ตลาดเก่าบ้านเก้าห้อง
ตอนที่ 3 สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
ของจังหวัดสุพรรณบุรี
ตำนานอารยะธรรม
วิถีชุมชนเก่าแก่ ริมน้ำท่าจีน
วันนี้ วันที่ 30 กันยายน 2550 ผมวางโปรแกรมเอาไว้ว่า จะไปศึกษาสภาพตลาดเก่าบ้านเก้าห้อง อำเภอบางปลาม้า ความตั้งใจนี้มีมานานแล้ว แต่ผมหาโอกาสไม่ได้สักที วันนี้พอไปส่งลูกสาวขึ้นรถที่ท่ารถขนส่งสุพรรณฯ เสร็จเรียบร้อย ผมและแม่บ้านขับรถไปยังตลาดเก้าห้องทันที (ธุระอื่นค่อยว่ากัน) มิเช่นนั้นผมคงตอบคำถามผู้ที่ได้เจอะเจอไม่ได้สักทีว่า ตลาดเก่าของจังหวัดสุพรรณบุรี ในขณะนี้มีที่ไหนบ้างและเป็นอย่างไร เมื่อกลางเดือนที่แล้วมีผู้ถามผมหลายท่านในห้องประชุมแห่งหนึ่งเรื่องตลาดเก่าที่ชาวขังหวัดสุพรรณบุรีได้ร่วมกันอนุรักษ์ และมีการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ผมตอบคำถามได้อย่างไม่มั่นใจ เพราะผมยังไม่เคยไปเห็นกับตา ส่วนที่ตลาดเก่า 100 ปี สามชุก ผมไปบ่อยทั้งไปราชการ ไปทำธุระ และนำคณะเพลงพื้นบ้านไปแสดง หลายครั้ง (3 ครั้ง) ส่วนที่ตลาดเก่าบ้านเจ้าคุณฯ อำเภอศรีประจันต์ ก็ไปมาหลายครั้ง และได้ลงเอาไว้เป็นเรื่องเล่าในเว็บ gotoknow.org บ้างแล้ว
ดังนั้นในวันนี้ ผมขอเล่าเรื่องราวความน่าสนใจและเป็นความตื่นตาตื่นใจที่สุดอีกครั้งหนึ่ง ที่ผมและแม่บ้านได้ไปประสบมาด้วยตนเอง ทั้งที่ผมเป็นคนสุพรรณฯ เกิดมาจนอายุจะ 60 ปี (57 ปี) ผมยังเที่ยวสุพรรณฯไม่ทั่วเลย ถ้าผมพลาดไม่ได้ไปสัมผัสตลาดเก่าบ้านเก้าห้องสักครั้ง ผมคงพลาดในสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวอย่างมิน่าให้อภัย
การเดินทางไปตลาดเก้าห้องไปได้หลายทาง ท่านที่มาจากกรุงเทพฯ เลี้ยวซ้ายไปตั้งหลักที่อำเภอบางปลาม้า มีเส้นทางตรงไปตลาดเก้าห้องเพียง 3 กิโลเมตร ส่วนท่านที่มาจากตลาดเก่าสามชุกและตลาดเก่าศรีประจันต์ ท่านก็มาตั้งหลักที่สะพานอาชาสีหมอก ฝั่งตรงข้ามกับโรงพยา บาลเจ้าพระยายมราช (ข้ามสะพานไปก่อน) ลงสะพานแล้วเลี้ยวขวาวกกลับ (U-Turn) ลอดใต้สะพานตรงไปตามลำน้ำ จะมีป้ายและหลักกิโลเมตรบอกเส้นทางไปเก้าห้อง ประมาณ 9-10 กิโลเมตร ผมใช้เส้นทางนี้ทั้งไปและกลับ ก็สะดวกสบายดีมากครับ
ผมไปถึงตลาดเก่าบ้านเก้าห้องเวลาประมาณ 10.30 น. (กว่าเล็กน้อย) ผมขับรถผ่านสำนักงานเทศบาลตำบลบางปลาม้า และสถานีอนามัยไปจอดรถที่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวแม่ต้น (มีที่จอดรถได้ริมถนน) แล้วเดินดูบรรยากาศบริเวณกว้าง ๆ ไปที่สนามเด็กเล่นตรงบริเวณลานจอดรถ มีที่กว้างมากครับ ผมเดินตรงไปยังเป้าหมายสำคัญ จุดเด่นของตลาดเก่าบ้านเก้าห้อง คือ “หอดูโจร”
ผมเดินผ่านพิพิธภัณฑ์ตลาดเก้าห้อง ก่อนที่จะถึงหอดูโจร เป็นห้องแถวเก่า ๆ ปรับปรุงตกแต่งแบบเดิม ๆ จัดแสดงผลงานที่มีคุณค่าต่อวัฒนธรรมไทยและวิถีชีวิตในอดีตได้อย่างเหมาะสม ทั้งผลงานหัตถกรรมมากมาย ภาพวาดสีน้ำมัน วิทยุ โทรทัศน์ พัดลม เครื่องใช้ไฟฟ้าโบราณ และตู้ไปรษณีย์สีแดงตั้งอยู่ตรงส่วนใน ส่วนตรงกลางบ้าน มีตู้กระจกเล็กๆ แสดงสมุดปฏิทินเก่าๆ และธนบัตรแบบต่าง ๆ และที่ชั้นบน (ชั้นลอย) มีห้องนอน และมีอีกหลายอย่าง น่าดูมาก คล้ายกับว่า นี่คือบ้านหลังหนึ่งที่มีสิ่งของล้ำค่า สะท้อนชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชนเก้าห้องแห่งนี้ คู่ควรแก่การศึกษาอย่างยิ่ง พิพิธภัณฑ์และตลาดบ้านเก่าเก้าห้อง เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2548
นับว่าเป็นสถานที่จัดแสดงผลงานที่เป็นต้นแบบแห่งการนำเสนอความรู้ที่ไม่ต้องการความหรูหรา เลอเลิศในสิ่งปลูกสร้าง แต่เน้นที่เนื้อหา ห้องแถวเล็ก ๆ เพียง 1 ห้องก็ยังสามารถให้ความรู้แก่ผู้มาเยือน ได้รับรู้เรื่องราวในอดีตได้อย่างคุ้มค่ายิ่ง และที่สำคัญคือ พิพิธภัณฑ์ตลาดเก้าห้องเกิดจากการรวมพลังของลูกหลานชาวเก้าห้องโดยแท้ จนเกิดเป็น “ร้อยดวงใจเป็นหนึ่ง คิดถึงเก้าห้อง” เมื่อปี 2548
ลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่งของตลาดเก้าห้องคือ เป็นห้องแถวไม้ มีหลังคาคลุมระหว่างทางเดิน ผมเดินผ่านร้านค้าซึ่งเป็นคนท้องที่ที่อาศัยอยู่ในตลาดเก้าห้องมานาน เป็นห้องแถวที่เป็นทั้งทีทำมาหากิน และเป็นที่พักเรือนไม้เก่าแก่ เกือบ 100 ปี ผมเดินตรงไปยังหอดูโจร และบันทึกภาพหอดูโจรเอามาฝากด้วย ผมถามพ่อค้า แม่ค้าในตลาดเก่าว่า “เราสามารถขึ้นไปบนดาดฟ้าที่หอดูโจรได้ไหม” ได้รับคำตอบว่า “ขึ้นได้ ครับ”
เท่านั้นแหละ ผมกับแม่บ้านตรงไปที่ห้องชั้นล่างของหอดูโจร มีเสียงคนพูดกัน น่าจะมากกว่า 6 คน ได้ยินมาจากข้างบน แสดงว่ามีคนขึ้นไปสัมผัสบรรยากาศเก่า ๆ นี้ก่อนผมเสียแล้ว ผมขึ้นบันไดเหล็กชั้นละ 7 ขั้น (บันไดตั้งตรง) ขึ้นยากหน่อย และผมต้องขึ้นอย่างช้า ๆ ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็ขึ้นไปถึงชั้นที่ 4 ในแต่ละชั้นจะมีรูเจาะเอาไว้ที่ผนังด้านข้างข้างละ 2 รู (เอาไว้ส่องโจร) ผมใช้ความพยายามอีกนิดหนึ่งเพื่อขึ้นไปบนดาดฟ้า (ชั้นที่ 5) ขึ้นยากหน่อย และก็ขึ้นไปถึงชั้นบนสุดของหอดูโจรได้อย่างปลอดภัย
ผมมองเห็นบรรยากาศทั่ว ๆ ไปของตลาดเก่าบ้านเก้าห้องได้อย่างทั่วถึง มองได้รอบด้าน และบันทึกความทรงจำเอาไว้ด้วยกล้องดิจิตอล ผมนำภาพสวย ๆ บรรยากาศเก่า ๆ เอามาฝากท่านด้วยนะ แหมอิ่มเอมใจเหลือเกิน เรือนไม้โบราณที่สร้างมานานกว่า 85 ปี ได้ถูกบันทึกเอาไว้บอกลูกหลานรุ่นหลังให้ได้คิดถึงเรื่องราวที่เป็นตำนาน ตลาดกลางการค้า และแหล่งผลิตที่สร้างฐานะให้คนทำกินได้มีชีวิตที่ดี โดยอาชีพสุจริตมานาน แม้ว่ายังเหลือให้เห็นเพียงตัวอาคารแต่ก็ยังบ่งบอกได้ถึงความเป็นอยู่ของคนในชุมชนนี้ ย้อนชีวิตในอดีตให้รับรู้ได้อย่างประทับใจ
ผมเดินลงบันไดเหล็กจากชั้นดาดฟ้าของหอดูโจรลงมาทีละชั้นอย่างช้า ๆ ขาลงดูเหมือน ว่าจะยากกว่าตอนขาขึ้นหน่อย จนลงมาถึงพื้นชั้นล่าง (ยังเหนื่อยอยู่เลยกับการขึ้น-ลงบันได) ผมเดินไปสำรวจรอบ ๆ บริเวณตลาดเก้าห้อง พ่อค้า แม่ค้าที่นำของมาจำหน่ายเป็นคนในท้องที่ทั้งหมด บ้านเขาอยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว วันนี้ดูจะเปิดร้านจำหน่ายกันมากพอสมควร ได้สอบถาม ผู้ขายบอกว่า “สาย ๆ อีกหน่อยจะมีร้านค้านำสินค้า ของใช้ ของที่ระลึกมาวางจำหน่ายมากกว่านี้”
ผมเดินชมตลาดแผงลอยที่ทั้ง 2 ฝั่ง มีแผงตั้งวางขายขนม กาแฟ ก๋วยเตี๋ยว ข้าวแกง ขนมไทย สมุนไพร ฯลฯ ผมแวะอุดหนุนขนมจีน (ต้นตำรับมาจากเมืองจีน) ขนมเปี๊ยะ ลูกเต๋า โดนัท ถั่วตัด ขนมหน้าแตก (บรรจุถุง ถุงละ 5 ชิ้น 10 บาท) ผมเลยไปซื้อน้ำมะพร้าวอ่อนแช่เย็นเจี๊ยบ ถุงละ 5 บาท ราคาถูกมาก และรสชาติอร่อยเกินคุ้มจริง ๆ นี่เพียงสินค้า 1-2 อย่าง ที่ตลาดเก้าห้อง ผมสามารถบอกได้เลยว่า ที่นี่เขาขายกันแบบมิตรต่อมิตร ไม่มีการโก่งราคาทั้งอาหารการกิน ขนม ของฝาก ราคาต่ำมากแต่คุณภาพเทียบเท่าของที่มีราคาสูง ครับ
นอกจากนั้นในตลาดเก้าห้องยังมีศาลหลักเมืองและศาลเจ้าในตลาดให้ผู้ที่มาเยือนได้สักการะ นอกจากปีนหอดูโจร ดูวิวในมุมสูง รวมทั้งเดินเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ ในตลาดเก้าห้อง ได้แก่ ร้านทองโบราณ ร้านอาหาร โรงพิมพ์ และสิ่งก่อสร้างเก่า ๆ เช่น สภาพตลาดเก่าริมแม่น้ำท่าจีนมีชื่อเสียงโด่งดังด้านโลเกชั่น ในการถ่ายทำภาพยนตร์มาแล้วหลายเรื่อง ได้แก่ แม่เบี้ย เจ็ดประจัญบาน ฯลฯ นอกจากนั้นในตลาดเก่าแก่แห่งนี้ยังมีอีกหลายอย่าง ที่รอคอยให้ท่านได้มาค้นหาอดีตที่เคยเฟื่องฟู
(ผมนำเอาแผนผังสถานที่สำคัญ ตลาดเก่าบ้านเก้าห้องเพื่อการศึกษา)
ในฐานะที่ผมเป็นคนสุพรรณฯ โดยกำเนิด รักบ้านเกิด รักถิ่นที่ ที่ผมได้อาศัยทำมาหากินด้วยอาชีพที่สุจริตมาตลอดเวลา 57 ปี ผมมีความภาคภูมใจกับวิถีชีวิตของคนในชุมชนตลาดเก้าห้อง ตลาดเก่าศรีประจันต์ และตลาดเก่า 100 ปี สามชุกมาก ขอเชิญชวนทุกท่านที่ผ่านมาถึงจังหวัดสุพรรณบุรี ได้แวะไปเยี่ยมเยียนตลาดเก่า ที่สามารถเล่าเรื่องราวอันทรงคุณค่าแห่งวิถีชีวิตไทยเอาไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นตลาดเก่า 100 ปี สามชุก ตลาดเก่าศรีประจันต์ “บ้านเจ้าคุณ” และตลาดเก่าบ้านเก้าห้อง ล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์ มีจุดเด่นที่แตกต่างกันในเนื้อหา คุณค่าทางสังคม บ่งบอกถึงเชื่อถือที่น่าศรัทธา อันเป็นแบบอย่างของคนรุ่นก่อนสู่คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี
ผมเดินทางกลับเมื่อเวลา 13.15 น. เกือบจะ 3 ชั่วโมงที่ผมได้สัมผัสกับความอบอุ่น กลิ่นไอแห่งตำนานและวัฒนธรรมอันล้ำค่าของความเป็นคนไทยที่มีอัธยาศัย เต็มไปด้วยมิตรไมตรี วันนี้คงต้องลาจากตลาดเก้าห้องก่อน อีกไม่กี่วันผมจะกลับไปเก็บเกี่ยวความรู้ที่ยังคั่งค้างให้หมด ชีวิตนี้ยังคงต้องศึกษาอีกนาน โดยไม่มีวันจบ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มพัฒนาตลาดเก้าห้อง (คุณศิริพรรณ ตันศักดิ์ดา) 035-587044 และ 081-828-8695
(ชำเลือง มณีวงษ์. พาเที่ยวตลาดเก่าบ้านเก้าห้อง 30 กันยายน 2550.)
ท่าน ศน.ลำดวน
แวะเข้ามาเยี่ยมเยียนอีกครั้ง ต้องขอขอบคุณมาก ๆ
POMPIER ตลาดเก่าในจังหวัดสุพรรรบุรี มีหลายที่ สำหรับที่เก้าห้อง บรรยากาศสงบดีมากครับ ไม่เงียบเหงา เพราะว่ามีผู้คนมาเยือนกันตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะในวันหยุด ถ้าคุณ Pompier มีโอกาสผ่านมาสุพรรณฯ ลองแวะเข้าไปเยือน มีทางแยกไปเก้าห้องเมื่อข้ามสะพานตรงโรงพยาบาล เจ้าพระยายมราช ใกล้มากครับ