ลองขึ้น TAXI เก่าบ้างนะ


เรื่องนี้เป็นเพราะความบังเอิญที่บ่ายวันนั้นฝนตกตัวเองก็รีบจะไปเจอเพื่อนที่รออยู่บีทีเอสหมอชิต

ได้นั่งอ่านเมลเก่าๆใน inbox เจอเมลหนึ่งที่ได้รับจากเพื่อนจิ๊บนานแล้ว

อยากให้ได้อ่านกันค่ะ รู้สึกดีมากๆ

           เรื่องนี้เป็นเพราะความบังเอิญที่บ่ายวันนั้นฝนตกตัวเองก็รีบจะไปเจอเพื่อนที่รออยู่บีทีเอสหมอชิตตัดสินใจรีบวิ่งขึ้นแท็กซี่ที่จอดเรียงกันอยู่โดยไม่มองว่ารถคันนั้นมีสภาพยังไงเข้ามานั่งแล้วถึงได้รู้ว่าเป็นรถแท็กซี่รุ่นเก่า คันเล็ก แอร์ไม่เย็นแล้วก็จะมืดๆหน่อยอ่ะค่ะคือมองจากข้างนอกจะเห็นข้างในไม่ค่อยชัดตอนนั้นก็คิดแค่ว่าเออ แค่นี้เอง เดี๋ยวก็ถึง ร้อนหน่อยไม่เป็นไร
นั่งไปได้สักพักรถติดคุณลุงคนขับรถก็หันมาถามประมาณว่า
"มีแบงค์ย่อยรึเปล่า ลุงไม่มีเงินทอน นี่เป็นรอบแรกของวันนี้เลย"
เราเห็นว่าตอนนั้นมันจะสี่โมงเย็นแล้วแต่ลุงบอกว่าเป็นเที่ยวแรกของวันนี้
ก็เลยถามว่า "ลุงเข้ากะบ่ายหรือคะ"
คุณลุงตอบกลับว่า
"ลุงขับมาตั้งแต่ตีสี่แล้วนี่รถของลุงเองนไปวนมาอยู่หลายรอบแล้วแต่ไม่มีลูกค้าเลย"
"อ้าวทำไมล่ะคะลุง"
ตอนนั้นก็ชวนคุณลุงคุยแบบไม่ได้ติดใจอะไรถามไปเรื่อย
"รถลุงเก่าคนเค้าก็ไม่อยากนั่ง
แต่ลุงเข้าใจนะมันก็เป็นเงินของเค้ารถเก่ารถใหม่ค่าโดยสารมันเท่ากัน
เป็นลุงลุงก็อยากได้ที่มันดีๆเหมือนกันเด็กๆเดี๋ยวนี้เค้าก็ชอบรถที่มีสีๆ กัน"
น้ำเสียงคุณลุงตอนนั้นเป็นน้ำเสียงเหมือนจะขำๆ
แบบเล่าสู่กันฟังมากกว่าจะประชดประชันนะคะ
แล้วลุงก็เปลี่ยนเรื่อง ถามว่า "รถไฟฟ้านี่เค้าคิดเงินกันยังไง"
ก็เลยอธิบายเรื่องราคาให้ลุงฟัง แล้วลุงก็ถามว่าทำยังไง
ถ้าทำไม่เป็นจะมีใครช่วยไหม
"ลูกชายลุงมันอยากจะลองนั่งแต่ลุงก็ทำไม่เป็น
ไม่เคยเห็นว่าเป็นยังไง ไม่กี่วันจะถึงวันเกิดมันแล้ว
ลุงสัญญาว่าจะพามันมานั่งดูสักรอบคงจะชอบนะหนู
ลุงเคยพามันมาดูแต่วันนั้นไม่มีเงินจะให้นั่ง สมัยนั้น
บีทีเอสสร้างเสร็จและเปิดใช้งานแล้วเกือบสามปี"
น้ำเสียงตอนคุณลุงเล่า
ฟังดูมีความสุขนะคะคุณลุงยิ้มให้เราทางกระจกคำพูดของคุณลุง
ทำให้เราตื้อขึ้นมา

ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดีได้แต่พยักหน้าแล้วก็ยิ้มตอบทั้งสองเรื่องที่ลุงพูดมาเรื่องรถแทกซี่เก่าของลุงเราฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆให้ลุงไป
เพราะเราเองก็รู้ตัวดีอยู่ว่าเป็นหนึ่งใน"เด็กๆเดี๋ยวนี้ที่มักจะเลี่ยงนั่งรถเก่าๆ
และมักจะยอมเสียเวลาเป็นครึ่งชั่วโมงเพื่อรอรถแท็กซี่ใหม่ ๆผ่านมา"
เรารู้ดีว่าแม้แต่การนั่งรถของคุณลุงในครั้งนี้มันก็เป็นแค่ความบังเอิญ
ถ้าฝนไม่ตก ถ้าเราไม่รีบเราก็คงไม่เรียกรถของคุณลุง
หลังจากนั้นเราก็คิดว่ามันอาจจะเป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคลที่เราสามารถเลือกในสิ่งที่เราต้องการได้
แต่ถ้าสิ่งที่เราเลือกทำมันมีประโยชน์กับคนอื่นด้วยเราก็ไม่คิดว่ามันจะเสียหายอะไร
(แท็กซี่ใหม่ก็ไม่ผิดหรอกค่ะเพราะในจำนวนนั้นก็มีคนที่ลำบากหาเช้ากินค่ำเช่นกัน)
ส่วนเรื่องรถไฟฟ้า เรื่องของลูกชายคุณลุงทำให้เรากลับมามองตัวเอง
เราใช้รถไฟฟ้าไปไหนมาไหนตลอดบางครั้งไม่มีอะไรทำก็ชอบไปนั่งเล่นด้วยซ้ำ
จะใช้ทีก็แทบจะไม่ต้องคิดเลยแต่สำหรับลูกชายคุณลุง
มันคือ"ของขวัญวันเกิด"

เป็นความต้องการที่แทบจะต้องใช้คำว่า "ความฝัน" ด้วยซ้ำ ....
"เงิน "แค่"สิบห้าบาทของเรา กับเงิน "ตั้ง"สิบห้าบาทของเค้า"
หดหู่ค่ะ
วันนั้นลงจากรถคุณลุงมาก็เล่าให้เพื่อนฟังคิดถึงตัวเองที่ใช้เงินฟุ่มเฟือยทั้งที่หาเงินเองไม่ได้
คิดถึงหลายๆอย่างในชีวิต ที่ได้มาง่ายๆโดยไม่ต้องดิ้นรน
 

คำสำคัญ (Tags): #รู้สึกดี#taxiเก่า
หมายเลขบันทึก: 130925เขียนเมื่อ 23 กันยายน 2007 13:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 พฤษภาคม 2012 10:56 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท