การดำเนินกิจกรรมใด ๆ ก็ตามในสำนักงาน ,ในครอบครัว ,ในชีวิตประจำวัน ล้วนต้องคำนึงใน เรื่อง 4 เรื่องคือ การให้ความสำคัญ และความเร่งด่วนในการดำเนินกิจกรรม เมื่อเราต้องเริ่มทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง มักเป็น 4 รูปแบบคือ
1. มีความสำคัญ และเร่งด่วน มีความสุขหรือเปล่า?
2.มีความสำคัญ แต่ไม่เร่งด่วน มีความสุขหรือเปล่า?
3.ไม่มีความสำคัญ และเร่งด่วน มีความสุขหรือเปล่า?
4. ไม่มีความสำคัญ และไม่เร่งด่วน ทำแล้วมีความสุขหรือเปล่า?
ถ้าคิดได้ว่า "ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นสิ่งที่มีความหมายกับชีวิตเรา " เพราะฉะนั้นการขับเคลื่อนก็คือ การทำทันที แต่ต้องเป็นสิ่งที่ทำความเข้าใจกันก่อนว่า แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง นั้น นำไปสู่หนทางรอดของชีวิต (ไม่เป็นหนี้สิน, หลุดพ้นจากวงจรทุน, ออกจากการบริโภคนิยม ฯลฯ) พอเพียงต่อความจำเป็นของชีวิตเรา (ต้องคำนึงถึงเรื่องปัจจัย สี่ และสิ่งจำเป็นในยุคปัจจุบันด้วย) ยั่งยืนในการดำเนินกิจกรรมของเรา (ไม่เป็นไฟไหม้ฟาง, งบประมาณหมดก็ไม่ทำ,ต้องเป็นหัวใจในการทำงานทุกเรื่องและทำตลอดไป) เหล่านี้ เป็นต้น ผมจึงเลือกเอา ข้อ 2 คือ แนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ต้องเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิตผม และต้องทำด้วยความเพียร และต่อเนื่อง (ไม่เร่งด่วน)
ยิ่งถ้าได้คิดรอบด้าน มีแผนชีวิตของตนเอง เรื่องจะดำเนินตัว แบบปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เราคงต้องมีการเตือนตัวเองอยู่เสมอ...ว่าจะไม่เสพ ไม่บริโภค ด้วยความประมาท เหมือนกับสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านทรงให้ภิกษุทั้งหลาย ท่องจำอยู่ทุกวัน เรื่องพิจารณาปัจจัย สี่ มีบิณฑบาตร ,จีวร,อาสนะ และคิลานะปัจจัย ว่าเราไม่ได้ฉันท์ หรืออุปโภค ด้วยความกำหนัด หรือด้วยกิเลส ด้วยตัณหา เป็นต้น
เนื่องจากเร่งด่วนไปนิด......เรื่องของจิต เรื่องของสำนึกจึงไม่ได้เขียนบันทึกให้ได้ทราบ หลังจากที่แยกแยะออกมาว่า สิ่งใดควรทำ สิ่งไม่ควรทำ (ความสำคัญ)นั้นเอง .......
เมื่อมีความสำคัญแล้ว จะเกิดเป็นความหมายของชีวิตที่ได้ฝึกฝนปฏิบัติ ก็ต้องมีสำนึกในเรื่องนั้น เช่น เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ก็ต้องคิดว่า เราต้องเป็นตัวอย่างไปด้วย ไม่ใช่ปากพูดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง แต่ตัวเองยังกินหูฉลามกันอยู่ หรือไม่ก็สนับสนุนเศรษฐกิจพอเพียง แต่ยังขับรถหรูราคาแพง หรือบางท่านก็มีให้ขับหลายคันเป็นต้น.........นอกเหนือจากที่คิด พูด และทำ เป็นแนวทางให้กับคนอื่น ๆ แล้ว ดั่งเช่น ในหลวงท่านก็พยายามที่จะทำเป็นตัวอย่าง อยู่เสมอ ๆ ครับ