  • ดิฉันเห็นคนที่ใช้เสียงส่วนใหญ่ตัดสินปัญหาบางอย่างแล้วเศร้าใจอย่างที่ท่านยกตัวอย่างค่ะเอาเสียงคน(ชั่ว)ส่วนใหญ่  ลากเสียงคน(ดี)ส่วนน้อย  ทำหน่วยงานย่อยยับมาให้เห็นคาตาค่ะ..เฮ้อ...เศร้าจริงๆเพราะผู้บริหารไม่เข้าท่า....
  • ขออนุญาตที่จะนำตัวอย่างดีๆนี้ไปปลูกฝังกลุ่มคน(น้องๆ)..ที่กำลังจะรู้ดีรู้ชั่วค่ะ....
  • ขอบพระคุณท่านค่ะ

 

สวัสดีครับคุณ P

ยินดีให้นำข้อคิดดีๆไปใช้เป็นประโยชน์แก่สังคม ครับ

ป.ล.ผมแวะเข้าไปอ่านเรื่องตลกของคุณกฤษณา เมื่อคืนลุยอ่านเกือบทั้งหมดเลยสนุกมาก เรื่องโกนขน ไม่ทราบเคยฟังเรื่อง "แหวะๆอากิ๊แหนะ" ไหมครับ ถ้ายังไม่เคยจะเล่าให้ฟังรับรอง ก๊าก อิอิ

  • ท่านขา....เคยค่ะเคย...
  • มีน้องที่ทำงานคนนึงพูดจาออกภาษาไทยปนลาวและชอบเล่าเรื่องสนุกๆแบบนี้แหละค่ะ....แต่ถ้าท่านมีเรื่องอื่นๆก็อยากฟังค่ะ..
  • หากท่านกลัวภาพพจน์ของท่านจะดูไม่ดี  ก็มาอาบน้ำอาบท่า  นุ่งผ้าขาวม้า  ปะแป้งเปิดพุงแล้วชวนพรรคพวกปูเสื่อเอามาเล่าในบันทึกตลกของดิฉันได้ค่ะ....บรรดาเพื่อนๆนักวิชาการที่เครียดกับงานแวะมาฮาคลายเครียดบ่อยๆค่ะ...
  • ขอบพระคุณค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท