ผมได้มีโอกาสเป็นผู้ประเมินการทำงานของเพื่อนร่วมวิชาชีพมาหลายครั้ง ได้เห็นความแตกต่างของวิธีการทำงานของคนทำงาน ซึ่งจัดเป็นพวกใหญ่ๆ ได้ 2 พวก
พวกที่ 1 เป็นพวกวางกรอบวางแผนกำหนดแนวคิดก่อนแล้วจึงลงมือทำ คิดจากหลักการใหญ่ๆ ไปหาส่วนประกอบย่อยๆ วิเคราะห์แยกแยะ จัดกลุ่ม จัดหมวดหมู่เก่ง ผลงานของคนพวกนี้จะมีรูปแบบ เป็นไปตามหลักการตามทฤษฎี ผลงานถูกต้องตามกติกา แต่มักขาดสีสัน ความแปลกใหม่ หรือขาดความคิดสร้างสรรค์ แต่ถ้าใช้เกณฑ์มาตรฐานไปประเมิน จะได้คะแนนสูง
พวกที่ 2 เป็นพวกทำงานไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่ง ผลงานมีความแปลกใหม่ มีสีสัน มีความคิดสร้างสรรค์และมักค้นพบวิธีการทำงานใหม่ๆ แต่มักไม่ยึดกฎระเบียบกติกา แต่เมื่อใช้เกณฑ์มาตรฐานไปประเมิน จะได้คะแนนต่ำ
ถ้าเราจะพัฒนาคนสองกลุ่มนี้ จึงต้องเลือกเนื้อหาและวิธีการพัฒนาที่เหมาะ เข้าตำรา ให้ยาให้ตรงกับอาการของโรค
พวกที่1 ควรพาไปศึกษาดูงาน เพื่อเติมแนวคิดในการทำงาน เติมสีสันให้หลากหลายขึ้น เห็นงานของคนอื่นบ้าง
พวกที่ 2 ควรให้ความรู้เกี่ยวกับการกำหนดกรอบความคิดในการทำงาน และการสังเคราะห์งานที่พวกเขาทำอยู่ ให้เป็นรูปแบบที่อธิบายได้ทางวิทยาศาสตร์
จริงๆ แล้วยังมีกลุ่มคนที่ไม่เข้าพวก ทั้ง 2 พวก ก็มี เช่นคนที่ คิดสร้างสรรค์ก็ไม่ได้ ทำในกรอบกติกาก็ทำไม่ได้ คนพวกนี้อยู่เฉยๆ ก็ทำให้หน่วยงานนั้นอ่อนกำลัง อ่อนประสิทธิภาพ แต่ยังมีอีกพวกที่คิดสร้างสรรค์ก็ไม่ได้ ทำในกรอบกติกาก็ทำไม่ได้ แล้วยังทำตัวขัดขวางคนอื่นๆอีก ถ้าหน่วยงานใดมีคนอย่างนี้อยู่ นอกจากจะอ่อนกำลังแล้ว ยังส่อแววว่าจะล้มพังพาบอีกต่างหาก
ใครมีแนวคิดดีๆ สำหรับย่อหน้าสุดท้ายนี้บ้าง
เห็นด้วยกับความคิด..เพราะเป็นคนชอบคิด แต่ยังไม่ทราบเลยว่าตัวเอง จัดอยู่พวกใหน..แวะหยุดทักทาย..สดุดในความคิดคะ
คนที่บอกตัวเองว่าไร้สาระมักมีสาระ......ถ้ามีเวลาจะติดตามคะ
ยอดเยี่ยมครับ อ่านคราวใดมีแนวคิดให้ติดตามเสมอ
พอจะมีเวลาเป็นตัวเองบ้างแล้ว
จะไปขอวิชาจากท่านบ้างนะครับ