ชมรมจริยธรรมโรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก>>โชคดีที่ได้ไป เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2550 ก็มีโทรศัพท์จากพี่ปาริชาต (พี่แต๋ง) ว่าคุณหมอหนู (นพ.พงศกร ซึ่งเป็นจิตแพทย์ ของ รพ.พุทธฯ เรา) มาชักชวนให้ไปร่วมเวทีการนำเสนอการอภิปรายเรื่อง “ประสบการณ์บางแง่มุมในการดูแลผู้ป่วยวิกฤตและระยะสุดท้าย” ในการนำเสนอผลงานวิจัยแห่งชาติ ๒๕๕๐ (Thailand Research Expo 2007) ซึ่งจัดงานตั้งแต่วันที่ 7 -11 กันยายน 2550 ณ ศูนย์ประชุมบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ กรุงเทพฯจัดโดย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช/NRCT)จะไปหรือเปล่า???ก็….คิดก่อนแล้วขอคุยกับหมอหนู….หมอส่งรายชื่อวิทยากรแล้วแต่พอดีได้ทราบมาว่าชมรมจริยธรรมโดยคณะกรรมการรวมพลังสร้างสุขใจก็มีการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายต่อเนื่องจนถึงบ้านเลยอยากชวนให้ไปร่วมเวทีด้วย….ด้วยความมีสปิริต ก็ตอบอย่างมีเงื่อนไขเล็กๆว่าต้องขออนุญาตหัวหน้าและช่วยทำเรื่องขออนุญาตเดินทางให้ด้วยถ้าได้ก็ OK. ปรากฏว่าผ่าน…ก็เลยต้องรีบจัดการทำแผ่นพับ ทำPower Point จนเสร็จทัน…เดินทางวันที่ 10 กันยายน 2550 เนื่องจากนำเสนอวันที่ 11 กันยายน 2550 ช่วงบ่าย…..การเดินทางสะดวก ปลอดภัยจนถึงที่พัก…และเดินทางจากที่พักไปที่ที่จัดงานตอนเช้า…..เอาละซี ปัญหารออยู่…เนื่องจากไม่ได้ติดต่อลงทะเบียนวิทยากรไว้จึง ยุ่งยากนิดหน่อยแต่ก็จัดการแก้ได้ด้วยสติ…. ผ่านฉลุย (แต่ก็มีการพูดคุยกับหมอหนูด้วยว่าถ้าคราวหน้าที่เป็นคนอื่นควรจัดการให้เขาก่อนด้วยจะได้ไม่เป็นปัญหา….5555) บรรยากาศในงานยิ่งใหญ่อลังการจริงๆ...มีผู้คนมากมาย สำหรับในห้องนำเสนอก็มีผู้ฟังเต็มห้องและถ่ายทอดไปยังห้องอื่นด้วยเนื่องจากมีผู้ฟังลงทะเบียนไว้ค่อนข้างมาก...ในเรื่องนี้มีการนำทีมโดยนพ.สาโรจน์ สันตยากร เป็น moderator หมอหนู Introduction นำทฤษฏีสู่การปฏิบัติ คุณณัฐชา เจริญภัทราวุฒิ พูดถึงการปฏิบัติกับผู้ป่วยมะเร็งในคลินิกสร้างสุข คุณปัญญา เถื่อนด้วง พูดถึงการดูแลผู้ป่วยใน ICU เพื่อให้เกิดความสุขและตายอย่างมีความสุข สำหรับผู้เขียนบันทึกพูดถึงการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายจากโรงพยาบาลจนถึงบ้านเพื่อให้เกิดความสุข สงบโดยมีเนื้อหาว่า…รวมพลังสร้างสุขใจ โดย คณะทำงานรวมพลังสร้างสุขใจและ ชมรมจริยธรรม โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลกหลักการ• จากการพบเห็นและสัมผัสผู้ป่วยและญาติ• จากการดู/ชมการถ่ายทอดจากสื่อ• จากการศึกษาและอ่านจากตำรา• จากการพูดคุยกันในกลุ่มที่สนใจที่เหมือนๆกัน• เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างทีม วัตถุประสงค์1. เพื่อลดความทุกข์ทรมานทางกายใจให้กับผู้ป่วย2. เพื่อให้ผู้ป่วยและญาติมีความสุขทางจิตวิญญาณ วิธีการ และ รูปแบบการดำเนินงาน• เป็นการจัดกิจกรรมแบบมีส่วนร่วม (บวร)• ทำกิจกรรมกับผู้ป่วยเป็นรายบุคคลและร่วมกับครอบครัว• มีใบเซ็นยินยอมเข้าร่วมกิจกรรม• มีแบบประเมินวัดความทุกข์ทรมานและวัดความผาสุกทางจิตวิญญาณและวัดสิ่งที่ได้จากการสังเกต รูปแบบที่ใช้การทำงานเป็นทีม และการทำงานแบบมีส่วนร่วม ด้านบุคลากร จัดอบรมเสริมความรู้ ความเข้าใจ เทคนิคการสร้างสุข ลดความทุกข์และฝึกปฏิบัติ ภาวนาสมาธิ ด้านผู้ป่วยและญาติ ทีมที่ลงไปจะแนะนำ อธิบาย สอนและปฏิบัติให้ดู และให้ผู้ป่วยและญาติร่วมปฏิบัติตาม โดยมีการสังเกตและประเมินร่วมด้วย กรณีตัวอย่าง 15 รายมะเร็งเต้านม มะเร็งเต้านม มะเร็งตับมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เบาหวาน มีแผลติดเชื้อและตัดขา Cellulitis ติดเชื้อชั้นใต้ผิวหนัง ตับอ่อนอักเสบ ผลที่ได้รับจากกรณีตัวอย่าง 15 ราย ก่อนเริ่มกิจกรรม• ระดับความทุกข์ทางใจอยู่ที่ระดับ 8- 9• ความทรมานทางกาย ประเมินจากการรับประทานยาแก้ปวด ต้องรับประทานทุก 2 - 4 ชม.• การแสดงออกของความทุกข์ จากการสังเกตและพูดคุย จะมีอาการซึมเศร้า เชื่องช้า ไม่พูดไม่คุย รับประทานอาหารไม่ได้ ไม่ค่อยรับรู้สิ่งแวดล้อม นอนไม่หลับ และบ่นอยากตาย หลังดำเนินกิจกรรม• ระดับความทุกข์ทางใจอยู่ที่ระดับ 3 - 4• ความทรมานทางกาย ประเมินจากการรับประทานยาแก้ปวดลดลงและมีความห่างเพิ่มขึ้น• การแสดงออกของความทุกข์ จากการสังเกตและพูดคุย จะมีอาการ ยิ้ม สีหน้าแจ่มใส พูดคุยมากขึ้น รับประทานอาหารและพักผ่อนได้เพิ่มขึ้น ไม่บ่นว่าอยากตายอีก สิ่งที่ Provider ได้ถ่ายทอดออกมา ความรู้สึก : สงสาร เห็นใจ อยากให้ผู้ป่วยและครอบครัว รวมทั้งญาติพี่น้องของผู้ป่วยมีความสุข และมีวาระสุดท้ายของชีวิตที่ถูกวิธี มีสติ ความคิด : อยากทำ อยากช่วยทันทีที่มีคนมาขอร้องและยินยอมให้ทำโดยจะช่วยให้เต็มกำลังความสามารถ และอยากให้เขามีความสุขเหมือนอย่างที่เราประสบมาแล้ว ความคาดหวัง : หวังให้ คน สิ่งแวดล้อมรอบๆตัวและสังคมมีความทุกข์น้อยที่สุด สิ่งที่ได้รับ: เมื่อทำแล้วก็ได้รับความสุขกันทุกฝ่าย จนกระทั่งวันสุดท้ายของเขา (จากคำบอกเล่าและที่สังเกตเห็น) ความภูมิใจ : ได้รู้จักแก่นของศาสนาพุทธที่แท้จริง และขอขอบคุณพระพุทธเจ้าและสาวกทุกๆพระองค์ที่ทำให้ได้รู้ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ไม่มีใครได้อะไรทุกอย่างและไม่มีใครเสียอะไรทุกอย่าง ทุกอย่างเป็นของสมมุติ ถ้าเราชนะตัวเอง ก็จะชนะทั้งตนเองและผู้อื่น <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> และคุณจิตติมา ภูริทัตกุล พูดถึงพลังจักรวาลของคุณย่าเยาวเรศกับการรักษาการแพทย์ทางเลือก เมื่อทีมนำเสนอเสร็จก็มีการซักถาม พูดคุย แนะนำและเสนอแนะกันมากมาย แต่ก็ได้รับความรู้และจัดการความรู้กันไปตามๆกัน.....ขอขอบคุณกลุ่มงาน ศูนย์สุขภาพเมือง ชมรมจริยธรรมและโรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลกที่ให้โอกาสนำสิ่งดีๆออกไปสู่เครือข่ายภายนอก.....</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>หมอหนู น้องแต๋ม พี่ญา Kead และน้องแมว
ขอบคุณป้าเนียรค่ะที่แวะเข้ามาเยี่ยม....
ขอให้พรนั้นกลับสู่ป้าเนียรด้วยน่ะค่ะ