เล่าเรื่องดูงานการศึกษาที่นิวซีแลนด์(ตอนที่ 4)

                ต่อไปนี้จะเล่าถึงสภาพการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงานและสถานศึกษาต่างๆที่ได้ไปศึกษาดูงานพอสังเขปดังนี้
 1.University of Auckland, Faculty of Education(คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์)
              เป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญาที่สุด และมีงานวิจัยมากที่สุดในนิวซีแลนด์  ได้รับการจัดอันดับคุณภาพเป็นลำดับที่ 46 ของโลก  เดิมเป็นสถาบันวิทยาลัยฝึกหัดครูที่เป็นผู้นำในการผลิตครูมานาน  ภายหลังไปรวมกับมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์  จึงเป็นคณะที่ใหญ่ที่สุดของมหาวิทยาลัย มีนักศึกษาประมาณ 5,000 คน ปริญญาตรีประมาณ 3,000 คน สูงกว่าปริญญาตรีประมาณ 2,000 คน เป็นนักศึกษาจากต่างชาติเกิน 100 คน มีอาจารย์ประมาณ 600 คน
                วิสัยทัศน์ชองคณะศึกษาศาสตร์  มุ่งพัฒนาหลักสูตรความเป็นผู้นำมืออาชีพ  ฝึกฝนเพื่อความเป็นเลิศ และวิจัยพัฒนานวัตกรรม  เป็นหุ้นส่วนกับชุมชน ทำงานร่วมกับองค์กรที่ทำร่วมกับเด็กและเยาวชน  มีสาขาที่สำคัญคือ
               1.พัฒนาการเรียนการสอน
               2.ภาษาและการสื่อสาร
               3.นโยบายสังคม
               4.วิทยาศาสตร์  คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีทางการศึกษา
               5.ภาษาเมารี
               6.การสร้างสรรค์ศิลปะเพื่อการศึกษา
                   คณะศึกษาศาสตร์เปิดสอน 6 โปรแกรม ครูที่จะไปสอนระดับปฐมวัยหรือก่อนปฐมวัย ต้องมีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีในสาขานี้ ถ้าไม่จบในสาขานี้ต้องเรียนเพิ่มเติมในสาขานี้อีก 1 ปี  ดังนั้นครูที่จะสอนในสาขาใดก็ต้องจบในสาขานั้น ถ้าจบในสาขาอื่นมาก็ต้องเรียนเพิ่มเติมอีกเช่นกัน  หรือถ้าเรียนต่อปริญญาโทก็ใช้เวลา 2 ปี  ปริญญาเอก 3 ปีต่อจากปริญญาโท เป็นต้น
                                
                    TEAM  Solutions
         Team solutions  เป็นนวัตกรรมที่ทางกระทรวงศึกษาธิการร่วมมือและทำสัญญากับคณะศึกษาศาสตร์ใน 6 มหาวิทยาลัยหลัก เพื่อจ้างทีมผู้มีความรู้และประสบการณ์สูงในสาขา/เรื่องนั้นๆ(Adviser)เข้าไปช่วยเหลือแก้ปัญหาและพัฒนาครูประจำการตามความต้องการจำเป็นในลักษณะของ Moving Teamsซึ่งทำงานคล้ายกับศึกษานิเทศก์ โดยสัญญาจะทำครั้งละ 3 ปี 
              บุคลากรที่ทำงานใน Team Solutions จะเป็นAdvisersที่มีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์สูงในแต่ละสาขาวิชาที่จ้างโดยตรงจากกระทรวงศึกษาธิการ แต่ประจำอยู่ในมหาวิทยาลัย  หน้าที่หลักคือ การบริการให้คำปรึกษาช่วยเหลือครูในด้านการจัดการเรียนการสอน  ที่อาจจัดได้หลายแบบ  เช่น ทำเป็นหลักสูตรพัฒนาระยะสั้น(short courses) 1 วัน 2 วันตามความต้องการจำเป็น  หรือลงไปช่วยแก้ปัญหาหรือพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียนโดยตรงตามสภาพความต้องการและช่วงเวลาที่เหมาะสม หรืออาจพัฒนาโดยการแบ่งเป็นกลุ่มโรงเรียน(Cluster)ตามที่ Advisers เห็นสมควรว่าจะแบ่งอย่างไร  หรืออาจใช้เครือข่ายชุมชน ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วม  ใช้ผู้บริหารเข้ามาส่งเสริมสนับสนุน  จัดประชุมปฏิบัติการในโรงเรียน  การวิเคราะห์ข้อมูล  สนับสนุนผ่านทางเว็บไซต์  ใช้ E-learning เป็นต้น   
               ในนิวซีแลนด์กำหนดให้โรงเรียนต้องอบรมพัฒนาครูประจำการ  จะพัฒนาโดยโรงเรียนเอง หรือจะส่งไปอบรมพัฒนาข้างนอกก็ได้  ซึ่ง Team Solution จะมีบทบาทสูงในการพัฒนา  โดยกระทรวงฯจะจัดเงินก้อนหนึ่งสำหรับการพัฒนาครู ซึ่งผู้บริหารต้องจัดให้แก่ครู  ค่าอบรมครูแต่ละคนใน 1 วัน ตกประมาณ 100-180 เหรียญ(1 เหรียญประมาณ 24-25 บาท) ที่ต้องจ่ายให้สูงเนื่องจากต้องนำเงินจำนวนนี้ไปจ้างครูคนอื่นสอนแทนคนที่ไปอบรมด้วย เพราะครูจะทิ้งห้องสอนไปอบรมไม่ได้  ถ้าอบรมในโรงเรียนอาจเชิญโรงเรียนใกล้เคียงเข้ามาร่วมรับการอบรมด้วยก็ได้  หากครูได้รับการพัฒนาจาก Team Solution อย่างต่อเนื่องสามารถนำมาเทียบโอนให้ได้ปริญญาหรือประกาศนียบัตรของมหาวิทยาลัยได้  
               รัฐบาลนิวซีแลนด์โดย กระทรวงศึกษาธิการลงทุนปีละ 40 ล้านเหรียญ ให้แก่มหาวิทยาลัยในการจ้าง Adviser ของ Team Solution เพื่อดูแลช่วยเหลือครูดังกล่าว ซึ่งไม่ได้รวมงบประมาณด้านการวิจัยและการประเมินผล  มหา
วิทยาลัยโอ๊คแลนด์ได้รับงบประมาณมากที่สุดโดยได้จ้างทีมงานกว่า 150 คน ดูแลใน Auckland และ Northland  เรื่องที่ Team Solution ที่นี่ไปช่วยเหลือ  ได้แก่  Leadership and Management, Literacy, Numeracy, E-learning, Assessment, the Arts, Gifted and Talented, Languages, Social Sciences, Health and PE, Technology, Education for Sustainability, and Career Education 
           เขาจะพยายามไม่ให้ทีม Advisers เข้าไปช่วยเหลือมากเกินไป ต้องพยายามให้โรงเรียนเข้มแข็งและยืนด้วยตนเองให้ได้มากที่สุด แต่อาจเข้าไปช่วยแก้ปัญหาในระยะยาวได้ เช่นเมื่อมีปัญหาความต้องการจำเป็นเกิดขึ้นที่ใด หรือโรงเรียนที่มีความเสี่ยงสูง กระทรวงศึกษาธิการอาจส่ง Team Solution เข้าไปช่วยให้ดีขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับปัญหา และจะต้องสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับโรงเรียน
            รัฐบาลนิวซีแลนด์มีเป้าหมายที่จะใช้ฐานความรู้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้ก้าวหน้า  กระทรวงศึกษาธิการจึงมีเป้าหมายในการจัดการศึกษา 4 ประการ คือ
           1.ยกระดับมาตรฐานการศึกษาให้สูงขึ้น เด็กทุกคนต้องมีความรู้พื้นฐานที่เพียงพอ
            2.ต้องส่งเสริมให้พ่อแม่ผู้ปกครอง และชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษามากขึ้น
            3.ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนให้สูงขึ้น
            4.สร้างความมั่นใจให้คนนิวซีแลนด์ทุกคนใช้การเรียนรู้สู่การพัฒนาคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจและสังคม
           จากแนวนโยบายนี้ ส่งผลให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการเรียนการสอน ก่อให้เกิดคุณภาพแก่ผู้เรียน  ครอบครัวและชุมชนเข้ามาช่วยดูแลสนับสนุนการศึกษามากขึ้น  ซึ่ง Team Solution มีส่วนส่งเสริมสนับสนุนคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนอย่างมาก 
         หน้าที่ของ Team Solution นอกจากจะดูแลช่วยเหลือด้านวิชาการแก่โรงเรียนแล้ว ยังต้องกำกับติดตามดูแลความก้าวหน้า  ทำวิจัยปฏิบัติการ กำหนดให้มีโรงเรียนตัวอย่าง และจัดทำรายงานต่อกระทรวงศึกษาธิการทุกปี