รัสนิยายสื่อสร้างสรรค์สังคมไทย " เล่ห์ธรรมชาติ "


เรื่องเล่าสั้นๆ สื่อสรางสรรค์สังคมไทย

วันนี้ขอนำผลงานการเขียนเรื่องสั้นจากข้อความเริ่มเรื่องที่ครูกำหนดให้ของ นายนิวัฒน์  แก้วโสด  นักเรียน ม.  ๕ ปี ๒๕๕๐ กำลังเรียนอยู่ค่ะ เรื่อง เล่ห์ธรรมชาติ  เป็นกลโกงของมนุษย์ที่อาศัยธรรมชาติ  อ่านแล้วอย่าลืมแสดงความคิดเห็นนะคะ  เด็ก ๆ และครูรอคำวิจารณ์อยู่ค่ะ และโปรดชี้แนะ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนา ขอบคุณค่ะ ( เงื่อนไขของผลงาน นักเรียนมีเวลาสร้างสรรค์ผลงาน   ๒ ชั่วโมง และความยาวไม่เกิน ๒ หน้า เอ ๔ ด้วยลายมือตนเอง จากนั้นก็ขอนุญาตครูนำไปปรับปรุงให้ดูดีขึ้นอีกหน่อยเพื่อขอคะแนนเพิ่ม )

 เล่ห์ธรรมชาติ 

  ใคร ๆ ก็ช่วยคุณไม่ได้ทั้งนั้นแหละ  ถ้าคุณไม่คิดที่จะออกมาจากหมู่บ้านนี้  ก่อนที่มันจะจมหายไปกับสายน้ำ   เสียงเจ้าหน้าที่กู้ภัยร้องเร่งเตือนชาวบ้านด้วยความหงุดหงิด  ไม่มีเสียงตอบกลับจากชาวบ้าน  ทุกคนหยุดนิ่งและครุ่นคิดอย่างลังเล   มันจะเกิดน้ำท่วมได้ยังไง  ในเมื่อพวกเราไม่เคยเลยที่จะตัดต้นไม้สักต้น   เกิดเสียงหนึ่งดังขึ้นมาในความเงียบ  มันคือเสียงของผู้ใหญ่สิงห์ที่ทุกคนคุ้นเคย  คำพูดอิงคำถามนี้ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยหันมามองหน้ากันอยู่ครู่หนึ่ง  แต่เทวันหนึ่งในเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็บอกกับชาวบ้านไปว่า  มันจำเป็นยังงั้นรึ  ที่น้ำท่วมจะเกิดต่อเมื่อต้นไม้ถูกตัด มีสาเหตุอีกมากมายที่จะทำให้เกิด                      น้ำท่วม แล้วอะไรล่ะ  ที่จะทำให้หมู่บ้านของข้าต้องถูกน้ำท่วมนะ  ฮึ   ผู้ใหญ่สิงห์ตั้งคำถามอีกครั้ง  แต่คราวนี้เทวันไม่ตอบอะไร  เพียงชี้นิ้วไปที่แม่น้ำสายเล็ก ๆ ที่ไหลผ่านหมู่บ้านเท่านั้น  ทันทีที่ชาวบ้านหันไปมองตามที่เทวันชี้นิ้ว  ทุกคนก็มีอาการตกใจออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจน  เพราะสายน้ำที่เคยใสสะอาด  ตอนนี้มันมีสีแดงคล้ำจนน่ากลัว  ป่ามีน้อยเกินไปที่จะอุ้มน้ำไว้  ดินโคลนบางส่วนพังทลายลงมาแล้ว และทีนี้จะเชื่อผมได้รึยัง                ล่ะ   เทวันพูดออกมาในขณะที่ชาวบ้านเริ่มออกอาการหวาดหวั่นให้เห็น  เห็นทีพวกเราต้องย้ายที่อยู่กันแล้วล่ะว่ะ  พวกเองไปเก็บข้าวของเตรียมตัวออกจากหมู่บ้านกันเถอะเร็ว   ผู้ใหญ่สิงห์บอกแก่ชาวบ้าน  ซึ่งกำลังงงกับเหตุการณ์ทั้งหมดนี้อยู่เย็นวันนั้นทุกคนดูวุ่นวายกับการเก็บข้าวของของตัวเองกัน   อ้าว ! เองไปไหนมา  ฮึ  ไอ้เมฆ  ดูซิมอมแมมไปทั้งตัวเชียว   ผู้ใหญ่สิงห์พูดกับเด็กชายคนหนึ่งที่เดินออกมาจากภูเขาหลังบ้านผู้ใหญ่  ซึ่งทั้งตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยดินโคลนดูสกปรก คือ .... คือผมปะ...  ไปหาผลไม้มากินนะครับผู้ใหญ่   ก่อนที่ผู้ใหญ่จะทันได้พูดอะไร  เจ้าเมฆมันก็วิ่งไปซะแล้ว  ผู้ใหญ่สิงห์ก็ไม่ได้สนใจมากนัก  แกหันกลับไปเพื่อที่จะไปเก็บข้าวของในบ้านต่อ  โอ๊ย!  เสียงผู้ใหญ่ดังขึ้น  มีเด็กอีกประมาณ 4-5 คนวิ่งชนผู้ใหญ่สิงห์และผ่านไปอย่างรีบร้อน  ทุกคนดูสกปรกเช่นเดียวกับเจ้าเมฆที่เพิ่งผ่านไป   ไอ้เด็กพวกนี้มันไปไหนกันมาวะ  อู๊ย  หลังเดาะแล้วโว้ย   ผู้ใหญ่สิงห์บ่นกับตัวเอง  ค่ำคืนนั้นทุกคนไม่ได้นอนกันเลย  มัวแต่เตรียมตัวกันอยู่  อรุณรุ่งมาเยือนรถเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็มาถึง  เทวันเดินลงมาจากรถเป็นคนแรก เอาละทุกคนขนของขึ้นรถได้แล้ว  เร็ว ๆ หน่อย   ทุกคนทำตามคำบอกของเทวันอย่างเร่งรีบ  แล้วเองจะให้พวกข้าไปอยู่ไหนล่ะ  ฮึ   ผู้ใหญ่สิงห์ถามเทวัน  พวกเราจะนำพวกชาวบ้านไปอยู่ที่หมู่บ้านที่ห่างออกไปไกลหน่อย  ถึงต่างจังหวัดโน่นแหละ   เทวันบอกแก่ผู้ใหญ่สิงห์  ขณะนั้นผู้ใหญ่สิงห์ดูท่าทางตกใจอย่างมาก  เองไม่ได้บอกนี้หว่า  ว่าข้าจะต้องไปถึงต่างจังหวัดนู้นนะ  ฮึ   เสียงของผู้ใหญ่ดังจนส่งไปถึงชาวบ้านที่กำลังวุ่นวายกับการขนของกันอยู่  ทุกคนหยุดชะงักและเริ่มเข้ามามุงกันบริเวณผู้ใหญ่สิงห์จริงรึผู้ใหญ่  ที่เราจะต้องไปถึงต่างจังหวัดกันน่ะ   ชาวบ้านคนหนึ่งเอ่ยปากถามผู้ใหญ่   ข้าก็ไม่รู้  ไอ้เจ้าหน้าที่มันก็เพิ่งบอกข้าเนี่ย แหละ   ผู้ใหญ่สิงห์ตอบอย่างงง ๆ  และยังแฝงไปด้วยอาการตกใจอยู่เล็กน้อย   ไม่นะผู้ใหญ่  พวกเราเกิดที่นี้  อยู่ที่นี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ  อยู่ ๆ จะให้ไปอยู่ที่อื่นได้ไง       เสียงของชาวบ้านคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมา  พร้อมกับความเห็นด้วยของชาวบ้านคนอื่น ๆ  ตอนนี้ชาวบ้านเริ่มประท้วง  โดยจะให้ย้ายไปอยู่อำเภอข้าง ๆ ก็พอ  ผู้ใหญ่สิงห์ได้แต่อยู่เฉย ๆ  เพราะตัวเองก็ยังตกใจอยู่เล็กน้อย  เอ้า ! เงียบ  เงียบหน่อย   เทวันตะโกนจนชาวบ้านเงียบลง  และเขาก็พูดต่อไป  ไม่ต้องห่วงถ้าคุณยอมเชื่อฟังเราสักครั้ง  ทุกคน  ย้ำ !  ทุก ๆ คนจะได้กลับสู่บ้านเกิดตัวเองแน่ ๆ  ชาวบ้านงงกับคำพูดของเทวันอยู่บ้าง  เองหมายความว่าไงว่ะ  ฮึ   ผู้ใหญ่สิงห์เอ่ยถามเทวันอย่างนี้ทุกครั้งที่พูดกัน  และเทวันก็ต้องตอบคำถามของผู้ใหญ่สิงห์อีกครั้ง  ผมหมายถึง  ถ้าทุกคนให้ความร่วมมือที่จะไปต่างจังหวัดสักพัก  พอเวลาผ่านไป  เราจะพากลับมาที่นี้อีกครั้ง  แต่ตอนนี้พวกผมจะอยู่บำรุงพื้นที่บริเวณนี้ก่อน   เทวันให้เหตุผลกับผู้ใหญ่สิงห์และทุกคน  ชาวบ้านทุกคนยังไม่ค่อยเห็นด้วยซักเท่าไร  แต่ก็ไม่มีทางเลือก  ทุกคนจึงดำเนินการขนของต่อการขนของขึ้นรถเสร็จตอนสายเกือบเที่ยงของวันเดียวกันนี้  หมู่บ้านนี้มีชาวบ้านเพียงไม่กี่ร้อยคน  จึงสามารถขนย้ายได้ภายในเที่ยวเดียวโดยใช้รถ 3 คัน  ขนของ 1 คัน  และให้คนนั่ง 2 คัน  รถขนของจะวิ่งไปคนละเส้นทางกับรถรับส่งคนนะครับ  ขอให้รู้ไว้ด้วย   เทวันตะโกนบอกกับชาวบ้านบนรถ  เขาถอยหลังออกมาและรถก็ค่อย ๆ วิ่งออกไปจนลับสายตา  เทวันเดินเข้าไปในหมู่บ้านพร้อมกับเจ้าหน้าที่อีก 3-4 คน  ลุงเทวัน  เสียงของเด็กชายกลุ่มหนึ่งตะโกนเรียกเทวัน  เมฆและเพื่อน ๆ ยังอยู่ในหมู่บ้าน  พวกเขาวิ่งเข้ามาหาเทวัน  ผมมารับเงินค่าเทโคลนลงต้นน้ำน่ะ  ลุงรีบให้พวกผมเถอะ  เดี๋ยวผมตามแม่กับพวกชาวบ้านไปไม่ทัน    เมฆพูดกับเทวันด้วยความเหนื่อยหอบ  แต่เทวันเพียงยิ้มเยาะด้วยมุมปากและส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปที่เจ้าเมฆ  ฮึ....ขอบใจแกว่ะไอ้เมฆ.....ฮึฮึฮึ   เทวันพูดกับเมฆและเพื่อน ๆ ซึ่งเต็มไปด้วยความงงและความกลัวหลังจากฟังเทวันพูดจบ  เทวันหันไปทางลูกน้องของตนและบอกว่า     พวกเองช่วยพาไอ้เด็กพวกนี้ไปพบกับพวกของมันหน่อยสิวะ   ลูกน้องของเทวันเดินตรงเข้ามาที่พวกของเมฆ  และเขาก็......... 

 

หมายเลขบันทึก: 131401เขียนเมื่อ 25 กันยายน 2007 08:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:36 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท