สอนคุณธรรมเรื่องเพื่อนที่ดี
อันดับที่ 17/6
คุณธรรมแห่งการเลือกคบคนดีและเป็นคนดี
วัตถุประสงค์ เพื่อรู้รัก และฝึกฝนจนเคยชิน
หนูแดง กําลังเดินไปตามทางเล็กๆที่ปกคลุมด้วยร่มเงาของใบไม้ใหญ่ มีบ้านหลายๆ หลังเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ เธอยังคงเป็นคนแปลกหน้าสำหรับผู้คนแถวนั้น หนูแดงรู้สึก สับสน และยิ่งวันนี้ด้วยแล้ว มันเป็นวันแรกในสถานที่ใหม่ โรงเรียนใหม่ เพื่อนใหม่ คุณครูใหม่ ทุกอย่างใหม่หมด เธอไม่รู้จักใครเลย มันดูแปลกหูแปลกตาไปหมด เรามาช่วยกันลุ้นว่า หนูแดงจะเป็นอย่างไรในโรงเรียนใหม่แห่งนี้ เธอจะหาเพื่อนใหม่ได้หรือไม่
เธอนึกถึงคำพูดของคุณแม่น้อยที่พูดกับเธอ ขณะหวีผมให้เธอ เมื่อเช้านี ้
ทำตัวให้ดี นะลูก เชื่อฟังคำสั่งสอนของครู และอย่าคบเพื่อนที่ไม่ดีเป็นอันขาด
เธอเข้าใจและพอจะทำได้ในเรื่องการประพฤติตัวดี และเชื่อฟังคุณครู แต่คำว่าเพื่อนที่ไม่ดี เธอจะรู้ได้อย่างไร ว่า ควรเลือกคบคนไหน อย่ากระนั้นเลย ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องคบใครเลยดีที่สุด หนูแดงคิดกับตัวเอง
ขณะที่หนูแดงกําลังนั่งตั้งใจฟังคุณครูสอนหนังสืออยู่ในชั่วโมงแรก เธอก็ได้ยิน เด็กผู้ชายสองคนที่นั่งข้างหลังกำลังคุยกัน เด็กชายคนแรกบ่นว่าเขาลืมกล่องอาหารกลางวันไว้บนรถเมล์ เขาต้องแย่แน่เลยที่ไม่อาหารกินมื้อกลางวันนี ้ เพื่อนชายอีกคนกระซิบบอกว่า อย่ากังวลไปเลย เดี๋ยวจะขโมยอาหารกลางวันจากเพื่อนในห้องให้ เรามีเทคนิคในการเปิดตู้ของคนอื่น
หนูแดงรู้สึกไม่ค่อยดี เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินการวางแผนขโมยของ เด็กผู้ชายสองคน เธอจะทำอย่างไรดีล่ะ
หนูแดงรู้สึกสับสน
และไม่แน่ใจอะไรบางอย่าง ใจหนึ่งก็รู้สึกสนุก ใจหนึ่งก็รู้สึกแย่
เธอจึงพยายามที่จะลืมเรื่องนี ้ แต่มันก็ยังอยู่กับเธอ
มันยังคงวนเวียนอยู่ในใจ รบกวนเธออย่างมาก
มันเกิดขึ้นได้อย่างไรในโรงเรียนใหม่แห่งนี้
นี่เป็นสถานที่ที่กำลังจะมีการก่อ อาชญากรรมขึ้นหรือนี่
และแล้วช่วงเวลารับประทานอาหารกลางวันก็มาถึง เธอได้นั่งรับประทานอาหารกับเพื่อนใหม่ชื่อหนูกิ๊บ ที่ชวนเธอนั่งโต๊ะเดียวกัน ขณะที่เธอไม่รู้จะนั่งที่ไหนท่ามกลางผู้คนที่ มากมาย เสียงเซ็งแซ่ ดูวุ่นวายไปหมด หนูแดงสังเกตเห็นเด็กผู้ชายที่อยู่ห้องเดียวกับเธอคน นั้น กำลังเทอาหารออกจากล่องใส่ลงถาดหลุมอาหาร ทิ้งกระเป๋าใส่อาหารลงถังขยะ และรีบรับประทานอาหารอย่างรวดเร็ว
ขณะนั้นหนูแดงก็ได้ยินนักเรียนอีกคนหนึ่งกำลังบ่นว่า กล่องอาหารของเขาหายไปจากตู้เก็บของส่วนตัวเขา ใช่แล้วอาหารของเขาถูกขโมย และเธอควรทำเช่นไร ขณะที่เธอกำลังเผชิญหน้ากับขโมยที่เพิ่งกินอาหารหมดไป เธอจะทำอย่างไร จะบอกนักเรียนคนที่ถูกขโมยให้รู้ความจริง บอกคุณครู หรือไม่ทำอะไรเลย เธอรู้สึกขำ และ รู้สึกแย่ไปพร้อมๆกันเมื่อมองไปยังเด็กผู้ชายผู้โหยหิว
มีอะไรเหรอ
หนูกิ๊บ ถามหนูแดงเมื่อเห็นสีหน้าอันกระอักกระอ่วนของหนูแดง หนูแดงบอกหนูกิ๊บด้วยความยากลำบาก เพราะเธอไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เธอจะพูดออกไปนั้นอาจ ทำให้ เพื่อนใหม่ของเธอหัวเราะเยาะเธอที่เธอไม่ทำอะไรเลย หรือเป็นแค่เรื่องเล็กๆที่เกิดขึ้น ได้ หรือทุกคนก็เคยเจอเรื่องนี้มาแล้ว
แต่เมื่อหนูกิ๊บได้ฟังเรื่องทั้งหมด เธอกลับแนะนำว่า หนูแดงควรไปบอกครูผู้ดูแล ห้องอาหารเป็นอันดับแรก หนูแดงไม่กล้า แต่หนูกิ๊บกลับพยักหน้าตอบรับเพื่อกระตุ้นให้หนู แดงกล้าๆหน่อย เธอบอกว่าจะไปเป็นเพื่อนหนูแดง หนูแดงไม่ต้องกลัว ฉันจะไปเป็นเพื่อน เธอเองไปกันเถอะหนูกิ๊บชวน
คุณครูได้จัดอาหารกลางวันสำหรับเด็กชายที่ถูกขโมยเป็นอันดับแรก และเธอได้เรียก เด็กผู้ชายที่ขโมยอาหารไปพบอาจารย์ฝ่ายปกครอง เด็กคนนั้นมองหนูแดงด้วยสายตาอาฆาต แต่หนูแดงยักไหล่แบบไม่สนใจ
เธอไม่สนใจความคิดของคนไม่ดีที่ขโมยของผู้อื่นหรอก
เมื่อหนูแดงกลับถึงบ้าน
เธอเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันแรกของโรงเรียนใหม่ให้แม่ น้อยฟัง
แม่น้อยภูมิใจมากที่หนูแดงเชื่อฟังและปฎิบัติตามคำสอน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการ เลือกคบเพื่อนที่ดีอย่างหนูกิ๊บ
หนูแดงพลอยภูมิใจไปด้วยและแทบจะรอไม่ไหวที่จะถึงวัน พรุ่งนี้
ที่เธอจะได้ไปโรงเรียนใหม่ในฐานะนักเรียนที่ผดุงความยุติธรรม
เธอเริ่มจะรัก โรงเรียนและเพื่อนใหม่ของเธอ หนูกิ๊บ
ช่วยกันขยายความ
1. ให้ช่วยกันหาคติพจน์ส่งเสริมคนดีให้มีในสังคมเรา
ฝึกคุณธรรม
1. ฝึกรู้รอบ : เน้นคุณธรรม ฝึกฝนและแยกแยะสิ่ งที่ดี และสิ่ งที่ไม่ดี เพื่อช่วยให้ เกิดความ ความถูกต้องและเป็นธรรมในสังคม การกระทำความดีที่เต็มไปด้วย สติความรับรู้สิ่ งต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตด้วยความเยือกเย็น ไม่ร้อนรน และ สงบเสงี่ยม ทว่านี่ไม่ใช่คุณสมบัติที่ได้มาง่ายๆ ต้องผ่านประสบการณ์ วิจารณญาณ การทดสอบ เพื่อจุดมุ่งหมาย ให้เราอยู่ในสังคมนี้ร่วมกันอย่างมี ความสงบสันติสุข
2. ฝึกเข้มแข็ง : คนเราต้องเข้มแข็งในการกระทำความดี กระทำความถูกต้อง บางครั้งเราก็ต้องฟั นฝ่าอุปสรรคที่เข้ามากระทบเราทั้ งที่มาจากภายในและ ภายนอก
ภายในก็คือจิตใจของเราที่ผ่านกระบวนความคิด ไตร่ตรองว่าควร หรือ ไม่ควรกระทำ
ภายนอกคือบุคคลอื่นโดยเฉพาะคนที่กระทำไม่ดี กำลัง เอาเปรียบ ทำความเดือดร้อนให้สังคม หรือเป็นผู้มีอำนาจทางสังคมเหนือเรา เราควรชี้แนะหรือหาทางช่วยเขาฉุดเขาให้พ้นภาวะการกระทำสิ่ งไม่ดี เราต้อง ฝึกความเข้มแข็งอดทนต่อสู้เอาชนะความไม่ดี
3. ฝึกพอเพียง : พอเพียงในสิทธิหน้าที่ที่เราควรกระทำ ควรให้ และควรได้รับ เป็นการสร้างความสุข ความยินดี ให้เกิดในสังคม เราสามารถสร้างความสุข ชื่นใจ ซึ่งความสุขชื่นใจต่างจากความสุขพึงใจ ความสุขชื่นใจลึกซึ้งกว่า สุข
4.ฝึกยุติธรรม : หากเรามองด้วยจิตใจที่ยุติธรรม เราควรเคารพสิทธิของผู้อื่นที่ เขาพึงมีพึงได้ ไม่เอาเปรียบล่วงละเมิดความมีความเป็นของผู้อื่น หรือหากเรา เห็นผู้ใดกำลังถูกเอาเปรียบ ถูกทำร้าย หรือถูกกระทำให้เดือดร้อน เราใน ฐานะพลเมืองที่มีหน้าที่กระทำความดี ควรผดุงสิทธิความยุติธรรม ความชอบ ธรรมให้เกิดในสังคม ช่วยเหลือเขาผู้นั้นรักษาสิทธิที่ควรรักษา ช่วยกันหาทาง ให้คนไม่ดีได้รับการลงโทษ ตักเตือน เพื่อความชอบธรรม ความสำนึก ความภาคภูมิใจในความเป็นพลเมืองดีของสังคม ให้ทุกคนได้เข้าใจ ยอมรับสิทธิอัน พึงมีซึ่งกันและกันให้เกิดความสงบสุขในสังคมเรา หากสังคมที่เราอยู่อาศัยนี้หย่อนยานและไม่มีมาตรการทางสังคม และดูเหมือนจะขาดสารอาหารที ่ เรียกว่า ความดีงามด้านความเอาใจใส่ต่อเพื่อนมนุษย์ ความดีงามเป็น มารยาท เป็นความรักที่เราควรมอบต่อสังคมที่เราอาศัยอยู ่ เป็นความห่วงต่อสังคมที่ลูกหลานเหลนของเราต้องอยู่อาศัยต่อไป หากเราไม่ต้องการให้ลูก ของเราอยู่ในบ้านที่สกปรก อับชื้น เต็มไปด้วยเชื้อโรค เราก็ต้องช่วยกันทำ ความสะอาดบ้านของเรา หรืออย่างน้อยที่สุดไม่สร้างขยะกองใหม่ขึ้นมา ไม่ว่า ขยะกองนั้นดูเป็นศิลปะแค่ไหน นี่คือความดีงามของทุกชีวิตในสังคม
เอกสารคุณธรรมและจริยธรรมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ปรับจากหนังสือ Discovering the Real Me, Universal Peace Federation Edition
โดย กันยาวีร์ สัทธาพงษ์ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการคุณธรรมและจริยธรรม
1478544
€•••••♠_T“Rôœ³€๛o0L๛_Tom